“ข้าเห็นว่าเจ้าคงถูกคนในห้องนั้นปั่นหัวจนโง่งมไปแล้ว ถึงกับกล้าเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา! คุณหนูมู่เป็นศิษย์ของมู่ฮูหยิน เพียงตำแหน่งผู้ชนะเลิศเล็กน้อย เหตุใดจะคว้ามาไม่ได้!”
คำพูดของผิงหยางโหวนี้ฟังดูคล้ายกำลังตำหนิติเตียนลู่จื้อ แต่เมื่อเข้าหูคนทั้งหลายกลับรู้สึกว่ามันออกจะแปลกอยู่บ้าง
แม่ทัพเฒ่าเจียงเองก็เดินออกมาข้างหน้าในยามนี้ หลังจากเหลือบมองหลานสาวของตนแล้ว จึงแย้มยิ้มอย่างเมตตาพลางมองไปยังมู่เหยา “แม่หนูสกุลมู่ วันหน้ามาที่จวนแม่ทัพบ่อย ๆ หน่อยเถิด หลานสาวของข้าผู้นี้ เรื่องการร่ำเรียนของนางทำเอาข้าปวดหัวจริง ๆ”
เมื่อมองออกว่าแม่ทัพเฒ่ามีทีท่าจะปกป้องนาง มู่เหยาจึงย่อกายคารวะและพยักหน้าอย่างว่าง่าย
“เพียงท่านแม่ทัพเฒ่าเจียงไม่รังเกียจว่าข้าโง่เขลาก็พอแล้วเจ้าค่ะ”
“ฮ่า ๆ ๆ ไม่รังเกียจ ไม่รังเกียจ อย่าเห็นว่าข้าแก่แล้ว แต่ข้าไม่ใช่คนเฒ่าสายตาฝ้าฟางที่จะมองเห็นตามุกปลาเป็นไข่มุกแท้ได้หรอก”
เสียงหัวเราะอันดังของแม่ทัพเฒ่าเจียงที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยันบางเบา ทำให้ผิงหยางโหวรู้สึกว่าใบหน้าแก่ ๆ ของตนนั้นเสียจนไม่เหลือชิ้นดี
ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยขายหน้าเท่าช่วงนี้มาก่อน
“กลับบ้าน!”
เขาตะโกนอย่างฉุนเฉียว สะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังจากไป
ลู่จื้อแม้ใจจะไม่ยินยอม แต่ก็หวาดกลัวผิงหยางโหวจะโกรธเป็นอย่างยิ่ง จึงรีบร้อนวิ่งตามไป
ส่วนหลิ่วซีอินยิ่งไม่ต้องพูดถึง ก้มหน้าต่ำ ไม่เหลือความหยิ่งผยองยามมาถึงแม้แต่น้อย ประหนึ่งสุนัขพ่าย
“มู่เสี้ยนจู่ วันหน้าข้าเรียกท่านว่าพี่มู่ได้หรือไม่เจ้าคะ?”
ผู้ที่เอ่ยปากคือเจียงเจา หลานสาวทางฝั่งมารดาเพียงคนเดียวของแม่ทัพเฒ่าเจียง
เจียงเจานั้นทั้งขาวทั้งนุ่มนิ่มราวกับตุ๊กตาหยกสลัก ดูคล้ายตุ๊กตาเด็กน้อยมงคลในภาพวาดอวยพรปีใหม่ไม่มีผิดเพี้ยน มองอย่างไรก็น่ารักน่าเอ็นดู ทำให้มู่เหยารู้สึกชื่นชอบอยู่หลายส่วน
นางยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้า “น้องหญิงเจียงเจา ถ้าเจ้าเรียกแล้วถนัดปากก็ดีแล้ว”
เพิ่งพูดจบ ก็เห็นเด็กหญิงตัวน้อยมองนางด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยความชื่นชมบูชา แต่คำพูดที่เอ่ยออกมากลับทำให้มู่เหยาใจสั่นสะท้าน
“พี่มู่ ท่านแม่ของข้าพูดไว้ไม่ผิดจริง ๆ ท่านคือแบบอย่างที่สตรีทั่วใต้หล้าควรเอาเยี่ยงอย่าง ท่านแม่ยังบอกอีกว่าจวนผิงหยางโหวช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง รังแกพี่หญิง หากข้าเป็นเด็กผู้ชาย จะต้องไปสู่ขอท่านถึงบ้านเป็นแน่”
มารดาของเจียงเจานั้นก็เกิดที่เจียงหนาน แต่กลับไม่มีความอ่อนหวานนุ่มนวลอย่างสตรีเจียงหนาน มิหนำซ้ำยังมีนิสัยเป็นตัวของตัวเองอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มให้สตรีในเมืองหลวงฝึกฝนวรยุทธ์เป็นคนแรกอีกด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือ นางเป็นคนมีเหตุผล
“ฮูหยินใหญ่เจียงกล่าวชมเกินไปแล้ว” มู่เหยาบังเกิดความสงสัยใคร่รู้ในตัวฮูหยินใหญ่เจียงผู้นี้ พลางครุ่นคิดว่าเมื่อได้พบกันครั้งหน้า จะต้องไปเยี่ยมเยียนคารวะเสียหน่อย
อย่างน้อยถ้อยคำของฮูหยินใหญ่เจียง ก็ช่วยให้ความหนักอึ้งในใจนางเบาบางลงได้บ้าง
นางหรือจะไม่รู้ว่าโลกนี้อยู่ยากเพียงใด โดยเฉพาะสตรีนั้นยิ่งยากลำบากกว่า
ที่นางตัดสินใจคุกเข่าหน้าประตูวังในวันนั้น ก็ด้วยหวังว่าหากวันข้างหน้ามีสตรีใดต้องประสบกับความอัปยศเช่นนี้อีก จะได้มีกำลังลุกขึ้นต่อต้าน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...