เข้าสู่ระบบผ่าน

ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง นิยาย บท 20

เยี่ยนสวินเหลือบมองปลายนิ้วของนางที่เคลื่อนไหวเบาๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาและทรุดตัวนั่งยองๆ

มู่เหยาตกใจกับการกระทำนั้นมาก รีบเบี่ยงตัวออกไปอีกทางทันที

ก่อนจะเห็นบางอย่างปรากฏขึ้นที่เอวของตัวเอง

มันคือจี้หยกม่วงที่เขามักใส่ไว้บนเอวเสมอ

มู่เหยาตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่เสียงอันเคร่งขรึมของชายคนนั้นจะดังขึ้นเหนือศีรษะของนาง

“คืนนี้ข้าจะเข้าวังไปขอประทานอนุญาต ไม่ทำให้เจ้าต้องน้อยใจแน่”

นางช้อนตามองดวงตาสีดำสนิทของเยี่ยนสวิน ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจ

นางอยากลองเชื่อดูอีกสักครั้ง

เยี่ยนสวินจากไปนานกว่าที่มู่เหยาจะกลับมาได้สติอีกครั้ง

“คุณหนู เริ่มเย็นย่ำแล้ว พวกเรารีบกลับจวนกันดีหรือไม่เจ้าคะ”

มู่เหยาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างพลางพยักหน้าอย่างเงียบๆ

ขณะลุกขึ้นยืนก็หยิบกระดาษที่เยี่ยนสวินทิ้งไว้ขึ้นมาส่งให้หนิงจู๋

“กลับแล้วเอาไปเผาไฟเสีย”

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความสงสัย มู่เหยาจึงถอดจี้หยกออกจากเอวและถือไว้ในมือก่อนออกไปข้างนอก

เมื่อกลับถึงจวนมู่

นางจึงวางมันลงบนโต๊ะพลางมองอย่างระมัดระวัง ก่อนจะสังเกตเห็นรอยแตกร้าวบนจี้หยกนั้น

“ทำไมถึงหายไปชิ้นหนึ่งล่ะ”

มู่เหยาเริ่มสำรวจอีกครั้งด้วยความตกใจ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นเพราะนางไปชนอย่างไม่รู้ตัว แต่มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว นางจึงรู้สึกเบาใจขึ้นมา

“คงเป็นเพราะท่านอ๋องทำมันแตกโดยไม่ได้ตั้งใจตอนออกรบ จี้หยกชิ้นนี้เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกสถานะของท่านอ๋อง แสดงให้เห็นว่าท่านอ๋องมีความรู้สึกดีๆ ต่อคุณหนูไม่น้อยเลย”

ฉางชิงกับหนิงจู๋ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกันในห้องส่วนตัวอย่างชัดเจน

หนิงจู๋รู้สึกเป็นห่วงคุณหนูของนางไม่น้อย แต่เมื่อเห็นจี้หยกนี้ ความกังวลในใจก็บรรเทาลงไปหลายส่วน

เพราะมันคือของล้ำค่า คงไม่มอบให้ใครง่ายๆ อย่างแน่นอน

แม้จวนผิงหยางโหวที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับตระกูลมู่มาก แต่ของแทนใจที่ส่งมาให้กลับไม่ใช่จี้หยกแสดงตัวตนของลู่จื้อ

“เขาเป็นคนดีจริงๆ”

มู่เหยาเอ่ยขณะลูบจี้หยกอย่างแผ่วเบา

ในที่สุดก็ใส่จี้หยกลงในกล่องและวางไว้ข้างเตียง

ในใจเริ่มกังวลเรื่องที่เยี่ยนสวินเข้าวังขึ้นมาเล็กน้อย

ณ ห้องทรงพระอักษร

ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นมองเยี่ยนสวินที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าจริงจัง แววประหลาดใจแฝงอยู่ในดวงตา ก่อนจะปิดหนังสือกราบทูลในมือพร้อมมองเขาอย่างสนใจ

“เหตุใดวันนี้เจ้าเด็กนี่ถึงมีมารยาทยิ่งนัก มีเรื่องอะไรอยากขอเรางั้นหรือ”

เยี่ยนสวินยืดตัวขึ้นพลางกล่าวว่า “วันนี้กระหม่อมมาที่นี่เพื่อขอประทานพิธีสมรสจากฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินว่าเด็กไม่เอาไหนคนนี้มีคนที่ชอบแล้ว ฮ่องเต้จึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แม่นางคนนั้นเป็นใครกัน”

“กระหม่อมอยากขอคุณหนูมู่แต่งงานพ่ะย่ะค่ะ”

คำว่าคุณหนูมู่ลบเลือนรอยยิ้มบนใบหน้าของฮ่องเต้ไปจนหมดสิ้น ก่อนที่เขาจะพ่นลมหายใจและนั่งลงบนเก้าอี้มังกร “นางนั่นเอง”

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมชื่นชมคุณหนูมู่มานาน ฝ่าบาทโปรดทรงประทานพิธีสมรสครั้งนี้ให้กระหม่อมด้วยเถิด”

เขาพูดด้วยความจริงจัง

แสงอันมืดมิดฉายแวบผ่านดวงตาของฮ่องเต้ พลางเอ่ยตอบด้วยใบหน้าสงบนิ่ง “เท่าที่เรารู้ เจ้าไม่ได้ไปมาหาสู่กับคุณหนูมู่บ่อยๆ เหตุใดจึงชอบนางล่ะ”

ถ้อยคำเหล่านี้แฝงไปด้วยการหยั่งเชิงอย่างลึกล้ำ แม้แต่หลี่กงกงที่รับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานานหลังปียังต้องเหงื่อตก

กลัวเหลือเกินว่าฉู่อ๋องที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้นจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป

“คุณหนูมู่เป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และเข้มแข็งมาก กระหม่อมจึงชอบนางพ่ะย่ะค่ะ”

“อีกอย่างคุณหนูมู่เป็นคนใจเย็นสุขุม ไม่สร้างความวุ่นวายให้กระหม่อมอย่างแน่นอน”

ฮ่องเต้ไม่ตอบสนองไปครู่หนึ่ง เขามองเยี่ยนสวินอย่างไร้อารมณ์ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ในห้องเงียบงันไปชั่วขณะ มีเพียงหลี่กงกงที่เริ่มเหงื่อไหลซึมออกมา

ผ่านไปพักใหญ่ๆ

ฮ่องเต้ก็เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “เราจะกลับไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง บังเอิญว่าเราอยากให้เจ้าไปดูเมืองฉังเสียหน่อย ดูเหมือนว่าปีนี้เมืองฉังจะเกิดน้ำท่วมบ่อย ไปสืบให้เราหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น”

“หากฝ่าบาทไม่ตอบรับคำขอของกระหม่อม เกรงว่ากระหม่อมคงเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ กระทั่งออกไปสืบสวนไม่ได้”

เยี่ยนสวินยืนขึ้นอย่างไม่ละอายและนั่งลงบนเก้าอี้

ตอนที่ 20 ไม่ทำให้เจ้าต้องน้อยใจแน่ 1

ตอนที่ 20 ไม่ทำให้เจ้าต้องน้อยใจแน่ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง