เข้าสู่ระบบผ่าน

ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง นิยาย บท 309

ซูหรงจะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไรกัน

นางเย้ยหยันในใจ ยิ่งรู้สึกว่าไทเฮาพระองค์นี้ช่างไม่เอาไหนเสียจริง

“ไทเฮา เหตุใด…เหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนี้ แม้หม่อมฉันจะอิจฉาที่มู่จวิ้นจู่เป็นที่โปรดปรานของฉู่อ๋อง แต่หม่อมฉันเป็นเพียงองค์หญิงที่อยู่ในวังหลวง จะมีปัญญาพาคนเข้ามาในตำหนักโซ่วคังที่อยู่ภายใต้อำนาจของท่านได้อย่างไรกันเพคะ?”

ไทเฮาเบิกตากว้าง ผุดลุกขึ้นจากที่นั่งทันที

“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร หรือจะบอกว่าคนผู้นี้เป็นข้าที่นำเข้ามา!”

ซูหรงไม่ตอบคำ เพียงแต่ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดบังใบหน้าแล้วร่ำไห้สะอึกสะอื้น

ท่าทางนั้น ราวกับนางเป็นผู้ที่ถูกกระทำอย่างแท้จริง

“จะร้องไห้ทำไมกัน พูดกับข้าให้รู้เรื่อง!”

ไทเฮารู้สึกได้ถึงสายตาของฮ่องเต้ที่มองมา ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวในใจมากขึ้นไปอีก

จึงตวาดลั่นออกมาด้วยความโมโห

ยามนี้ างสิ้นไร้ซึ่งความสง่างามของตำแหน่งไทเฮาโดยสิ้นเชิง กลับดูคล้ายหญิงชาวบ้านปากตลาดที่ไร้เหตุผล!

“เสด็จพี่ ซูหรงไม่ได้ทำจริง ๆ นะเพคะ”

ซูหรงคุกเข่าคลานไปเบื้องหน้า “แม้ซูหรงจะเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นอวิ๋น แต่ในวังหลวงก็ใช่ว่าจะมีอำนาจล้นฟ้า”

“อีกอย่าง ต่อให้เป็นซูหรง ก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะทำร้ายคุณหนูมู่ให้มีสภาพเช่นนี้ได้หรอกเพคะ”

นางกล่าวพลางเอนกายไปด้านข้างอย่างอ่อนแรง

ทว่าฮ่องเต้คร้านจะมองท่าทีเสแสร้งของนาง แต่กลับจับจ้องไปยังร่างของมู่เหยาที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น

“จวิ้นจู่สกุลมู่ เจ้าลองพูดมาสิ ว่าผู้ใดทำร้ายเจ้า”

ไทเฮาและซูหรงเงียบเสียงลงทันที สายตาทั้งสองคู่จับจ้องไปยังมู่เหยาเป็นตาเดียว

แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยการข่มขู่ ต่างก็ไม่ต้องการได้ยินชื่อของตนเองหลุดออกมาจากปากของนาง

ร่างของมู่เหยาสั่นคลอน หากมิใช่เพราะมีฮูหยินเฒ่าเซียวประคองไว้ ป่านนี้นางคงล้มฟุบลงกับพื้นไปแล้ว

“อาหน่วน เจ้าพูดออกมาเถิด ข้าจะสนับสนุนเจ้าเอง”

ฮูหยินเฒ่าเซียวปลอบโยนด้วยความเจ็บปวดใจ

มู่เหยามองฮูหยินเฒ่าเซียวอย่างซาบซึ้ง จากนั้นจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ค่อย ๆ ยกนิ้วที่บวมแดงขึ้น แล้วชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง

ผู้ที่ถูกชี้ตัว ผุดลุกขึ้นจากพื้นทันที

“มู่เหยา เจ้าพูดจาเหลวไหล!”

มู่เหยายิ้มอย่างจนปัญญา “องค์หญิงซูหรงช่างวางแผนได้แยบยลนัก กินยาแสร้งว่าถูกพิษ สร้างเรื่องแหกคุกขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่แท้จริงแล้วกลับนำตัวข้าไปขังไว้ในห้องลับ”

“หลายวันที่ผ่านมาไม่ให้ข้ากินไม่ให้ดื่ม ทรมานข้ายามค่ำคืนมิได้หยุดพัก มาบัดนี้กลับเสแสร้งราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น... องค์หญิง แสดงได้แนบเนียนยิ่งนัก”

เมื่อพูดจบสองประโยคนี้ มู่เหยาราวกับใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่ ทรุดกายนั่งลงในอ้อมกอดของฮูหยินเฒ่าเซียวอย่างหมดแรง

เมื่อรอยแส้บนร่างเสียดสีกับอาภรณ์ ก็ทำให้นางต้องสูดลมหายใจด้วยความเจ็บปวด

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง