“มู่เหลียนโยว เจ้า...” ลั่วซินเม่ยกรีดร้อง
มู่เหลียนโยวคร้านจะมองนาง พูดกับเยี่ยฟ่านเซิงเท่านั้น "ประมุขน้อยเยี่ย พวกท่านหุบเขาเทียนอีใจแคบเช่นนี้หรือ แม้แต่สนทนาแลกเปลี่ยนกับคนอื่นก็ไม่มีน้ำใจ"
"ไม่ใช่แน่นอน ทำให้ท่านซื่อจื่อหัวเราะเยาะแล้ว" ประมุขน้อยเยี่ยฟ่านเซิงรูปลักษณ์เย็นชา จ้องมองลั่วซินเม่ย "ก่อนจะออกจากหุบเขา ข้าบอกแล้ว อย่าก่อปัญหา! ทำให้คนอื่นเห็นเป็นตัวตลก!"
“ศิษย์พี่! ท่าน... ฮือ...” ลั่วซินเม่ยโกรธจนร้องไห้ น้ำตาไหลอาบแก้ม พูดคั่งแค้น “ต่อให้ข้าเอาแต่ใจ อย่างไรล่ะ! ข้าคือหย่งซานจวิ้นจู่! ท่านตาคือประมุขหุบเขาเทียนอี! เจ้ากล้าตีข้า!!!"
“ตีเจ้า แล้วอย่างไร” มู่เหลียนโยวหัวเราะเยาะ พูดเสียงเย็นชา “ข้าซื่อจื่อไม่เพียงแต่ตีเจ้าเท่านั้น แต่ยังจะนำกองทัพไปที่หุบเขาเทียนอี ถามท่านประมุขหน่อย ข้าซื่อจื่อมีสิทธิสั่งสอนเจ้าไหม!"
พลันทุกคนในท้องพระโรงเสียวหลังวาบ โดยเฉพาะคนจากหุบเขาเทียนอีที่มากับเยี่ยฟ่านเซิง ต่างก็สีหน้าบอกบุญไม่รับ
พวกเขาหุบเขาเทียนอีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่ก่อนที่จะออกมา กลับได้รับคำเตือนว่ามีคนสองคนที่พวกเขาล่วงเกินไม่ได้
คนหนึ่งคือมู่เหลียนโยว จิ่งอ๋องซื่อจื่อแห่งต้าฉู่ และอีกคนเจิ้นกั๋วกงแห่งต้าเยี่ยน
"เจ้า..." ลั่วซินเม่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ยังขายหน้าไม่พอ!” เยี่ยฟ่านเซิงพูดอย่างเย็นชา
“ท่านหญิง ท่านก่อเรื่องอย่างนี้ ท่านประมุขกู่จะโกรธ!” ชายชราที่อยู่ด้านหลังเยี่ยฟ่านเซิงสีหน้าเคร่งเครียด เขาคือผู้อาวุโสจู มือขวาข้างกายราชาหย่งซาน
ลั่วซินเม่ยตกตะลึงครู่หนึ่ง แค่เขามู่เหลียนโยว พวกนางหุบเขาเทียนอีต้องหวาดกลัวหรือ
"ไม่..." ลั่วซินเม่ยไม่อยากจะเชื่อ "แม้แต่ท่าน จิ่นเวยโหว..."
“จวนจิ่นเวยโหวแล้วอย่างไรหรือ อ๋อ เข้าใจแล้ว!” มู่เหลียนโยวก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาฉายแววเยาะเย้ย “จวนจิ่นเวยโหวถูกทำลาย จะให้ยายไปอยู่ที่ไหน”
ยาย ยายอะไร มู่เหลียนโยวมีครอบครัวยายตอนไหน!
เดี๋ยวก่อน จวนจิ่นเวยโหวเป็นบ้านยายของเหยาชิงหลี จึงเป็นยายของเหยาชิงหลี!
เพียงเพราะห่วงใยยายเฒ่านั่น ถึงได้ยั้งมือ ยอมให้เฉียวจื่อหรงสองแม่ลูกทำตัวโง่เขลา
ลั่วซินเม่ยตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกหวาดกลัว! ทั้งโกรธทั้งชัง ยังเสียหน้าด้วย!
“มู่เหลียนโยว...ดี ดีมาก! เพื่อเห็นแก่มิตรภาพของท่านตากับจิ่งอ๋องคนก่อน ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า!” ลั่วซินเม่ยกัดฟันกรอด พูดแต่เรื่องมิตรภาพ ไม่ใช่ว่านางกลัวเขา
"แต่!" ดวงตาของลั่วซินเม่ยแดงก่ำ "วันนี้ ท่านหญิงอย่างข้าต้องให้เหยาชิงหลีคุกเข่าต่อหน้าให้ได้!"
ลั่วซินเม่ยจ้องเหยาชิงหลีเขม็ง มองใบหน้างามไม่เป็นสองรองใคร น้ำเสียงเกลียดชัง "เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร!"
แค่ขอทานต่ำต้อยเท่านั้น!
มู่เหลียนโยวเยาะเย้ย "เจ้ามีสิทธิ์อะไร"
"สิทธิ์อะไร!" ลั่วซินเม่ยโกรธแทบบ้า "ซื่อจื่อหูหนวก! สิทธิ์ที่ข้าเป็นหย่งซานจวิ้นจู่!"
"พอได้แล้ว!" คาดไม่ถึง เสียงเย็นเยียบของเยี่ยฟ่านเซิงก็ดังขึ้น สายตามองใบหน้าของเหยาชิงหลีแวบหนึ่งแล้วถอนสายตา
“ศิษย์พี่ นี่คือศักดิ์ศรีข้าในฐานะที่เป็นท่านหญิง!” ดวงตาของลั่วซินเม่ยแดงก่ำ “วันนี้นางต้องคุกเข่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ