สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า…
มู่เหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดวิธีที่ดีออก “ท่านตาของข้ากำลังจะมาพำนักระยะยาวที่เมืองหลวง ข้าเองก็กำลังจะคัดเลือกบ่าวไพร่พอดี มิสู้ท่านอ๋องไปเป็นเพื่อนข้าที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ?”
นางกะพริบตา แววตาที่ส่องประกายนั้นทำให้เยี่ยนสวินใจลอยไปชั่วขณะ
“ท่านอ๋อง?”
เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไปนาน มู่เหยาจึงขยับเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถาม
เยี่ยนสวินได้สติ สายตาเลื่อนลงต่ำโดยไม่รู้ตัว จากดวงตาคู่หวานค่อย ๆ เคลื่อนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของนาง
สัมผัสในวันนั้นยังคงก้องอยู่ในห้วงคำนึง เขารู้สึกผิดในใจจนต้องเบือนหน้าหนีทันควัน “เป็นความคิดที่ดีมาก เช่นนั้นข้าจะไปสั่งให้คนเตรียมรถม้าก่อน”
ตอนนี้พวกเขาเป็นคู่หมั้นกันแล้ว ต่อให้ไปเลือกบ่าวไพร่ด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังอยากให้คนทั้งเมืองหลวงได้เห็นอย่างชัดเจนว่า บัดนี้จวนจงซู่โหวได้รับการคุ้มครองจากจวนฉู่อ๋องของเขาแล้ว!
อย่าได้มีผู้ใดคิดจะมารังแกมู่เหยาได้อีกเป็นอันขาด!
มู่เหยามองตามแผ่นหลังของเยี่ยนสวินที่เพิ่งจากไปอย่างงุนงง นางหันไปถามชิงอิ่งโดยสัญชาตญาณ “บนใบหน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือ?”
ชิงอิ่งกลั้นยิ้มพลางส่ายหน้า
มู่เหยายิ่งสงสัยหนักขึ้น “แล้วเหตุใดท่านอ๋องของพวกเจ้าถึงได้รีบวิ่งหนีไปเช่นนั้นเล่า?”
ชิงอิ่งกลั้นหัวเราะจนใบหน้าแดงก่ำ รีบหันไปหยิบเสื้อคลุมตัวนอก “คุณหนูสวมเสื้อคลุมเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจะพาท่านกลับไปยังจวนจงซู่โหวเสียก่อน พวกเราไปรอท่านอ๋องที่หน้าจวนก็พอเจ้าค่ะ”
เมื่อเช้าตรู่วันนี้ ชิงอิ่งเพิ่งจะแบกหนิงจู๋กลับไปพักรักษาตัวที่จวนสกุลมู่
ทำเอาลุงหวังตกใจ คว้าตัวชิงอิ่งไว้แล้วสอบถามอาการของมู่เหยาอย่างร้อนรน พอได้ยินว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว จึงยอมปล่อยมือให้ชิงอิ่งกลับมาได้
“ได้”
หลังจากมู่เหยาห่อหุ้มร่างกายจนมิดชิดแล้ว จึงให้ชิงอิ่งแบกนางขึ้นหลัง
นางรู้สึกได้เพียงสายลมที่พัดผ่านอยู่ข้างหู ชั่วพริบตาก็กลับมายืนอยู่บนพื้นดินแล้ว
“คุณหนู!”
เสียงของหนิงจู๋ดังขึ้นอย่างร้อนรน มู่เหยาดึงหมวกคลุมศีรษะลง ก็เห็นเด็กสาวกำลังวิ่งตรงมาหานางอย่างกระหืดกระหอบ “ช้าหน่อย ระวังแผลที่มือด้วย!”
หนิงจู๋ขอบตาแดงก่ำ มองสำรวจมู่เหยาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อแน่ใจแล้วว่านางไม่เป็นอะไรจึงค่อยวางใจลงได้
“คุณหนู ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกินที่คุณหนูไม่เป็นอะไร... ล้วนเป็นความผิดของบ่าวเอง เป็นบ่าวที่ถ่วงรั้งท่านเอาไว้” หนิงจู๋กล่าวเสียงสะอื้น หยาดน้ำตายิ่งไหลรินไม่ขาดสาย
มู่เหยาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับคราบน้ำตาบนใบหน้าของนาง “เจ้าไม่ได้ถ่วงรั้งข้าเลย หากมิใช่เพราะเจ้า ป่านนี้ข้าคงยังตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกโจรนั่นอยู่”
หลังจากปลอบโยนหนิงจู๋อยู่ครู่หนึ่ง ลุงหวังก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับแจ้งว่ารถม้าจากจวนฉู่อ๋องมาถึงแล้ว


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...