“เป็นเพียงราชเลขาผู้หนึ่ง จะมีเกียรติยศเทียบเท่าตระกูลเดิมของข้าได้อย่างไร! มีสถานะอันใด ถึงกล้ามาเทียบเคียงกับข้าและลูกชายลูกสะใภ้ของข้า! เป็นตัวอะไร!”
ฮูหยินเฒ่าเซียวแค่นเสียงเย็นชา พลางชี้ไปยังเครื่องประดับศีรษะชุดมรกตที่เก็บไว้ “เอาชุดนี้ แล้วก็ใช้ผ้าอวิ๋นจิ่นตัดชุดใหม่ให้พวกเราแม่ลูกด้วย!”
แม่นมฟังกะพริบตา “แล้วท่านอ๋องเล่าเจ้าคะ?”
“จะไปสนใจเขาทำไม วันนั้นเขาคงต้องสวมชุดตามยศศักดิ์ของอ๋องอยู่แล้ว แค่นั้นก็เพียงพอที่จะตบหน้าครอบครัวนั้นได้แล้ว”
แคว้นอวิ๋นไม่ได้มีกฎเกณฑ์หยุมหยิมนัก เพียงแค่ฝ่ายชายต้องสวมชุดตามยศศักดิ์ ส่วนวงศ์ตระกูลฝ่ายหญิงสามารถแต่งกายได้ตามใจชอบ ขอเพียงไม่เกินงามก็พอ
นับเป็นอีกวิธีหนึ่งในการแสดงความเจริญรุ่งเรืองของแคว้นอวิ๋น
เพราะการแต่งกายของเหล่าสตรีในตระกูล สามารถสะท้อนให้เห็นถึงบารมีของตระกูลนั้น ๆ ตลอดจนความแข็งแกร่งของทั้งแคว้นได้!
“เจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปเรียนท่านอ๋องและพระชายาเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
ฮูหยินเฒ่าเซียวชี้ไปยังเครื่องประดับศีรษะที่ทำจากโมราสีม่วงอ่อนอีกชุดหนึ่ง “เจ้านำชุดนี้ไปให้อาหน่วนด้วย ส่วนสีของผ้าอวิ๋นจิ่นก็ให้เลือกตามสีของเครื่องประดับศีรษะชุดนี้”
ผ้าอวิ๋นจิ่น แม้แต่ในวังหลวงก็นับว่ามีไม่มากนัก
แต่ในจวนฉู่อ๋องกลับมีอยู่อย่างน้อยสิบกว่าพับ แทบจะมีครบทุกสี สีละหนึ่งพับ
ล้วนเป็นสิ่งที่ฮูหยินเฒ่าเซียวนำมาจากตระกูลเดิม หรือไม่ก็เป็นของที่เซียวฮองเฮาประทานให้
ผ้าอวิ๋นจิ่นหนึ่งพับ มีค่าเทียบเท่าทองคำหนึ่งตำลึง
“เจ้าค่ะ”
แม่นมฟังหยิบของแล้วจากไป ส่งของไปยังเรือนฝั่งตะวันออก
มู่เหยามองเครื่องประดับเกศาที่วางอยู่บนโต๊ะ แม้จะเป็นคนที่เคยพบเห็นของล้ำค่ามามาก แต่ก็อดที่จะตื่นตะลึงไปกับความงามของเครื่องประดับที่ทำจากโมราสีม่วงอ่อนชุดนี้ไม่ได้
ต้องรู้ก่อนว่าโมราสีม่วงอ่อนนั้นหาได้ยากยิ่งนัก
การมีเครื่องประดับเกศาเช่นนี้หนึ่งชุด ก็เปรียบเสมือนการแบกบ้านหลังหนึ่งในเมืองหลวงไว้บนศีรษะ
“รบกวนแม่นมฟังช่วยขอบคุณท่านแม่แทนข้าด้วย”
แม่นมฟังรับคำ ก่อนจะรับเงินรางวัลแล้วยิ้มจากไป
“ท่านแม่ช่างรักเจ้าเสียจริง คนไม่รู้คงนึกว่าข้าเป็นฝ่ายแต่งเข้าบ้านเสียอีก” น้ำเสียงเจือความน้อยใจของเยี่ยนสวินดังขึ้น มู่เหยาจึงยิ้มพลางทุบลงบนอกเขาเบา ๆ
“อย่ามาพูดจาเหลวไหลเลยเจ้าค่ะ ฟ้ามืดแล้ว ท่านยังไม่รีบไปส่งจดหมายอีกหรือ?”
วินาทีต่อมา ร่างของนางก็ถูกรวบเข้าไปในอ้อมกอดและถูกจุมพิตหนึ่งที
ยังไม่ทันที่มู่เหยาจะได้สติ คนก็หายลับไปแล้ว
นางอับอายจนต้องแสร้งทำเป็นโมโห จ้องไปยังสาวใช้สามคนที่ลอบหัวเราะอยู่ด้านข้าง
“เอาล่ะ เก็บของพวกนี้เข้าที่ แล้วนำผังที่นั่งของวันพรุ่งนี้มาให้ข้าตรวจดูอีกครั้ง อย่าให้มีสิ่งใดผิดพลาดเป็นอันขาด”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...