เข้าสู่ระบบผ่าน

ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง นิยาย บท 12

“ข้าน้อยได้ส่งคนไปยังห้องพัก ตามคำสั่งของท่านแล้วขอรับ”

แม้ฉางชิงจะเข้าใจดีว่าความบริสุทธิ์ของสตรีเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่อาจทนเห็นผู้ใดมาวางแผนกับท่านอ๋องของตนอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ได้

เพียงเพราะท่านอ๋องบังเอิญช่วยชีวิตคุณหนูรองแห่งตระกูลจ้าวผู้ไม่เป็นที่โปรดปรานผู้นี้ไว้ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวง คาดไม่ถึงว่านางจะคิดการเช่นนี้ขึ้นมาได้

ช่างรนหาที่ตาย!

“อืม เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปดูเรื่องสนุกกัน”

เยี่ยนสวินก้มลงมองอาภรณ์สีม่วงอ่อนที่สวมอยู่ พลางนึกถึงชุดกระโปรงสีม่วงอ่อนของมู่เหยาขึ้นมาในห้วงความคิด

ความหม่นหมองในใจพลันคลายลงไปบ้าง เขานำฉางชิงกลับไปยังห้องพักเดิมอย่างไม่รีบร้อน

เมื่อมู่เหยาเปลี่ยนชุดเสร็จและกำลังเดินขึ้นไปยังห้องพักชั้นบน ก็ได้ยินเสียงของลู่จื้อที่กำลังขุ่นเคือง คล้ายกำลังซักถามสาวใช้ผู้นำทางนางนั้นอยู่

“เจ้าเห็นคุณหนูมู่เข้าไปในนี้จริง ๆ หรือ?”

ภายในห้องพักมีเสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบาดังอย่างต่อเนื่อง ทำเอาเหล่าคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์หลายนางหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย จนแต่ละคนไม่กล้าแม้แต่จะมองประตูห้องพักนั้น

“เรียนคุณชายใหญ่ลู่ บ่าว บ่าวเรียนคุณหนูมู่ไปแล้วว่าด้านในเป็นที่พักของคนเรือ แต่คุณหนูมู่ไม่เพียงไม่ฟัง ยังตำหนิบ่าวอีกด้วยเจ้าค่ะ”

“บ่าวจนปัญญาแล้วจริง ๆ จึงได้คิดทูลเชิญองค์หญิงใหญ่และคุณชายใหญ่มา แต่ใครจะรู้... ใครจะรู้ว่าคุณหนูมู่จะร้อนรนทนรอไม่ไหวถึงเพียงนี้..”

คำพูดนี้ทำให้เกิดเสียงซุบซิบนินทาขึ้นโดยรอบ

คนที่ไม่ลงรอยกับลู่จื้อก็เอ่ยคำพูดเย้ยหยันขึ้นมา “คุณชายใหญ่ลู่ คุณหนูมู่ยอมเลือกคนเรือยังดีกว่าเลือกท่าน ตำแหน่งฮูหยินแห่งจวนโหวของท่าน ช่างน่า…”

ประโยคถัดมาไม่ได้เอ่ยต่อ แต่ใบหน้าของลู่จื้อก็แดงก่ำไปแล้ว

ในเวลานี้ เขาไหนเลยจะกล้าบอกว่าตนไม่ได้จัดเตรียมคนเรืออะไรไว้ทั้งนั้น เดิมทีตั้งใจจะมาด้วยตนเอง

แต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว สตรีชั้นต่ำเช่นมู่เหยา เขาย่อมไม่ต้องการอีกต่อไป!

“ในเมื่อนางทำตัวต่ำช้าเช่นนี้ ไม่ควรที่จะเข้าจวนโหวของข้า แต่เรื่องวันนี้อาจมีเหตุผลซ่อนเร้น หากนางยอมสำนึกผิดจากใจจริง จวนโหวของข้ายังพอเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต รับนางเข้าจวนมาดูแลตามสมควรได้”

พอสิ้นคำพูดของลู่จื้อ เสียงจอแจรอบข้างก็เงียบลงไปบ้าง

มู่เหยาซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเงามืด จ้องมองท่าทีของลู่จื้อที่กำลังอิ่มเอมกับคำยกยอปอปั้นจากผู้อื่น แววตาก็เต็มไปด้วยความเย็นเยือก

องค์หญิงใหญ่ยังคงมองห้องพักด้วยสีหน้าถมึงทึง สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจกวาดผ่านใบหน้าของลู่จื้อ ก่อนจะส่งสายตาให้ฟังมามา

ฟังมามานำเหล่าหญิงรับใช้บุกเข้าไปในห้อง พร้อมทั้งกั้นคนอื่นไว้ด้านนอก

ถือว่ายังเป็นการไว้หน้าคนทั้งสองที่อยู่ด้านในอยู่บ้าง

เมื่อเห็นว่าจับไม่ได้คาหนังคาเขา แววตาของลู่จื้อก็ฉายแววเสียดายออกมาวูบหนึ่ง

สิ่งนี้ก็อยู่ในสายตาของมู่เหยาเช่นกัน มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของนางกำแน่นขึ้น

“คุณหนู พวกเราจะไปตอนนี้เลยไหมเจ้าคะ?” หนิงจู๋กัดฟันด้วยความโกรธ อยากจะเข้าไปฉีกหน้ากากอันน่ารังเกียจของลู่จื้อเสียเดี๋ยวนี้

แต่มู่เหยายื่นมือห้ามไว้ นางถอนหายใจเบา ๆ “ไม่รีบ”

องค์หญิงใหญ่เหลือบมองไปยังห้องพัก เมื่อเห็นว่าเสียงหวีดร้องข้างในสงบลงแล้ว แววตาคมกริบก็กวาดมองไปยังเด็กสาวใช้ตัวน้อยที่คุกเข่าอยู่กับพื้น

“เจ้าเป็นสาวใช้ตระกูลใดกัน ข้าจำไม่ได้ว่าในจวนมีคนอย่างเจ้าอยู่ด้วย”

ร่างของสาวใช้ตัวน้อยสั่นสะท้าน เอ่ยตะกุกตะกัก “บ่าว บ่าว บ่าวติดตามคุณหนูมู่มาเจ้าค่ะ”

“อ้อ?” องค์หญิงใหญ่หัวเราะเบา ๆ แต่น้ำเสียงแฝงความกดดันจนทำให้รอบข้างไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียง “ข้าจำไม่ได้ว่าในบรรดาสาวใช้ที่จวนมู่นำมา มีเจ้าอยู่ด้วย”

“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นคนของจวนมู่ ก็รอให้คุณหนูมู่มาเสียก่อน แล้วให้นางได้พิจารณาดูให้ดี”

“ใครก็ได้! จับนางมัดไว้ให้ข้า!”

สาวใช้ตัวน้อยชะงักไป พลันเงยหน้าขึ้นสบเข้ากับแววตาเย็นเยียบขององค์หญิงใหญ่ ก็ตกใจจนมิกล้าส่งเสียง

นางถึงกับลืมเอ่ยคำร้องขอชีวิต ก็ถูกคนจับอุดปาก มัดด้วยเชือก แล้วโยนไปไว้ด้านข้าง

แววตาของลู่จื้อเคร่งขรึมลง รีบส่งสายตาให้จู๋ซีที่อยู่ข้างกาย

จู๋ซีอาศัยช่วงที่ทุกคนไม่ทันสังเกตหลบออกไปอย่างเงียบเชียบ

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า มู่เหยาก็ส่งสัญญาณให้หนิงจู๋ ให้ไปช่วยสาวใช้ผู้นั้นไว้

ในตอนที่สาวใช้กำลังจะถูกลากตัวออกไปนั้น ประตูห้องพักก็เปิดออกพอดี

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง