มู่เหยาชำเลืองมอง เด็กคนนั้นมีผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน
ดวงตาและคิ้วคล้ายคลึงกับหลิ่วซีอินอยู่บ้าง
“ต่อไปนี้ เจ้าคือมารดาเพียงคนเดียวของเด็กคนนี้”
จางจิ้งหรูรู้ว่านางต้องการจะถามอะไร นางมองเด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักของมารดา “นับตั้งแต่นางคลอดลูกคนนี้ออกมา ข้าก็ส่งนางไปอยู่ที่เรือนพักที่นอกเมือง ตอนนี้ก็ได้แต่ร้องโวยวายทั้งวัน สภาพไม่ต่างอะไรกับคนใกล้ตาย ท่านหมอบอกว่าคงอยู่ไม่ถึงสิ้นเดือนนี้”
“ส่วนลู่จื้อ ตั้งแต่เรื่องคราวนั้น ความทรงจำก็มักจะสับสนเลอะเลือน ตอนนี้ท่านพ่อสามีของข้าฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ลู่ยวนแล้ว”
มู่เหยาเอื้อมมือไปหยอกล้อทารกน้อยในอ้อมแขนของนาง พลางถอดกำไลหยกขาวเนื้อดีที่ข้อมือออก
“ถือว่าเป็นของขวัญแรกพบที่ข้ามอบให้เด็กคนนี้แล้วกัน วันหน้าก็พามาเล่นที่จวนโหวบ่อย ๆ”
แววตาของจางจิ้งหรูเป็นประกายขึ้นมาทันที นางรับของขวัญมาด้วยความยินดีพร้อมกล่าวขอบคุณ จากนั้นจึงอุ้มลูกจากไป
การมาในครั้งนี้ ก็เพื่อบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างของจวนสกุลลู่ให้มู่เหยาฟัง
เมื่อกล่าวจบแล้ว ก็ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาอีกต่อไป
ตอนที่หนิงจู๋ยกบะหมี่เจกลับมา ก็เดินสวนกับจางจิ้งหรูพอดี
จึงได้เห็นทารกน้อยที่นางอุ้มอยู่ในอ้อมแขน
เมื่อวางชามบะหมี่ลง นางก็กล่าวกับมู่เหยาด้วยสีหน้าประหลาดใจระคนยินดี
“บะหมี่เจชามนี้รสชาติไม่เลวเลยเพคะ”
ชะตากรรมของลู่จื้อและหลิ่วซีอิน ถือเป็นข่าวดีเพียงไม่กี่เรื่องในวันนี้
ด้วยเหตุนี้ มู่เหยาจึงทานบะหมี่เจได้มากขึ้น
จนกระทั่งยามค่ำคืนมาเยือน ชิงอิ่งถึงได้นำสมุนไพรกลับมาที่เรือนเล็ก
ในขณะนั้น มู่เหยากำลังนั่งอยู่ข้างเตาผิงกับซูโหรวและหลันชง เพื่อเลือกชื่อที่ไปขอพรมาในวันนี้
“สุภาพบุรุษเป็นดั่งต้นสน และต้นไผ่ เรียกว่ามู่ซงจู๋เป็นอย่างไร?”
ซูโหรวมองตัวอักษรสองตัวในมือ แล้วนำมาวางคู่กันพลางเอ่ยถามความเห็นของเด็กทั้งสองที่อยู่ตรงข้าม
มู่เหยากะพริบตา จิบชาไปหนึ่งคำ “พี่ใหญ่ว่าอย่างไรเจ้าคะ?”
หลันชงขมวดคิ้วจ้องมองตัวอักษรบนโต๊ะอย่างพินิจ ครุ่นคิดอยู่นานจนซูโหรวแทบจะรอไม่ไหว จึงเอ่ยขึ้นว่า “เติมคำว่ามู่ไว้หน้าชื่อของข้าตอนนี้เลยดีหรือไม่ จะได้เป็นการย้ำเตือนให้ข้าตระหนักถึงความรับผิดชอบของทั้งสองตระกูลอยู่เสมอ?”
“มู่หลันชง?”
มู่เหยาเอ่ยตามเบา ๆ ครุ่นคิดแล้วก็เห็นว่าเหมาะสมดี
จึงหันไปมองซูโหรว
“เอาเถิด ๆ ในเมื่อเจ้าเด็กคนนี้พูดออกมาเช่นนี้ ก็คงจะคิดมาดีแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่ขัดอันใด ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”
ซูโหรวรู้ดีว่า บุตรชายคนโตของนางไม่เคยเสนอความคิดอะไรพร่ำเพรื่อ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...