แพทย์หญิงเคียงบัลลังก์ นิยาย บท 4

            ตอนที่ 4 ท่านอ๋อง พวกเราหย่ากันเถอะ

          “อะไรน่ะ?” เจียงเว่ยหว่านขยี้ตาตัวเอง มองชิงเหมยที่กำลังร้อนรนด้วยความเหลือเชื่อ “เขาตายแล้วไม่ใช่หรือ? กลับมาได้เยี่ยงไร?”

นางรู้สึกมึนงง สามีที่ไม่เคยเห็นหน้าตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?

ฟื้นคืนชีพหรือ?

หากนางไปจากจวนอ๋องโดยไร้เงินไร้อำนาจและไร้สถานะทางทะเบียนอันใหม่ เช่นนั้นทุกอย่างก็จะยากไปหมด เวลานี้นางจำต้องอยู่ในจวนอ๋องก่อน แต่เขาดันกลับมา นางจะเผชิญหน้ากับเขาเช่นไร?

ระหว่างที่นางกำลังครุ่นคิด ชิงเหมยก็เร่งเร้านางว่า “คุณหนู เห็นเล่ากันว่ามีคนช่วยท่านอ๋องไว้ ส่งข่าวผิดจึงกลายเป็นว่าท่านอ๋องเสียชีวิตแล้วอะไรทำนองนั้น โธ่เอ้ย! บ่าวก็เล่าไม่ถูก ท่านรีบไปต้อนรับท่านอ๋องเถิด”

ก็ได้

หากอยู่ในจวนอ๋อง นางก็ต้องเจอเซียวจิ้งเป่ยไม่วันใดก็วันหนึ่งแน่

เจียงเว่ยหว่านไปเปลี่ยนชุดสีฟ้าอ่อนในห้องแล้วไปพบหน้าเซียวจิ้งเป่ยที่ห้องโถง

ห้องโถงอันกว้างใหญ่ในจวนอ๋อง เซียวจิ้งเป่ยนั่งในตำแหน่งหลักด้วยใบหน้าเย็นชา เขากำลังรับรายงานเรื่องจวนอ๋องจากเลขานุการโจว สตรีที่นามว่าหลี่เยียนเอ๋อร์ ผู้ที่ช่วยชีวิตเขาในชายแดนภาคเหนือก็นั่งฟังเงียบๆข้างกายเขาด้วย

เจียงเว่ยหว่านเดินเข้ามายังห้องโถงด้วยท่วงท่างดงาม นางก็เห็นใบหน้าหล่อที่ทำให้โลกตะลึงแต่ไกล

ทันใดนั้นดวงตาสุกใสของเจียงเว่ยหว่านก็มืดครึ้มลง

บุรุษที่นั่งด้านในไม่ใช่คนที่นางช่วยชีวิตเมื่อคืนหรอกหรือ?

เขากับสตรีผู้นี้ไม่ใช่สามีภรรยากันหรือ?

หากเป็นสามีภรรยากันจริง แล้วนางเป็นตัวอะไร?

เจียงเว่ยหว่านมองคนในห้องโถงด้วยความเดือดดาล

เซียวจิ้งเป่ยบาดเจ็บสาหัส แต่ยามนี้เหมือนไม่เป็นอะไร นั่งตัวตรงอยู่ด้านในห้องโถง

อาภรณ์สีขาวนวล ประกอบกับใบหน้าไร้ที่ติของเขา เขาเหมือนเทวดาจุติลงมาอย่างไรอย่างนั้น กลิ่นอายสูงศักดิ์แผ่ซ่านทั่วเรือนร่าง 

และมองไปยังสตรีที่กำลังยิ้มอย่างงดงามข้างกายเขา ระหว่างคิ้วอัดแน่นไปด้วยความรักใคร่ ท่าทางอรชรอ้อนแอ้นเคียงข้างเขาแล้ว ประหนึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุขในชีวิต

เจียงเว่ยหว่านรู้สึกโดนสวมเขาทันที นางกำหมัดแน่น ผู้ชายคนนี้รู้ว่าตัวเองมีภรรยาแล้วใช่หรือไม่

แต่กลับมีเล็กมีน้อยข้างนอก ทั้งยังพากลับจวนอ๋องอีกด้วย เช่นนี้นหมายความว่าอย่างไร?

ท้าทายตำแหน่งของนางหรือ?

นางที่หวังว่าจะเตรียมความพร้อมก่อนไปผจญภัยในโลกกว้างที่จวนอ๋องก่อน เห็นทีคงไม่ได้ซะแล้ว

ผู้ชายอย่างอ๋องฉินควรอยู่ห่างๆ คงต้องหย่ากับเขาแล้วละ

นางพยายามระงับเพลิงโทสะในใจ กระแอมเสียงเบา

“แค่กๆ...”

พวกเซียวจิ้งเป่ยได้ยินเสียงก็หันไปเห็นสตรีอัปลักษณ์ผ่านม่านไขมุก นางเดินเหินด้วยมีจังหวะ ถึงแม้หน้าตาจะขี้เหร่มาก แต่ก็มีสง่าราศี มีเสน่ห์เฉพาะตัว

“ท่านอ๋อง เมื่อวานหม่อมฉันเพิ่งแต่งเข้ามา วันนี้ท่านก็พาอนุภรรยาเข้าจวนแล้วหรือ?” นางพูดเสียงแย้มยิ้มดั่งสายลมวสันตฤดู ทว่าคำพูดกลับเผยพลานุภาพและจองหองยิ่ง

ลือกันว่าเจียงเว่ยหว่านคือคนไร้การศึกษา ขี้เหร่ แต่งตัวไม่เป็น ทั้งยังปอดแหกอีกด้วย เมื่อเอาคำรายงานของเลขานุการโจวมาพิเคราะห์แล้ว สตรีตรงหน้าใจเสาะที่ไหน นอกจากขี้เหร่ตรงคำร่ำลือแล้ว นอกนั้นก็ไม่ตรงสักข้อ

นางจองหองเช่นนี้ ทั้งยังสามารถทำให้คนรอบข้างยำเกรงได้อีก เซียวจิ้งเป่ยแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของนาง นึกสนุกขึ้นมา อมยิ้มแล้วเลิกคิ้วมองเจียงเว่ยหว่าน

“เจ้าคือพระชายาที่แต่งเข้ามาเมื่อวานหรือ?”

“เพคะ”

เซียวจิ้งเป่ยได้ยินเสียงนางแล้วก็รู้สึกคุ้นๆ ดวงตาเปล่งประกายแสงเจิดจ้าดั่งดวงดาวจ้องหน้านาง อยากหาเบาะแสบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยกระของนาง

หลี่เยียนเอ๋อร์เดินทอดน่องไปหาเจียงเว่ยหว่าน ก่อนจะยอบกายคำนับอย่างอ่อนช้อย

“หม่อมฉันถวายบังคมท่านพี่เพคะ”

ท่านพี่?

เมียหลงกับเมียน้อยในยุคโบราณเรียกอีกฝ่ายว่าพี่น้องนี่นา!

ดวงตางดงามของเจียงเว่ยหว่านหรี่ลง มองสตรีตรงหน้าที่สวยได้มาตรฐาน สตรีผู้นี้ยิ้มแย้มเหมือนไร้พิษสง ทว่าสัญชาตญาณบอกว่าไม่ใช่คนดี

หลี่เยียนเอ๋อร์หมายจะดึงมือเจียงเว่ยหว่านอย่างสนิทสนม

เจียงเว่ยหว่านถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เว้นระยะห่างกับอีกฝ่าย พลางมองสำรวจสตรีที่กำลังยิ้มละมุนละไมตรงหน้า

หลี่เยียนเอ๋อร์เอื้อมมือไปแล้วเจียงเว่ยหว่านไม่ตอบสนอง นางหันไปยิ้มหน้าเจื่อน “ท่านอ๋อง ท่านพี่ทำตัวห่างเหินกับหม่อมฉันเพคะ”

ดวงตาคู่งามของเจียงเว่ยหว่านหรี่ลง มองสตรีงามหยาดเยิ้มตรงหน้าด้วยแววตาเย็นยะเยือก

“ใครเป็นพี่เจ้า? จะเรียกพี่ส่งเดชได้อย่างไร?” ท่าทางของนางเย็นชายิ่ง “สถานะเช่นเจ้าต้องเรียกข้าว่าพระชายา และแทนตัวเองว่าบ่าว เจ้ามาเรียกข้าว่าท่านพี่ คิดจะตีสนิทเช่นนี้ ระวังจะถูกลงโทษนะ”

หลี่เยียนเอ๋อร์ก้มหน้าด้วยความหวาดกลัว ดวงตาสดใจมีน้ำตารื้นออก นางกัดริมฝีปากเบาๆ ท่าทางน่าสงสารยิ่ง

“ท่านอ๋อง หม่อมฉัน...”

ท่าทางอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของนางทำให้เจียงเว่ยหว่านรำคาญใจยิ่ง

“พอแล้ว อย่ามาแสแสร้งแถวนี้เลย ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าเสียหน่อย”

เซียวจิ้งเป่ยมองงเจียงเว่ยหว่านที่มีท่าทางแกร่งกล้า ดวงตาดุจดารากระพริบ ใบหน้าหล่อเผยความตะลึงเลือนราง ทั้งยังอมยิ้มน้อยๆอีกด้วย

“ทำไม ข้ายังไม่แต่งตั้งนาง เจ้าก็ร้อนใจแล้วหรือ?”

เจียงเว่ยหว่านรู้สึกโมโหจนเจ็บตรงหัวใจ นางยังไม่ได้ทำอะไรสตรีผู้นี้เลย เขาก็ออกโรงปกป้องเสียแล้ว เห็นทีคงอยู่ในจวนอ๋องต่อไม่ได้แล้ว

กลยุทธ์สามสิบหกวิธี การไปคือวิธีขชั้นเยี่ยม

เจียงเว่ยหว่านสะบัดแขนเสื้อกว้าง เงยหน้ามองดวงตาดุจนกอินทรีย์ของเซียวจิ้งเป่ย หัวใจนางรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย ทว่านางยังคงพูดความในใจออกมา

“ท่านอ๋อง คาดว่าท่านน่าจะรู้ว่าข้าแต่งเข้ามาแล้ว แต่ท่านกลับพาสตรีผู้นี้เข้าจวนอย่างไม่ระวังปากชาวบ้าน ท่านเคยคิดบ้างไหมว่าข้าจะรู้สึกเช่นไร?”

ใบหน้างามของเจียงเว่ยหว่านเผยความกรุ่นโกรธ อ้าปากพูดด้วยริมฝีปากสดใส

“ในเมื่อท่านอ๋องไม่เห็นชายาเอกอยู่ในสายตา แสดงว่าไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกัน และไม่ได้มีใจต่อข้าด้วย พอดีหม่อมฉันก็ไม่อยากเป็นผู้ที่ถูกท่านอ๋องเพิกเฉย เช่นนั้นพวกเราหย่ากันเถิด”

ตอนที่นางพูดว่าหย่า สีหน้าเรียบเฉยมาก เหมือนกำลังพูดในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองอยู่

“หากท่านอ๋องกลัวจะเสียชื่อ ท่านก็เขียนหนังสือหย่าให้ข้า แต่ถ้ากลัวฝ่าบาทสอบถาม จะให้ข้าเขียนหนังสือหย่าก็ได้ ท่านลองเลือกเอง พวกเราหย่ากันแล้วจะได้ไม่ขวางหูขวางตาอีกฝ่าย ท่านคิดเห็นเช่นไรบ้าง?”

อุณภูมิกลางอากาศลดลง เจียงเว่ยหว่านที่อยู่ห่างๆก็ยังคงสัมผัสกลิ่นอายยะเยือกจากกายเขาได้ เย็นทะลุเข้าถึงทรวงจนนางอดสะดุ้งไม่ได้ ทว่าก็ยังคงกัดฟันพูดต่อว่า

“ท่านอ๋อง ข้าใจกว้างยอมให้ท่านสมหวังกับคู่รัก ขอแค่ท่านเขียนหนังสือหย่า พวกเราก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวพันกันอีก”

หลี่เยียนเอ๋อร์ได้ยิน ดวงตาก็สว่างเจิดจ้า แอบสังเกตสีหน้าเซียวจิ้งเป่ย

บัดนี้ท่านอ๋องนั่งบนเก้าอี้ไม้ ใบหน้าหล่อยากแท้หยั่งถึง มองสีหน้าไม่ออก ทว่ากลิ่นอายเย็นยะเยือกบนกายเขาบ่งบอกว่าเขาไม่สบอารมณ์ยิ่ง

ใบหน้าหลี่เยียนเอ๋อร์เผยความลำพองใจขึ้น ขอเพียงเจียงเว่ยหว่านออกจากจวนอ๋อง ตำแหน่งพระชายาก็ตกเป็นของนางอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่เยียนเอ๋อร์ร้องในใจว่า หย่ากับนาง หย่ากับนาง!

ถึงแม้ในใจนางจะดีใจ แต่ใบหน้ายังคงประดับความกังวลใจ เอ่ยเสียงเตือนเจียงเว่ยหว่านอย่างอ่อนโยนว่า

“พระชายาท่านพูดเรื่อยเปื่อยสิเพคะ หากท่านอ๋องปลดท่านออก วันหน้าท่านจะกล้าสู้หน้าคนอย่างไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงเคียงบัลลังก์