เข้าสู่ระบบผ่าน

ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง นิยาย บท 129

“ท่านน้าคงจะทราบดีว่าเรื่องการยักยอกเงินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงแล้ว และผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็คือใต้เท้าเซี่ยและฉู่อ๋อง”

การที่หวังฮูหยินรับเลี้ยงเด็กในเวลานี้ จะทำให้คนอื่นคิดเช่นไรหรือเจ้าคะ?”

ฮูหยินใหญ่เจียงเบ้ปาก พูดโพล่งออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ก็ต้องทำให้คนคิดว่านางกำลังแสดงไมตรีต่อฉู่อ๋อง...”

คำพูดช่วงท้ายหยุดชะงัก

ฮูหยินใหญ่เจียงจึงเข้าใจถึงเหตุผล ถึงกับลดเสียงลงต่ำ “เจ้าคิดว่าเรื่องที่ลูกสาวข้าตกน้ำ อาจจะทำให้ตระกูลหวังเอนเอียงไปเข้ากับองค์รัชทายาท จึงชิงลงมือก่อนอย่างนั้นรึ?”

ไม่ว่าอย่างไร หวังรั่วเมิ่งก็ตกหลุมพรางขององค์รัชทายาทเข้าแล้ว

หลังจากนี้องค์รัชทายาทย่อมต้องคิดดึงตัวมาเป็นพวก ถึงอย่างไรแม้ใต้เท้าหวังจะเป็นเพียงขุนนางตำแหน่งเล็ก ๆ ในกรมพิธีการ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการคนต่อไป

“ท่านน้าช่างหลักแหลมยิ่งนัก”

“แต่ว่าหวังฮูหยินรับเลี้ยงเด็กด้วยความสมัครใจเอง มิใช่ใต้เท้าหวังเป็นผู้สั่งการ คงจะนับว่าเป็นการดึงตัวมาเป็นพวกไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”

มู่เหยากล่าวขึ้นมาเนิบ ๆ ทำให้ฮูหยินใหญ่เจียงถึงกับยิ้มกว้างออกมาทันที

“การกระทำเช่นนี้ของตระกูลหวังย่อมต้องทำให้องค์รัชทายาทรังเกียจ ใต้เท้าหวังผู้นี้คงจะหมดโอกาสได้นั่งในตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการแล้ว”

ฮูหยินใหญ่เจียงยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าความขุ่นเคืองที่อัดอั้นอยู่ในใจได้ระบายออกมาจนโล่งโปร่ง

มู่เหยาแย้มยิ้มบางเบา จิบชาเข้าไปหนึ่งคำ รู้สึกเพียงกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลในปาก ความขมจางลงไปบ้าง

คิดว่านางเป็นคนไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นหรืออย่างไร?

ถ้อยคำเหล่านั้นที่แต่งเรื่องใส่ร้ายนาง แค่คิดก็ยังรู้สึกว่าฟังไม่เข้าหู นับประสาอะไรกับการต้องเอ่ยมันออกมา!

ข่าวลือในเมืองหลวงที่กล่าวหาข้าในตอนนั้น ก็ล้วนมาจากปากอันจัดจ้านของหวังฮูหยินผู้นี้มิใช่หรือ

สมควรแล้วที่ต้องตอบแทนกลับไปให้สาสม!

“น้องหญิงเจาเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” มู่เหยาเอ่ยถามด้วยความห่วงใย เป็นการเปลี่ยนเรื่องไปในตัว

ฮูหยินใหญ่เจียงถอนหายใจ “สุดท้ายก็ยังเป็นหวัดอยู่ดี ยังพบปะผู้คนไม่ได้ รอให้นางหายดีแล้วข้าจะให้น้องหญิงเจาเอ๋อร์ไปหาเจ้าที่จวนโหว”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เหยาก็ไม่ถามอะไรต่อ กล่าวลาแล้วจึงจากไป

พร้อมกันนั้นก็สั่งให้ชิงอิ่งนำข่าวไปปล่อยให้แพร่สะพัดออกไป

ขณะเดียวกัน ณ เรือนสุ่ยอวิ๋นในเมืองหลวง องค์รัชทายาทซึ่งเดิมกำลังสนทนากับใต้เท้าหวังอยู่ พอได้ฟังรายงานจากคนของตน สีหน้าก็พลันเย็นเยียบลงหลายส่วน

ส่วนใต้เท้าหวังที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กลับกำลังคิดในใจว่าตนช่างเป็นคนฉลาดหลักแหลมเสียจริง

ให้ฮูหยินไปขอโทษที่จวนแม่ทัพ ส่วนตนเองก็มาแสดงไมตรีต่อองค์รัชทายาท ไม่ทำใหฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขุ่นเคืองใจ

“ใต้เท้าหวัง วันนี้คงต้องจิบชากันเพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการนั้น ข้าคงจะพูดอะไรไม่ได้ ย่อมต้องแล้วแต่การตัดสินพระทัยของเสด็จพ่อ”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง