“ท่านน้าคงจะทราบดีว่าเรื่องการยักยอกเงินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงแล้ว และผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็คือใต้เท้าเซี่ยและฉู่อ๋อง”
การที่หวังฮูหยินรับเลี้ยงเด็กในเวลานี้ จะทำให้คนอื่นคิดเช่นไรหรือเจ้าคะ?”
ฮูหยินใหญ่เจียงเบ้ปาก พูดโพล่งออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ก็ต้องทำให้คนคิดว่านางกำลังแสดงไมตรีต่อฉู่อ๋อง...”
คำพูดช่วงท้ายหยุดชะงัก
ฮูหยินใหญ่เจียงจึงเข้าใจถึงเหตุผล ถึงกับลดเสียงลงต่ำ “เจ้าคิดว่าเรื่องที่ลูกสาวข้าตกน้ำ อาจจะทำให้ตระกูลหวังเอนเอียงไปเข้ากับองค์รัชทายาท จึงชิงลงมือก่อนอย่างนั้นรึ?”
ไม่ว่าอย่างไร หวังรั่วเมิ่งก็ตกหลุมพรางขององค์รัชทายาทเข้าแล้ว
หลังจากนี้องค์รัชทายาทย่อมต้องคิดดึงตัวมาเป็นพวก ถึงอย่างไรแม้ใต้เท้าหวังจะเป็นเพียงขุนนางตำแหน่งเล็ก ๆ ในกรมพิธีการ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการคนต่อไป
“ท่านน้าช่างหลักแหลมยิ่งนัก”
“แต่ว่าหวังฮูหยินรับเลี้ยงเด็กด้วยความสมัครใจเอง มิใช่ใต้เท้าหวังเป็นผู้สั่งการ คงจะนับว่าเป็นการดึงตัวมาเป็นพวกไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”
มู่เหยากล่าวขึ้นมาเนิบ ๆ ทำให้ฮูหยินใหญ่เจียงถึงกับยิ้มกว้างออกมาทันที
“การกระทำเช่นนี้ของตระกูลหวังย่อมต้องทำให้องค์รัชทายาทรังเกียจ ใต้เท้าหวังผู้นี้คงจะหมดโอกาสได้นั่งในตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการแล้ว”
ฮูหยินใหญ่เจียงยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าความขุ่นเคืองที่อัดอั้นอยู่ในใจได้ระบายออกมาจนโล่งโปร่ง
มู่เหยาแย้มยิ้มบางเบา จิบชาเข้าไปหนึ่งคำ รู้สึกเพียงกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลในปาก ความขมจางลงไปบ้าง
คิดว่านางเป็นคนไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นหรืออย่างไร?
ถ้อยคำเหล่านั้นที่แต่งเรื่องใส่ร้ายนาง แค่คิดก็ยังรู้สึกว่าฟังไม่เข้าหู นับประสาอะไรกับการต้องเอ่ยมันออกมา!
ข่าวลือในเมืองหลวงที่กล่าวหาข้าในตอนนั้น ก็ล้วนมาจากปากอันจัดจ้านของหวังฮูหยินผู้นี้มิใช่หรือ
สมควรแล้วที่ต้องตอบแทนกลับไปให้สาสม!
“น้องหญิงเจาเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” มู่เหยาเอ่ยถามด้วยความห่วงใย เป็นการเปลี่ยนเรื่องไปในตัว
ฮูหยินใหญ่เจียงถอนหายใจ “สุดท้ายก็ยังเป็นหวัดอยู่ดี ยังพบปะผู้คนไม่ได้ รอให้นางหายดีแล้วข้าจะให้น้องหญิงเจาเอ๋อร์ไปหาเจ้าที่จวนโหว”
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เหยาก็ไม่ถามอะไรต่อ กล่าวลาแล้วจึงจากไป
พร้อมกันนั้นก็สั่งให้ชิงอิ่งนำข่าวไปปล่อยให้แพร่สะพัดออกไป
ขณะเดียวกัน ณ เรือนสุ่ยอวิ๋นในเมืองหลวง องค์รัชทายาทซึ่งเดิมกำลังสนทนากับใต้เท้าหวังอยู่ พอได้ฟังรายงานจากคนของตน สีหน้าก็พลันเย็นเยียบลงหลายส่วน
ส่วนใต้เท้าหวังที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กลับกำลังคิดในใจว่าตนช่างเป็นคนฉลาดหลักแหลมเสียจริง
ให้ฮูหยินไปขอโทษที่จวนแม่ทัพ ส่วนตนเองก็มาแสดงไมตรีต่อองค์รัชทายาท ไม่ทำใหฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขุ่นเคืองใจ
“ใต้เท้าหวัง วันนี้คงต้องจิบชากันเพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการนั้น ข้าคงจะพูดอะไรไม่ได้ ย่อมต้องแล้วแต่การตัดสินพระทัยของเสด็จพ่อ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...