รอตอนที่เขามาถึง ก็ใกล้จะเริ่มกินกันแล้ว
มู่เหยานั่งอยู่ข้างตัวซูโหรว มองลาเสฉวนกับผักกาดดองบนโต๊ะตาลุกวาว ท่าทางนี้ทำให้ทุกคนในครอบครัวอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงอย่างมีความสุข
มู่เหยากินไปสองคน ถึงหันสายตาไปหยุดที่บนตัวหลันเยว่อิง “พี่หญิงสามเหมือนผอมลงแล้ว”
ซูโหรวมองไป ถึงพูดเสียงเรียบว่า “ยังดำลงนิดหน่อย แต่ว่าเรียนวรยุทธ์ก็เป็นแบบนี้ สรุปแล้ววันหน้าก็บำรุงกลับมาได้”
ได้ยินความเย็นชาที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของป้าสะใภ้ มู่เหยาตระหนักได้เกรงว่าหลายวันที่ไม่อยู่บ้าน มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
เพียงแต่ นางไม่ได้ถามออกมาต่อหน้าคนมากมายแบบนี้
กลับเป็นหลันเยว่อิงที่กระวนกระวายใจกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด “ใช่ วันหน้าก็บำรุงกลับมาได้”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงเล็กน้อย มู่เหยาเห็นแบบนี้จึงเอ่ยถึงเรื่องของหวังรั่วเมิ่งในวันนี้ บรรยากาศเมื่อครู่ถึงถูกมลายหายไป
“ตระกูลหวังมีจุดจบเช่นนี้ เกรงว่าไม่ใช่แค่เพราะได้รับผลกระทบจากการพัวพันหวังทงมู่ กลัวว่าฝ่าบาท...”
นายท่านหลันพูดแล้วหยุดไป กลับเป็นหลันเอ้าเซวียนที่พยักหน้า “ใต้เท้าหวังถือเป็นขุนนางเก่าแก่จากอดีตฮ่องเต้ ราชสำนักในตอนนี้เปลี่ยนคนใหม่ขึ้น มีบางคนต้องถูกคัดออกเป็นเรื่องธรรมดา”
หลันเอ้าเซวียนพูดอย่างชัดเจน ทำให้ในใจทุกคนที่นี่รู้ดี
อาหารมื้อนี้ถือว่าจบลงแบบนี้
มู่เหยาไม่รีบกลับ แต่ลากซูโหรวมาบอกว่าไปเดินย่อยอาหารในสวน
“ท่านป้าสะใภ้ พี่หญิงสามเป็นอะไรไป? วันนี้ตอนกินข้าว ข้าแค่ดูก็รู้ว่าไม่ปกติ”
ซูโหรวได้ยินประโยคนี้ แสดงสีหน้าว่าเจ้าอยากถามเรื่องนี้จริง ๆ ด้วย
มองซ้ายแล่ขวา นี่ถึงจูงมู่เหยามานั่งในศาลา
“เมื่อวานข้ากลับมาถึงรู้ วันนั้นตอนที่คุณหนูตระกูลหวังถูกคนเสียดสีหน้าห้องหนังสือ นางอยู่ข้างในพูดคุยกับไท่จื่อ”
“อะไรนะ!”
มู่เหยาพูดออกมาอย่างตกใจ
ซูโหรวก็ถอนหายใจพร้อมส่ายหน้า “เด็กคนนี้มีความรักทำอะไรไม่คิด คนในบ้านรู้กันหมด แต่คิดไม่ถึงว่าสมองเลอะเลือนเช่นนี้ ตอนนี้เป็นเวลาสำคัญ ใช่เวลาที่ควรเข้าใกล้ไท่จื่อหรือ?”
“เมื่อวานข้ากลับมาถึง หลังจากที่รู้เรื่องนี้ ก็ให้คนไปลาที่จวนแม่ทัพเจิ้นกั๋ว เดิมคิดว่าจะคุยดี ๆ กับเยว่อิง ให้เด็กคนนี้ตั้งสติหน่อย”
“คิดไม่ถึงว่านางไม่ดื่มยาเสน่ห์จากที่ไหน บอกว่าไท่จื่อไม่ได้เหมือนที่ทุกคนในบ้านบอก จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างโมโห”
“ต่อมาข้าได้ยินลี่จื่อบอกว่า เยว่อิงออกไปเดินเล่นในเมือง ก็เจอกับไท่จื่ออีก ยังพูดคุยต่อหน้าคนไม่น้อยอยู่พักหนึ่ง”
“หลังจากลุงรองของเจ้ารู้เรื่อง รอเยว่อิงกลับมาก็ตำหนิ แล้วลงโทษเด็กคนนั้นคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนหนึ่งคืน ตอนนี้สองคนพ่อลูกไม่คุยกันแล้ว”
ซูโหรวเล่าเรื่องที่เกิดเมื่อวานจนจบในเฮือกเดียว หลังจากดื่มชาอึกหนึ่งก็หันไปมองทางมู่เหยา
พักใหญ่ มู่เหยาถึงย่อยเรื่องราวนี้หมด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...