ดูหมือนว่า...จะต้องหาวิธีจัดการคนในเรือนหว่านชุนเสียหน่อย!
ผ่านพ้นช่วงเวลาที่สงบสุขไปได้ช่วงหนึ่ง พริบตาเดียวก็ถึงวันงานชุมนุมกวีแล้ว
มู่เหยาตั้งใจเลือกใส่ชุดกระโปรงผ้าไหมสีเขียวอ่อน และสวมเสื้อคลุมที่ปักลวดลายใบไผ่ห้าใบ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคุณหนูมาจากตระกูลขุนนาง
ที่ใบหน้าแต้มแต่งแค่เพียงเล็กน้อย ก็งามพอที่จะทำให้สาวใช้ในจวนต้องตะลึง
“ข้าว่าสวมผ้าคลุมไปดีกว่า”
เมื่อมองดูตัวเองในกระจก มู่เหยารู้สึกว่ามันดูโดดเด่นเกินไปหน่อย ถึงแม้จะสวมผ้าคลุมหน้าแล้ว แต่ดวงตาที่สดใสคู่นั้นก็ยังคงตรึงสายตาของผู้คนอยู่ดี
ขณะที่กำลังจะขึ้นรถม้า ลุงหวังก็ถือจดหมายมาให้ด้วยความรีบร้อน “คุณหนู จดหมายจากหลันซื่อมาแล้วขอรับ”
ดวงตาของมู่เหยาฉายความดีใจขึ้นมาทันที หลังจากรับจดหมายมาแล้วก็เข้าไปในรถม้า
ระหว่างทางที่ไปนางก็แกะจดหมายอ่านอย่างละเอียด แต่กลับต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ ทำไมสีหน้าถึงเป็นเช่นนี้?” หนิงจู๋แสดงความกังวลออกมา เพราะนางเพิ่งเคยเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดเช่นนี้ของคุณหนูเป็นครั้งแรก
แม้แต่ตอนที่จะไปถอนหมั้น ก็ยังไม่เคยมีสีหน้าเช่นนี้มาก่อน
“ท่านตาจะยกครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ที่เมืองหลวง อีกห้าวันก็จะมาถึง ท่านบอกข้าว่าเจอกันแล้วค่อยคุยกันอย่างรายละเอียดอีกที”
มือที่มู่เหยาถือจดหมายอยู่กำแน่นขึ้นเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่นี่เป็นเรื่องดีแท้ๆ แต่ในใจของนางกลับรู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
“นี่เป็นเรื่องดีนี่เจ้าค่ะ ทำไมคุณหนูถึงไม่ดีใจล่ะ?”
หนิงจู๋เป็นสาวใช้ที่มารดาของมู่เหยาพามาด้วยจากตระกูลหลันเมื่อตอนนั้น ย่อมมีความผูกพันกับทางตระกูลหลันอยู่แล้ว
“ตอนนี้ก็เหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงสิ้นปีแล้ว ตามหลักแล้วช่วงเวลานี้ควรจะเป็นช่วงที่กิจการของตระกูลกำลังไปได้ดีที่สุด ทว่าท่านตากลับทุ่มทั้งเวลาและกำลังพลในการย้ายครอบครัวเข้ามาในเมืองหลวง นั่นก็หมายความว่าการค้าของหลันซื่อที่เจียงหนาน อาจจะประสบปัญหาใหญ่ขึ้นแล้วก็เป็นได้”
เดิมทีหลันซื่อเป็นตระกูลพ่อค้า บรรพบุรุษรุ่นทวดยังเคยเป็นถึงพ่อค้าหลวง ต่อมาด้วยเหตุผลบางประการทำให้ตำแหน่งพ่อค้าหลวงก็ตกไปอยู่ในมือผู้อื่น
แต่ถึงกระนั้นรากฐานของหลันซื่อในแถบเจียงหนานจะเรียกได้ว่ามั่นคงแข็งแรงอย่างยิ่งก็ว่าได้ ตอนนี้จะย้ายเข้าเมืองหลวง เกรงว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้นเลยหรือเปล่า?
หนิงจู๋เองก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้แล้วเช่นกัน จึงเริ่มกระวนกระวายใจ “คุณหนู จะให้บ่าวไปสืบข่าวดูไหมเจ้าคะ?”
มู่เหยาพยักหน้าแล้วนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงพูดว่า “ท่านอ๋องต้องเดินทางผ่านไปแถบเจียงหนาน คืนนี้ข้าจะเขียนจดหมายฝากท่านอ๋องไปช่วยสืบถาม”
คนที่ตัวเองหามาเอง เกรงว่าจะสืบอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเยี่ยนสวินจะต้องทำได้แน่!
อย่างน้อยก่อนที่ท่านตาจะเข้าเมืองหลวงมา นางก็ต้องรู้ก่อนให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลันซื่อตอนที่อยู่ที่เจียงหนาน!
“หากท่านอ๋องได้รับจดหมายที่คุณหนูเขียน คงจะดีพระทัยอย่างยิ่ง”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...