ตระกูลที่ทรงอำนาจดั่งจวนแม่ทัพเจิ้นกั๋วเช่นนี้ ย่อมไม่เต็มใจส่งบุตรสาวเข้าวังหลวงเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท!
ใครบ้างจะไม่รู้ว่าสถานการณ์ในราชสำนักนั้นผันผวนเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ พวกเขาย่อมไม่อยากให้บุตรสาวต้องไปตกระกำลำบาก
“บัดนี้หัวใจทั้งดวงของเยว่อิงล้วนอยู่ที่องค์รัชทายาทแล้ว พูดไปก็ไร้ประโยชน์ พี่หญิงเพียงช่วยจับตาดูระยะห่างของคนทั้งสองไว้ก็พอ”
มู่เหยารู้ดีว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์ จึงได้แต่เอ่ยเช่นนี้
เมื่อเห็นนางกล่าวเช่นนี้ หลันอิ๋งก็มีแผนในใจ ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
หลังจากไถ่ถามเรื่องอื่น ๆ อีกเล็กน้อย มู่เหยาจึงพาหนิงจู๋ออกจากจวนแม่ทัพเจิ้นกั๋ว
เป็นเวลาใกล้ค่ำพอดี แลเห็นขบวนรถม้าขบวนหนึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงแต่ไกล
“จวิ้นจู่ คนของจิ้นอ๋องกำลังผ่านด่านตรวจอยู่ พวกเราจะหยุดดูด้วยหรือไม่เพคะ?”
“มิต้อง กลับจวนเลย”
สิ้นเสียงของมู่เหยา รถม้าก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางของจวนจงซู่โหวทันที
เพียงแต่ที่หน้าประตูเมืองหลวง จิ้นอ๋องอวิ๋นหลานผู้สง่างามอยู่บนหลังม้าสูงใหญ่ ทอดสายตามองไปยังรถม้าคันเดียวที่หันหลังจากไป
ในใจเกิดความสงสัย
“นั่นเป็นรถม้าของจวนจงซู่โหวหรือ?”
คนรับใช้ชำเลืองมอง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับจิ้นอ๋อง
จิ้นอ๋องแย้มยิ้ม ปลายตามองบุรุษชุดดำที่ผ่านด่านตรวจเข้ามาก่อน และกำลังขยับมาอยู่ข้างกายอย่างเชื่องช้า
แววตาของเขาฉายประกายลึกลับวูบหนึ่ง แต่เมื่อสบตากับอีกฝ่าย ก็แปรเปลี่ยนเป็นสายตาอ่อนโยนของพี่ชายที่มองน้องชาย
“เยี่ยนสวิน นี่เจ้าออกไปเที่ยวเล่นอีกแล้วหรือ?”
เยี่ยนสวินเหลือบมองจิ้นอ๋องด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะพลิกตัวลงจากหลังม้าและหาวออกมาอย่างเกียจคร้าน
“ที่แท้ก็คือจิ้นอ๋องนี่เอง ดูจากขบวนทัพนี้แล้ว เสด็จพี่ตั้งใจจะพำนักในเมืองหลวงเป็นระยะยาวหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นชาในน้ำเสียงของบุรุษ รอยยิ้มบนใบหน้าของจิ้นอ๋องก็จางลงเล็กน้อย
เขาแย้มยิ้ม “เสด็จพี่มีราชโองการให้ข้ากลับเมืองหลวง ย่อมต้องการให้ข้าพำนักอยู่ที่นี่เป็นระยะยาว แต่กลับได้ยินมาว่าซูหรงกลับมาแล้วมิได้พัวพันอยู่กับเจ้า นับว่าน่าแปลกใจยิ่งนัก”
เมื่อเอ่ยถึงองค์หญิงซูหรง สีหน้าของเยี่ยนสวินก็ยิ่งเคร่งขรึมลง
สายตาที่มองไปยังจิ้นอ๋องก็แฝงไปด้วยความท้าทาย “แทนที่จะเป็นห่วงข้า จิ้นอ๋องสู้เอาเวลาไปคิดหาทางทูลอธิบายเรื่องหอชุนเซียงกับฝ่าบาทจะดีกว่ากระมัง อย่างไรเสีย การกลับมาเมืองหลวงของท่านครั้งนี้ เกรงว่าจะมิได้มีวาสนาเสวยสุขเท่าใดนัก”
คำพูดนี้ทำเอาเหล่าข้ารับใช้ที่อยู่รายรอบเหงื่อไหลซึม
จิ้นอ๋องผู้มองลงมาจากหลังม้า เมื่อสบเข้ากับสายตาของเยี่ยนสวิน หัวใจก็สั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อย
ม้าใต้ร่างราวกับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเขา เริ่มมีท่าทีร้อนรนกระสับกระส่าย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...