เมื่อเอ่ยถึงชิวหรงสีหน้าของหลันซีพลันมืดมนลง “นางมิใช่คนดีเลยสักนิด”
“ตอนนั้นเจ้ายังไม่มาจึงยังไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ และอารองก็ปกป้องราวกับเป็นแก้วตาดวงใจ ดูจากท่าทีแล้วคงต้องการเติมเต็มความรักที่เคยขาดให้เยว่อิงเอาไปเติมเต็มให้แก่เด็กนั้นแทน”
“เช่นนั้น...” มู่เหยาชะงักคำพูดไปครู่หนึ่ง “เช่นนั้นอารองเคยพูดถึงเรื่องที่จะให้นางเข้ามาอยู่ในสกุลหรือเปล่า?”
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกมาไม่ต้องรอให้หลันซีตอบ เพียงแค่เห็นสีหน้าของนางก็รู้คำตอบแล้ว
“ถูกท่านปู่ตำหนิอย่างรุนแรงไปยกหนึ่ง แต่ท่านแม่บอกว่าอารองคงไม่ยอมละทิ้งความตั้งใจง่าย ๆ หรอก คงจะก่อเรื่องวุ่นวายในจวนอีกอย่างแน่นอน”
มู่เหยานั่งลงและรินชาดื่มเพื่อบรรเทาความแห้งผากในลำคอ “เรื่องนี้เกรงว่ามิใช่ความคิดที่น้ารองเป็นฝ่ายคิดออกมาแน่ ๆ”
เพียงแค่วันนี้นางไปที่นั่นไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ชิวหรงผู้นี้ก็สามารถสร้างเรื่องวุ่นวายได้มากมายถึงเพียงนี้ ในภายภาคหน้าย่อมต้องก่อความวุ่นวายอีกเป็นแน่
เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนผู้นี้ต้องการมุ่งเป้ามาที่นาง หรือเพียงต้องการมุ่งเป้ามาที่ตระกูลหลัน
“เพียงแค่เจ้าไปวันนี้วันเดียวก็สร้างเรื่องได้มากมายถึงเพียงนี้ คนผู้นี้มิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน! ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่ลูกไม้ตื้นๆที่ใช้ก็รู้ว่ากำลังใช้ประโยชน์จากความสงสารของอารองอยู่ อีกอย่าง...อาหน่วน วันนี้เจ้ารู้สึกว่าอารองมีบางอย่างผิดปกติไปฟรือเปล่า?”
แม้หลันชิวเหิงเป็นคนมีวรยุทธ์ แต่นิสัยและอารมณ์ได้รับการสั่งสอนอบรมจากนายท่านหลันโดยตรง
เหตุไฉนในวันนี้จึงได้ไร้มารยาทถึงเพียงนั้น? ราวกับว่า...กำลังป่วยเป็นโรคอะไรก็มิปาน
เมื่อถูกหลันซีเตือนสติ มู่เหยาก็หวนนึกถึงท่าทางของหลันชิวเหิงในตอนนั้น และก็สังเกตเห็นความผิดปกติเล็กน้อยนั้นจริง ๆ
“ความหมายของเจ้าคือ...”
คนทั้งสองสบตากัน ทันใดนั้นก็ยืนยันบางอย่างได้แล้ว
“อีกไม่กี่วันเลี่ยวคังจะมาสู่ขอที่จวน ข้าจะลองขอให้เขาช่วยตรวจดูอาการให้ และก็ชิวหรงผู้นั้นด้วย จะได้รู้ว่านางป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่!”
เมื่อหลันซีนึกถึงท่าทางเสแสร้งของชิวหรงในวันนี้ในใจก็รู้สึกเอือมระอา อยากจะโยนคนผู้นี้ออกไปจากจวนหลันเสียให้รู้แล้วรู้รอด กิริยาท่าทางเช่นนั้นหากคนอื่นที่ไม่รู้จักมาเห็นคงคิดว่าเป็นสตรีจากหอคณิกาเสียอีก
“เกรงว่าการจะให้หมอเทวดาเลี่ยวตรวจดูอาการให้คงมิใช่เรื่องง่ายๆ เรื่องนี้มิอาจรีบร้อนได้ ควรจะสังเกตดูไปก่อนว่าคนผู้นี้ได้ติดต่อกับผู้ใดบ้าง”
เพียงแค่ได้พบหน้ากันครั้งนี้ มู่เหยาก็มองเห็นอะไรหลายอย่างแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้นางแปลกใจที่สุดยังคงเป็นใบหน้าที่เหมือนหลันเยว่อิงที่ถอดกันมาไม่มีผิดเพี้ยนนั้น
“พี่รอง พรุ่งนี้ท่านกลับไปที่จวนก่อนเถิด ไปดูให้แน่ชัดว่าใบหน้าของนางเป็นของจริงหรือของปลอม…อย่าลืมว่า ตอนนั้นแม้แต่ท่านอ๋องก็ยังหาศพของพี่สามไม่พบ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...