“ได้ รบกวนหลี่กงกงแล้ว”
หลี่กงกงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบก้าวเข้าไปในห้องทรงพระอักษร
“กลับมาแล้วรึ”
ฮ่องเต้กวาดสายตาไปมองหลี่กงกง พลางเก็บฎีกาในมือ
บนนั้นคือฎีกาของตระกูลเฉินที่กล่าวโทษข่าวลือในเมืองหลวง พร้อมทั้งทูลขอให้สืบสวนอย่างถึงที่สุด
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมยืนดูอยู่ครู่ใหญ่ จิ้นอ๋องและฉู่อ๋องดูผิวเผินแล้วเหมือนจะปรองดองกันดี แต่แท้จริงแล้ววาจาแต่ละประโยคล้วนแฝงหนามคม คอยทิ่มแทงจุดอ่อนของอีกฝ่ายพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นเจ้ากำลังจะบอกว่า ทั้งสองคนบาดหมางกันมานานแล้วใช่หรือไม่?”
ฮ่องเต้กล่าวอย่างไม่รีบร้อน ลุกขึ้นแล้วมองไปยังร่างเงาที่ยืนอยู่ด้านนอกตำหนัก มุมปากยกขึ้นอย่างเย็นชา
เมื่อหลี่กงกงได้รับสัญญาณทางสายตา ก็หันไปเรียกเยี่ยนสวินที่ยืนอยู่ด้านนอกให้เข้ามาข้างใน
ฮ่องเต้กลับไปประทับบนบัลลังก์มังกร ยกชาขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วปลายตามองเยี่ยนสวินที่กำลังคุกเข่าคำนับอยู่บนพื้น
“อย่างไรเสียก็เป็นคนที่จะออกเรือนแล้ว กิริยาท่าทางก็ดูมีระเบียบแบบแผนขึ้นไม่น้อย เอาล่ะ ลุกขึ้นเถิด”
เยี่ยนสวินจึงลุกขึ้นอย่างอิดออด พร้อมกับยิ้มประจบประแจงให้ฮ่องเต้บนบัลลังก์ “กระหม่อมก็ต้องรักษากฎระเบียบหน่อยสิพ่ะย่ะค่ะ”
“ข่าวลือในเมืองหลวง เจ้ารู้เรื่องแล้วหรือยัง”
เยี่ยนสวินกะพริบตาปริบ ๆ แล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนระทวย “ข่าวลืออันใดกันพ่ะย่ะค่ะ? หรือว่ามีใครทูลฟ้องเรื่องที่กระหม่อมไปหอชุนเซียงอีกแล้ว? กระหม่อมไปเพื่อสืบราชการ ฝ่าบาทจะทรงลงโทษกระหม่อมมิได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้จ้องมองเขาอย่างแนบเนียน สายตาจับจ้องปฏิกิริยาของเขาพร้อมฉายแววมืดมิดในแววตา
แล้วจึงทรงโยนฎีกาของตระกูลเฉินบนโต๊ะลงไปแทบเท้าของเขา
“เจ้าดูเองเถิด แล้วจงอธิบายให้เราฟัง!”
เยี่ยนสวินจึงเลิกทำท่าทีเหลาะแหละ ก้มลงเก็บฎีกาบนพื้นขึ้นมา เมื่อเห็นข้อความบนนั้นชัดเจน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
เขารีบคุกเข่าลงกลางท้องพระโรง “ขอฝ่าบาททรงโปรดพิจารณา กระหม่อมมิเคยมีใจคิดคดเป็นอื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
เยี่ยนสวินคุกเข่าอยู่กลางท้องพระโรง ทั่วทั้งร่างแผ่ประกายแห่งความเคารพนอบน้อมออกมา
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น ร่างที่ประทับอยู่บนบัลลังก์สูงก็ยังคงไร้ซึ่งปฏิกิริยาใด ๆ
เยี่ยนสวินสัมผัสได้ถึงสายตาที่กำลังพินิจพิเคราะห์จับจ้องมายังตน เขายังคงคุกเข่าอยู่เช่นนั้น บนใบหน้าปรากฏเพียงความหวาดหวั่น มิได้มีอารมณ์อื่นใดอีก
ผ่านไปเนิ่นนาน ผู้ที่ประทับอยู่เบื้องบนจึงมีรับสั่งออกมา
“เราย่อมรู้ดีถึงความภักดีของเจ้า เพียงแต่ตอนนี้ขุนนางร้อยคนต่างพากันยื่นฎีกาประณามเจ้าด้วยเรื่องข่าวลือนี้ เราเองก็มิอาจเพิกเฉยได้”
“หากฝ่าบาทไม่เชื่อใจกระหม่อม จะค้นจวนของกระหม่อมตามใจก็ได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่มีใจคิดคดต่อฝ่าบาทเป็นอันขาด!”
ทุกถ้อยคำของเยี่ยนสวินล้วนหนักแน่นจริงจัง ใบหน้าไม่หลงเหลือแววล้อเล่นดังเช่นแต่ก่อน
ที่ทำไปก็เพื่อหวังให้ฮ่องเต้พระองค์นี้ทรงคลายความระแวงลง
เขาเอาแต่ก้มหน้า แม้มองไม่เห็นสีหน้าของฮ่องเต้ แต่เพียงสัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องมา
ก็พอจะคาดเดาได้หลายส่วน
ฮ่องเต้ไม่ทรงเชื่อเขา!


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...