แพทย์หญิงเคียงบัลลังก์ นิยาย บท 19

 ตอนที่ 19 นังเด็กบ้านนอก

 เจียงเว่ยหว่านหรี่ตาเล็กน้อย มองดูชายหนุ่มซึ่งเกรี้ยวกราดอยู่เบื้องหน้า ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย สิ่งที่เซียวจิ้งเป่ยเคยรับปากไว้ได้ลืมเลือนไปหมดสิ้นแล้ว

นางแอบยิ้มหยันในใจ ตอบโต้ด้วยน้ำเสียงที่แข็งยิ่งกว่า “ท่านอ๋อง ข้าพูดผิดตรงไหนกัน นางเป็นแค่คนนอกมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ข้า?”

ใบหน้างดงามของหลี่เยียนเอ๋อร์เต็มไปด้วยความน้อยใจ พร้อมน้ำตาคลอเบ้า

“ท่านอ๋อง พระชายาโกรธแล้วยังพาลอีก”

เรื่องภาพเขียนของชายาเดิมถูกทำลาย เซียวจิ้งเป่ยก็โกรธเคืองมากแล้ว ซ้ำตอนนี้เขายังบาดเจ็บอยู่ ร่างกายเริ่มจะทนไม่ไหว บวกกับอารมณ์โกรธจึงยิ่งเจ็บปวดไปทั้งตัว

ยิ่งมองดูหญิงผู้นี้ที่ปากคอเราะร้าย ท่าทางยโสโอหัง ถึงนางจะไม่ได้ทำอะไร ท่าทีก็ควรอ่อนลงบ้าง และอธิบายเรื่องราวให้รู้

กลับกลายเป็นยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ จนทำให้เขาแทบจะเหลือทน

ตอนนี้ในใจเขามีเพียงความคิดเดียว ก็คือหญิงผู้นี้หยิ่งจองหองนัก โกรธจนพาลไปถึงคนอื่น

อีกทั้งหลายปีนี้ภาพเขียนก็ไม่เคยถูกใครแตะต้อง พอเจียงเว่ยหว่านเข้าจวนมา ภาพก็เสียหายทันที หากไม่ใช่นางแล้ว เขาก็นึกไม่ออกว่าใครจะมีเรื่องบาดหมางกับตน

เขาสูญเสียมารดาตั้งแต่อายุยังน้อย อาศัยเพียงภาพเขียนที่จะรำลึกถึงใบหน้าของท่านแม่

และตอนนี้ภาพเขียนหนึ่งเดียวก็ถูกทำลายไปสิ้น

เขาไม่อาจรับได้จริง ๆ และไม่อาจอยู่เฉยด้วย

ยิ่งนึกถึงท่าทีของเจียงเว่ยหว่าน เซียวจิ้งเป่ยก็ยิ่งเดือดดาลเหลือจะกล่าว เขาพยายามระงับความโกรธในใจ กล่าวเสียงเย็นว่า “เด็ก ๆ นำพระชายาไปมัดไว้ และโบยตียี่สิบครั้ง”

สิ้นเสียงลง ดวงตาของเจียงเว่ยหว่านก็เต็มไปด้วยความโกรธ มือเรียวยาวกำหมัดแน่น โทสะคุกรุ่นจนยากจะระบาย นางคิดว่าเป็นไงก็เป็นกัน จึงหันไปทางท่านอ๋องและกล่าวว่า “เซียวจิ้งเป่ย จะมากไปแล้วนะท่านเชื่อฟังคำใส่ไคล้ของหลี่เยียนเอ๋อร์ จนมาลงโทษข้างั้นหรือ?”

ใบหน้าเซียวจิ้งเป่ยกระตุกเล็กน้อย และกล่าวว่า “จวนอ๋องของข้าอยู่สงบมาโดยตลอด แต่พอเจ้ามาก็วุ่นวายไม่หยุด ไม่เรื่องโน้นก็เรื่องนี้ หากไม่เพราะเจ้าก่อเหตุ ไหนเลยจะมีเรื่องยุ่ง ๆ ถึงเพียงนี้?”

ใบหน้าของพวกหลี่เยียนเอ๋อร์ฉายแววพึงพอใจ นึกถึงว่าเจียงเว่ยหว่านจะถูกโบย ก็ให้รู้สึกสะใจนัก เพียงแต่ชั่วพริบตา แต่ละคนก็เผยท่าทีเห็นอกเห็นใจออกมาแทน

“ท่านอ๋อง ช่างเถอะเพคะ คิดว่าพระชายาคงไม่ได้ตั้งใจ ท่านก็ให้อภัยซักครั้งเถอะนะ” หลี่เยียนเอ๋อร์แสร้งทำเป็นอ้อนวอนแทนเจียงเว่ยหว่าน

เจียงเว่ยหว่านหลับตาลงเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจลึก ๆ พอลืมตาขึ้น ก็มองดูเซียวจิ้งเป่ยด้วยความผิดหวัง พร้อมกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้ามีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้ทำลายภาพเขียนนี้”

“หลักฐาน?” เซียงจิ้งเป่ยเบิ่งตาโต มองดูนางด้วยความเย้ยหยัน “หลักฐานที่เจ้ากุขึ้นมา นึกว่าข้าจะเชื่องั้นหรือ?”

เจียงเว่ยหว่านเหยียดริมฝีปาก พร้อมกับยิ้มเย็น “ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้แกล้งโกหกว่ามีหลักฐาน หากแต่เป็นของจริง”

หลี่เยียนเอ๋อร์รีบเปลี่ยนสีหน้าทันที พลางถามอย่างยิ้มแย้ม “พระชายา มีหลักฐานอะไรก็รีบว่ามาเถอะ อย่าให้ต้องบาดหมางกับท่านอ๋องเลยนะ หม่อมฉันจะรู้สึกไม่สบายใจด้วย”

เจียงเว่ยหว่านมองดูความเสแสร้งของหลี่เยียนเอ๋อร์ ก็ให้รู้สึกนึกขำ พร้อมกับเหยียดนางด้วยสายตา “ถ้าข้ากับท่านอ๋องหมางใจ มิเท่ากับเข้าทางเจ้าหรอกหรือ?”

หลี่เยียนเอ๋อร์รีบทำหน้าสลด พลางเม้มปากกล่าวอย่างน้อยใจ “พระชายา ทำไมมองคนในแง่ร้ายอย่างงั้นล่ะ”

นางจ้องมองเซียวจิ้งเป่ยด้วยน้ำตาคลอเบ้า สายตาส่อแววเสียใจอย่างสุดซึ้ง ดูแล้วน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง

เซียวจิ้งเป่ยเตือนสติเจียงเว่ยหว่านด้วยความเย็นชา “เจ้ามีหลักฐานอะไร อย่ามัวเสียเวลาอีกเลย ข้าไม่ว่างฟังเจ้าเพ้อเจ้อหรอกนะ”

เจียงเว่ยหว่านเห็นชายหนุ่มเบื้องหน้าแสดงท่าทีต่อนางและหลี่เยียนเอ๋อร์แตกต่างโดยสิ้นเชิง ก็ให้รู้สึกไม่พอใจนัก เพราะอย่างไรเสียนางก็เป็นภรรยาเอก แม้จะไม่มีความรัก อย่างน้อยก็ควรให้เกียรตินางบ้างตามสัญญาถึงจะถูก

กลับกลายเป็นว่าเขาเห็นนางเป็นตัวอะไร?

เครื่องมือที่จะหลอกใช้อย่างงั้นหรือ?

เจียงเว่ยหว่านก็เริ่มมีโทสะขึ้นมาบ้าง นางพยายามอดกลั้นต่อความโกรธ พูดใส่เซียวจิ้งเป่ยอย่างหงุดหงิดว่า “หลักฐานก็อยู่ที่ภาพเขียนนี้แล้ว”

นางชูภาพเขียนขึ้นพร้อมกับเดินช้า ๆ ไปยังมุมมืดของเรือนที่มีกิ่งไม้บังอยู่

เซียวจิ้งเป่ยมองดูนางด้วยความเย็นชา ส่วนหลี่เยียนเอ๋อร์ หมิงเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ต่างก็มองหน้ากันและกัน พร้อมกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “พระชายาจะทำอะไรกันแน่?”

“ภาพเขียนจะมีอะไร? พระชายาจะเล่นตลกหรืออย่างไร?”

“ใครจะไปรู้ นับแต่นางแต่งงานมา ในจวนก็ไม่เคยอยู่สงบอีก ข้าว่านางคงเป็นตัวกาลกิณี ไปถึงไหนก็วุ่นวายถึงนั่นเป็นแน่แท้”

รู้ว่าทุกคนต่างกล่าวหาให้ร้าย เจียงเว่ยหว่านก็มิได้นำพา ยังคงเดินไปยังมุมมืด พร้อมชูภาพเขียนขึ้น กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ทุกคนเชิญเบิ่งตาดูให้ดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงเคียงบัลลังก์