เข้าสู่ระบบผ่าน

ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง นิยาย บท 31

แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเป็นการแสดงที่น่าสนใจ แต่คนส่วนใหญ่กลับรู้สึกว่าการปรากฏตัวของหลิ่วซีอินลดระดับของงานชุมนุมกวีลง

หลายคนถึงกับย้ายไปนั่งที่อื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการข้องเกี่ยวกับหลิ่วซีอิน

หลิ่วซีอินก็ไม่ได้ใส่ใจ ดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ราวกับดอกท้อจ้องมองไปยังมู่เหยา

มู่เหยาจิบชา แววตาดูเฉยเมยแต่แฝงไปด้วยความเย็นชา “อนุหลิ่ว เจ้าเรียกข้าว่าพี่หญิงซ้ำ ๆ กำลังเรียกเสี้ยนจู่อย่างข้างั้นหรือ?”

คำว่าเสี้ยนจู่คำเดียว สร้างระยะห่างทางสถานะระหว่างคนทั้งสองทันที

สีหน้าของหลิ่วซีอินแข็งทื่อ มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกำแน่น

“หรือว่าจวนผิงหยางโหวไม่ได้สอนกฎเกณฑ์แก่อนุหลิ่ว?” มู่เหยามองนางด้วยแววตาขบขัน ความหมายนั้นชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใด

มุมปากของหลิ่วซีอินกระตุก นางฝืนยิ้มออกมาแล้วย่อตัวคารวะมู่เหยาที่นั่งอยู่เล็กน้อย “ซีอินคารวะมู่เสี้ยนจู่เพคะ”

มู่เหยาจิบชาแล้ว “อืม” คำหนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น

“บัดนี้ข้ากับจวนผิงหยางโหวไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว วันหน้าหากอนุหลิ่วพบข้า ก็อย่าได้เรียกพี่สาวอีกเลย ควรจะเรียกข้าว่าเสี้ยนจู่ให้ถูกต้อง ท้ายที่สุดแล้ว...พี่สาวของอนุหลิ่วนั้น ใช่ว่าใครก็อยากจะเป็น”

อนุภรรยาคนหนึ่งเรียกผู้อื่นว่าพี่สาว ย่อมทำให้คนรู้สึกรังเกียจ

เดิมทีมู่เหยาไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ แต่เพราะวันนี้มีคนอยู่มาก หากนางไม่ทำอะไรเลย เกรงว่าคนอื่นจะคิดว่านางอ่อนแอและรังแกได้ง่าย

เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะมีแต่เรื่องยุ่งยากตามมาไม่สิ้นสุด

ที่นางจงใจพูดเช่นนี้ในตอนนี้ ก็เพื่อให้พวกที่คิดจะหาเรื่องอยู่เบื้องหลังได้ตระหนักถึงสถานะของตนเอง

“เพคะ ซีอินจะจดจำคำสั่งสอนของเสี้ยนจู่ไว้เป็นอย่างดี”

หลิ่วซีอินพูดพลางดวงตาก็เริ่มแดงก่ำ ผู้ที่ไม่รู้เรื่องอาจคิดว่ามู่เหยาตำหนินาง

เมื่อเห็นท่าทีของหลิ่วซีอินเปลี่ยนไปเช่นนี้ ทั้งยังมองไปทางด้านหลังนางบ่อยครั้ง มู่เหยาไม่ต้องหันกลับไปก็เดาได้ว่านางกำลังมองใครอยู่

มู่เหยารู้สึกเบื่อหน่ายอย่างยิ่ง ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นเพื่อย้ายไปนั่งที่อื่น เสียงฝีเท้าด้านหลังก็ดังเร็วยิ่งขึ้น

“คุณชายใหญ่ลู่ ที่นี่เป็นที่สำหรับสตรี!”

เสียงตวาดอันเฉียบขาดขององค์หญิงใหญ่ ทำให้เท้าของลู่จื้อที่กำลังจะก้าวเข้ามาในฉากกั้นต้องชะงักและถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่างานชุมนุมกวีนี้บุรุษและสตรีจะสามารถร่วมประชันฝีมือกันได้ แต่ฝ่ายของเหล่าสตรีล้วนมีฉากกั้นบังไว้ มองเห็นได้เพียงเงาร่างเลือนรางเท่านั้น

อีกทั้งงานชุมนุมกวีนี้ยังจัดขึ้นโดยองค์หญิงใหญ่ เหล่าสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์จึงกล้ามาเข้าร่วม

“ขอองค์หญิงใหญ่ทรงพระเจริญ”

เสียงถวายพระพรดังขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า ลู่จื้อเหลือบมองไปยังร่างในอาภรณ์สีเขียวอ่อนหลังฉากกั้นด้วยแววตาดุดัน ก่อนจะถวายพระพรอย่างนอบน้อมแล้วจึงจำใจหันกลับไปยังส่วนของบุรุษทางด้านซ้าย

ทว่าการกระทำอันอุกอาจของลู่จื้อนี้ ก็ยังคงสร้างความขุ่นเคืองให้แก่เหล่าคุณหนูทั้งหลายไม่น้อย

กระทั่งสายตาที่พวกนางใช้มองหลิ่วซีอินก็ยังแฝงแววไม่เป็นมิตร

เพียงแต่เกรงในองค์หญิงใหญ่ที่เสด็จมาถึงแล้ว จึงมิได้เอ่ยคำพูดเยาะเย้ยถากถางออกมา

“นั่งลงเถิด”

ตอนที่ 31 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง