ตอนที่ 17 พระชายาดุจัง
ชิงเหมยให้เหล่าสาวใช้นำของที่หมิงเอ๋อร์ส่งมาไปเก็บทั้งหมด เหลือเพียงหมิงเอ๋อร์กับพวกคุกเข่าอยู่ที่เดิม
หมิงเอ๋อร์มองดูแผ่นหลังของเจียงเว่ยหว่านที่เดินจากไป สองมือกำแน่นด้วยความแค้น ดวงตาแจ่มกระจ่างแต่แอบฉายแววอาฆาตรุนแรง
เจียงเว่ยหว่านกลับถึงห้องนอน ชิงเหมยช่วยนางจัดเก็บเสื้อผ้าแพรพรรณ พลางกล่าวด้วยความกังวลใจ “คุณหนู หมิงเอ๋อร์เป็นสาวใช้คนสนิทของท่านอ๋อง ท่านล่วงเกินนางเช่นนี้ สมคงจะไปใส่ไคล้ท่านต่อหน้าท่านอ๋องอีก”
“อ้อ?” คิ้วงามของเจียงเว่ยหว่านขมวดเล็กน้อย ถามยิ้ม ๆ ว่า “เซียวจิ้งเป่ยจะฟังสาวใช้เป่าหูเชียวหรือ?”
ชิงเหมยวางแพรพรรณในมือลง พร้อมกับทำเสียงจุ๊ปากใส่เจียงเว่ยหว่าน
“คุณหนู ท่านไม่รู้อะไร หมิงเอ๋อร์ไม่ใช่สาวใช้ธรรมดา หากแต่เป็นบุตรีของแม่นมท่านอ๋อง โตมากับท่านอ๋องมาแต่เล็กแต่น้อย ไม่เพียงเล่นหัวกันมา ยังได้รับความเห็นชอบจากไทเฮา อีกหน่อยจะได้เป็นพระชายารองของจวนอ๋องฉิน”
ชิงเหมยกรอกตาเล็กน้อย แน่ใจว่าไม่มีใครแอบฟังจึงได้กล่าวต่ออีก “จวนอ๋องฉินไม่มีนายหญิง หมิงเอ๋อร์จึงถือวิสาสะวางตัวเป็นนายพร้อมกับดูแลกิจการใหญ่น้อย หากท่านเป็นศัตรูกับนาง นางต้องหาโอกาสแก้แค้นท่านแน่”
เจียงเว่ยหว่านเม้มปากเล็กน้อย พลางปรากฏรอยยิ้มหยัน “อย่างงี้นี่เอง!”
ที่แท้ก็เพราะผ่านความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ มิน่าถึงได้วางมาดเป็นนายหญิง เซียวจิ้งเป่ยก็ช่างมีหญิงสาวรายล้อมมากมายเสียเหลือเกิน
ชิงเหมยเห็นคุณหนูนิ่งเงียบ คิดว่าเจียงเว่ยหว่านคงกลัว จึงได้กล่าวเสียงเบาอีก “คุณหนู ทีหน้าทีหลังอย่ามีเรื่องกับนางจะดีกว่า”
เจียงเว่ยหว่านมองดูรอยแผลบนใบหน้าของชิงเหมย ก็ให้รู้สึกเห็นใจนัก สาวใช้คนนี้ถูกรังแกจนแทบย่ำแย่ ยังสู้อดทนเพื่อนางอีก ไม่ยุยงซ้ำยังปลอบใจนาง ช่างเป็นสาวใช้ที่ดีจริง ๆ
ในยุคสมัยที่ชายมีฐานะสูงส่งกว่าหญิง สตรีได้แต่พึ่งพิงฝ่ายชาย ใครเป็นคนโปรด ก็จะได้ถืออำนาจอยู่เรือนใน
เจียงเว่ยหว่านยิ้มเล็กน้อย มองดูชิงเหมยและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าไม่กลัวนางหรอก เจ้าอย่ากังวลไปนักเลย แค่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี พวกนางคงไม่กล้ามาหาเรื่องอีก”
“อึม” ชิงเหมยรับคำหนักแน่น
เจียงเว่ยหว่านตรวจดูบัญชีรายเดือน นับไปนับมา ยังไงก็เหมือนขาดไปครึ่งเดือน นางเป็นพระชายา เงินของเรือนในล้วนอยู่ที่นาง แต่หมิงเอ๋อร์กลับให้เพียงเศษเงินเล็กน้อย แต่นางก็ไม่รีบร้อนจะเล่นงานหมิงเอ๋อร์ ปลอยให้ลิงโลดไปซักสองวันก่อน เพราะนางมีงานสำคัญกว่านี้ที่ต้องทำ
นั่นก็คือหาวิถีแห่งการยังชีพ
ในเมื่อโรงหมอไม่รับนาง งั้นก็เปิดโรงหมอเสียเองจะเป็นไรไป
เจียงเว่ยหว่านคิดคำนวณค่าใช้จ่าย จากนั้นก็ไปห้องตำราหาหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคนี้มาดู ศึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่าง ๆ
เจียงเว่ยหว่านอ่านหนังสือจนถึงยามเย็น ท้องฟ้าจะมืดก็ไม่มืด ดูคล้ายแสงสีทองของอาทิตย์อัสดงพาดผ่าน ให้ทั้งโลกเลือนรางสลัวราวกับอยู่ในความฝัน
นางกำลังชื่นชมแสงงามของยามสนธยา ฉับพลันชิงเหมยก็วิ่งปรี่เข้ามา
“คุณหนู เกิดเรื่องใหญ่ แย่แล้วเจ้าค่ะ”
เจียงเว่ยหว่านกระตุกในใจเล็กน้อย รีบวางหนังสือในมือลง พร้อมกับลุกขึ้นและเดินออกไป
ชิงเหมยมาอยู่เบื้องหน้า มือกุมหน้าอกพร้อมพูดอย่างเหนื่อยหอบ “แย่แล้วเจ้าค่ะ ภาพเขียนในห้องตำราท่านอ๋องถูกคนทำลาย แม่นางเยียนเอ๋อร์กับหมิงเอ๋อร์ต่างบอกว่าเป็นฝีมือท่าน ท่านอ๋องกำลังพาคนมาที่นี่เจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงเคียงบัลลังก์
ไม่่เขียนต่อแล้วเหรอคะ...