แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 99

ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งเข้าไปใกล้ ไม่ต้องรอให้นางถาม นางก็ได้คำตอบจากเสียงซุบซิบของพวกชาวบ้านแล้วล่ะ

สีหน้าของนางมืดมนลง ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้หยุดรอหน้าบ้าน และไม่ได้ดูสายตาของชาวบ้านที่กำลังสอดส่องเข้ามาอย่างสงสัย ก็เดินเข้าบ้านตระกูลจางทันที

ตอนนี้ภายในลานบ้าน จางเอ้อฉวนทั้งบ้านนั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกันกับจางเสี่ยวเหม่ย แต่กลับไม่เห็นพวกจางเอ้อหลาง

พอเห็นลั่วเสี่ยวปิงเข้ามา พวกจางเอ้อฉวนทั้งบ้านไม่ก็นั่งเงียบอยู่ตรงนั้น ไม่ก็ยิ้มแห้งๆอย่างฝืนใจกับลั่วเสี่ยวปิง บรรยากาศดูอึดอัดมาก

ลั่วเสี่ยวปิงสังเกตไปบนตัวของจางเสี่ยวเหม่ย จางเสี่ยวเหม่ยที่กำลังจับแขนเสื้อตัวเองอย่างหวาดกลัว นางดูหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด

จะว่าไปแล้ว อายุน้อยอย่างนาง สำรวจได้ถึงความผิดปกติในบ้าน

ระหว่างจางต้าหลางกับเมี่ยวชุ่ยหลานที่ทะเลาะกับถึงขั้นนี้ มีผลกระทบกับจางเสี่ยวเหม่ยใหญ่ที่สุดในระดับหนึ่ง เพราะยังไงต่อไปจางเสี่ยวเหม่ยก็จะกลายเป็นเด็กที่ไม่มีแม่แล้ว

แต่ลั่วเสี่ยวปิงกลับไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่ดีอะไร เพราะยังไงคนอย่างเมี่ยวชุ่ยหลาน ยังไม่พูดเรื่องที่นางรักลูกชายมากกว่าลูกสาว ไม่ชอบแถมยังดูถูกลูกสาวอย่างจางเสี่ยวเหม่ย นิสัยอย่างนาง ถ้าอยู่ที่บ้านตระกูลจางต่อไป จางเสี่ยวเหม่ยคงได้เสียเวลาอันมีค่าไปอีกเยอะแน่

แต่ว่าตอนนี้มีลูกสองคน ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่อยากเห็นจางเสี่ยวเหม่ยที่มีท่าที่น่าสงสารแบบนี้ นางจึงมองไปยังอานอานเล่อเล่อ บอกพวกเขาด้วยสายตาว่าให้พาจางเสี่ยวเหม่ยออกไปเล่นหน่อย

อานอานเล่อเล่อเฉลียวฉลาดกว่าเด็กที่อายุเท่ากันอยู่แล้ว ได้รับสายตาของท่านแม่แล้วก็รู้เลยว่าต้องทำอะไรต่อไป จึงวิ่งไปทางจางเสี่ยวเหม่ย

“พี่เสี่ยวเหม่ย พวกเราไปเล่นพ่อแม่ลูกกันไหม?” เล่อเล่อมองดูจางเสี่ยวเหม่ยแล้วยิ้มหวาน

อานอาน: “……” ไม่เล่นปัญญาอ่อนแบบนี้ได้ไหม?

นัยน์ตาของอานอาน ตอนนี้มีแต่คำว่ารังเกียจเขียนเต็มไปหมด

แต่เห็นจางเสี่ยวเหม่ยที่ตอนแรกยังน่าสงสารอยู่พอได้ยินคำว่าเล่นพ่อแม่ลูก สายตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที อานอานก็เลยกลืนคำพูดที่จะปฏิเสธลงไปอีกที

ช่างเถอะ เขาดูพวกนางเล่นก็ได้

ดังนั้น เด็กสามคนก็เดินไปตรงมุมบ้านโดยไม่นึกถึงความเศร้าเลย

และในตอนนี้เอง ภายในบ้านก็มีเสียงตะคอกอย่างโมโหของจางเอ้อหลางดังขึ้น

“พี่ใหญ่ เรื่องนี้จะปล่อยไปง่ายๆได้ยังไง พวกมันตระกูลเมี่ยวรังแกคนเกินไปแล้ว ถ้าพวกเราไม่ทำอะไรเลย พวกมันตระกูลเมี่ยวจะคิดว่าพวกเราตระกูลจางไม่มีคนนะ”

เสียงของจางเอ้อหลาง เห็นได้ชัดว่าพวกจางเอ้อฉวนได้ยินทั้งหมด

จางเอ้อฉวนลุกขึ้น อยากเข้าไปดูในห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่กลับถูกป้ารองตระกูลจางขวางเอาไว้ก่อน

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูพวกเขาแล้วเข้าไปในห้อง

แต่ทว่ากำลังก้าวเดินออกไป ไหล่ของนางก็ถูกกดไว้ มือใหญ่ข้างหนึ่งวางไว้บนไหล่ของนาง

ลั่วเสี่ยวปิงเงยหน้าขึ้น ก็สบตากับเข้ากับดวงตาที่สุขุมเงียบสงบและลึกซึ้งของฉีเทียนเห้าอย่างไม่เข้าใจ

ฉีเทียนเห้าเห็นท่าทีที่ไม่ค่อยฉลาดของลั่วเสี่ยวปิง ก็อดไม่ได้ถอนหายใจ ต่อมาก็ถึงพูดว่า “ข้าเข้าไปกับเจ้าด้วย”

ห้องของผู้ชาย ถึงแม้จะมีคนอื่นอยู่ นางเป็นผู้หญิงจะเข้าไปได้ยังไงกัน?

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้คิดอะไรมาก แค่พยักหน้าตกลง

“เอ้อหลาง พี่ไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่หย่าร้างด้วยดีกับการปลดภรรยาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก ยังไงต่อไปพวกเราก็แยกย้ายกันแล้ว มีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อยไปด้วย”

ลั่วเสี่ยวปิงเข้าไปในห้อง ก็ได้ยินคำพูดนี้ของจางต้าหลางพอดี

มองไปที่สภาพของจางต้าหลางอีกที ถึงแม้จะผ่านไปแค่คืนเดียว แต่เขาก็ดูทรุดโทรมไปเยอะมาก เหมือนเป็นมะเขือยาวที่บอบช้ำ ท่าทางทรุดโทรม สีหน้าซีดเซียว

แต่ว่าได้ยินคำนี้ของจางต้าหลาง นัยน์ตาของลั่วเสี่ยวปิงกลับประกายไปด้วยความดุดัน

เห็นได้ชัดว่า จางต้าหลางอยากจะยุติความขัดแย้งนี้และยอมรับความเสียหายไว้เอง

แต่ทว่า หย่าร้างด้วยดีกับปลดภรรยา ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

ปลดภรรยา นั่นเป็นเพราะฝ่ายหญิงผิด มีฝ่ายชายปลดให้กลับบ้านแม่ไป นั่นจะเป็นเรื่องน่าอับอายของตระกูลแถมยังถูกคนนินทาอีกด้วย

แต่ถ้าเป็นหย่าร้างด้วยดี เป็นวิธีการที่ค่อนข้างปรองดอง ผู้หญิงที่หย่าร้างด้วยดีในสายตาคนอื่นแล้ว ตำแหน่งจะสูงกว่าการปลดภรรยาอยู่มาก อยากมาบ้านสามีก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากด้วย

แต่ว่า เมี่ยวชุ่ยหลานชอบก่อเรื่องนับครั้งไม่ถ้วน ควรจะปลดภรรยาตั้งนานแล้ว

และในยุคสมัยนี้ ปลดภรรยาไม่ง่ายเหมือนการเขียนหนังสือปลดภรรยา

เพราะยังไงถ้าหนังสือปลดภรรยาฉีกขาดหรือเสียหายขึ้นมา อีกฝ่ายก็จะสามารถเบี้ยวไม่ยอมรับได้

ดังนั้นมีกฎว่า การจะปลดภรรยา ไม่ก็ต้องผ่านการอนุญาตจากท่านอาวุโสในตระกูลก่อน หรือไม่ก็ไปยื่นลงบันทึกที่ศาล

ตอนที่จางต้าหลางเอาหนังสือปลดภรรยาไปที่บ้านตระกูลเมี่ยวไม่ได้พาท่านอาวุโสในตระกูลไปด้วย เขาไม่อยากทำให้เรื่องใหญ่โตจนเมี่ยวชุ่ยหลานต้องอับอายขายขี้หน้า จางต้าหลางไว้หน้าเมี่ยวชุ่ยหลานที่สุดแล้ว

ตอนแรกจางต้าหลางอยากจะส่งหนังสือปลดภรรยาไปก่อนแล้วค่อยไปลงบันทึกที่ศาล แต่ตระกูลเมี่ยวไม่เพียงแต่ฉีกหนังสือปลดภรรยาทิ้งไป ยังซ้อมทำร้ายร่างกายจางต้าหลางจนขาหักอีก

แต่คนของตระกูลเมี่ยว เพราะกลัวว่าขาของจางต้าหลางอาจจะพิการกลัวว่าจางต้าหลางจะทำให้พวกเขาเดือดร้อน จึงรีบเข้าเมืองไปลงบันทึกการหย่าร้างด้วยดี ตอนเช้าตรู่ก็สั่งคนมาส่งหนังสือหย่าร้างด้วยดี ทำพร้อมกันทั้งสองที่

การกระทำเช่นนี้ ไม่ใช่การรังแกคนเกินไปแล้วมันคืออะไร?

แต่ว่าเรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว จางต้าหลางยังอยากปล่อยเรื่องนี้ไป ทำเอาลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกโกรธมาก

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เมี่ยวชุ่ยหลานผู้หญิงแบบนี้คุ้มค่ากับการปกป้องของพี่ต้าหลางเหรอ?

“พี่ต้าหลางจะปล่อยไปง่ายๆแบบนี้เหรอ?” ลั่วเสี่ยวปิงเดินไปข้างหน้า มองหน้าจางต้าหลาง

จางต้าหลางเห็นลั่วเสี่ยวปิงเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นจากเตียง แต่กลับถูกลั่วเสี่ยวปิงพูดตัดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสียก่อน “ถ้าเจ้าไม่อยากให้ขาบาดเจ็บหนักกว่านี้ ทางที่ดีอย่างขยับเลยดีกว่า”

ได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง จางต้าหลางก็ไม่กล้าขยับอีก

“เสี่ยวปิง พี่ต้าหลางขอบใจเจ้ามากเลยนะ ถ้าไม่ได้เจ้า……” จางต้าหลางอยากจะขอบคุณลั่วเสี่ยวปิงเรื่องขาของตัวเอง

เมื่อวานเขารู้สึกสิ้นหวังมาก

เพราะยังไงหากพิการแล้วก็จะเดินไม่สะดวก ทำอะไรก็สู้คนอื่นไม่ได้

ปีก่อนๆในหมู่บ้านก็มีคนพิการคนหนึ่งเพราะทำงานหนักไม่ได้จึงยากจนลงไปทุกวัน สุดท้ายก็ต้องอดยากจนตาย

ตอนที่คนในหมู่บ้านมาเห็น ก็ตายไปหลายวันแล้วด้วย

ตอนที่จัดงานศพให้เขา ทุกคนกลับเห็นว่าในบ้านเขาไม่มีอาหารเลย

ดังนั้น พอรู้ว่าขาตัวเองยังรักษาให้หายได้ จางต้าหลางก็รู้สึกขอบคุณลั่วเสี่ยวปิงมาก

แต่ทว่า ไม่รอจางต้าหลางพูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็ถามคำถามเมื่อกี้อีกครั้ง “พี่ต้าหลางอยากจะปล่อยเรื่องนี้ไปจริงๆเหรอ?”

จางต้าหลางโง่แค่ไหน ตอนนี้ก็ดูออกว่าสีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงค่อนข้างแย่ จึงไม่รู้ว่าควรตอบยังไงดี

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นจางต้าหลางเป็นแบบนี้ ก็พูดว่า “พี่ต้าหลางจะทำให้ท่านป้าและคนอื่นๆเสียใจเพราะผู้หญิงแบบนั้นเหรอ? คุ้มแล้วเหรอ? ถึงจะหย่าร้างด้วยดี แต่ขาของ พี่ต้าหลางจะหักโดยเปล่าประโยชน์แบบนี้เหรอ หรือว่าจะให้ท่านลุงกับท่านป้าเป็นห่วงใจตัวพี่อย่างเปล่าประโยชน์แบบนี้เหรอ?”

ลั่วเสี่ยวปิงถามจางต้าหลางด้วยน้ำเสียงดุดัน ในพจนานุกรมของนางไม่มีคำว่า ‘ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง’ หรอกนะ

ตอนนี้นางจะดูว่าจางต้าหลางจะพูดยังไง

ถ้าจางต้าหลางยังตัดสินใจว่าไม่ทำอะไร นางคงจะผิดหวังน่าดู

เพราะยังไงรู้จักกันมานานขนาดนี้ บวกกับความทรงจำเก่าๆของเจ้าของร่างเดิม นางก็คิดว่าพวกเขาเป็นครอบครัวของนางไปนานแล้ว

แต่ว่า นางรับไม่ได้กับผู้ชายที่อ่อนแอรังแกง่ายไม่มีเลือดความเป็นผู้ชายของตัวเอง หากจางต้าหลางเลือกที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป ต่อไปนางจะไม่ยุ่งเรื่องของจางต้าหลางอีกเลย และจะไม่ให้ความสำคัญกับเขาแล้วด้วย

แน่นอนว่า บัญชีทางเมี่ยวชุ่ยหลาน นางจะต้องชำระแค้นนี้แน่นอน

เพราะยังไงเมี่ยวชุ่ยหลานไม่ได้ก่อกวนนางแค่ครั้งสองครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้เพื่อไว้หน้าท่านป้านางไม่ได้ว่าอะไรเมี่ยวชุ่ยหลาน แต่ตอนนี้เมี่ยวชุ่ยหลานกับท่านป้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว นางไม่มีทางปล่อยเมี่ยวชุ่ยหลานไปง่ายๆแน่

หนี้เก่าหนี้ใหม่ นางจะชำระวันนี้ให้หมดทีเดียวเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง