ทั้งสองสบตากันเพียงครู่ก็ต่างเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย
เมื่อเดินห่างออกมาแล้ว
ซวีเหย่ผ่อนฝีเท้าช้าลงแล้วหันไปมองคนข้างกายอย่างขบขัน “เจ้าคิดว่าสุดท้ายแล้วฮ่องเต้จะเลือกเจ้าหรือเลือกไท่จื่อ”
เยี่ยนสวินหาวอย่างเกียจคร้าน
“เป็นไท่จื่อเสียมากกว่า แต่ข้าดูจากท่าทีของฮ่องเต้แล้ว เหมือนท่านจะอยากรับองค์หญิงเข้าวังเสียเอง”
ยังไงนางก็เป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นอัน
เบื้องหลังมีทั้งแคว้นอันที่กว้างใหญ่คอยค้ำจุน
อำนาจใหญ่เช่นนี้ หากตกไปอยู่ในมือเขาหรือไท่จื่อ ฮ่องเต้ย่อมไม่สบายใจเป็นแน่!
“ฝันไปเถอะ! ซงหลิงจะเข้าวังเป็นสนมของฮ่องเต้ได้อย่างไร!”
สีหน้าของซวีเหย่เปลี่ยนไป เขาพูดด้วยความขุ่นเคือง
ราวกับว่าหากฮ่องเต้กล้าทำจริง เขาก็พร้อมจะยกทัพไปล้อมเมืองภายในไม่กี่วัน
“แต่ก็คงจะเป็นไท่จื่อ เรื่องนี้คงต้องรอดูตอนออกล่าฤดูใบไม้ผลิ”
เยี่ยนสวินพูดปลอบเสียงเบา
ทั้งสองกลับเข้าไปยังห้องจัดเลี้ยง ต่างก็แยกย้ายกันไปหาครอบครัวของตน
ซวีเหย่ไปหาซวีซงหลิง
ส่วนเยี่ยนสวินมองหามู่เหยาไม่เจอจึงคิดจะไปตามหา
อยู่ๆ ก็มีร่างหนึ่งก้าวเข้ามาขวางทางเขา
“พี่เยี่ยน”
เยี่ยนสวินเหลือบมองเห็นสีหน้าที่น้อยใจขององค์หญิงซูหรง เขาเม้มปากเล็กน้อยแล้วก้าวถอยหลังเพื่อเว้นระยะระหว่างกัน
“องค์หญิงซูหรง โปรดเรียกข้าว่าฉู่อ๋องจะเหมาะกว่า”
เมื่อได้ยินความห่างเหินในน้ำเสียงเช่นนั้น ดวงตาขององค์หญิงซูหรงก็แดงก่ำ
นางกัดริมฝีปากแน่นแล้วมองเขาด้วยสายตาเว้าวอนอันน่าสงสาร “พี่เยี่ยน เหตุใดพี่ถึงยอมให้องค์หญิงแคว้นอวิ๋นเข้าจวนฉู่อ๋อง แต่กลับไม่เลือกข้าเล่า ในสายตาของพี่ข้าช่างต่ำต้อยถึงเพียงนั้นหรือ”
เยี่ยนสวินเม้มริมฝีปาก เห็นนางก้าวเข้ามาใกล้ก็ได้แต่ถอยหลัง
“องค์หญิงซูหรง ข้าเห็นเจ้าเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น เรื่องนี้ข้าได้พูดชัดเจนกับเจ้าหลายครั้งแล้ว”
“น้องสาวรึ!”
น้ำเสียงขององค์หญิงซูหรงสั่นเครือ “หากไม่มีมู่เหยา ข้าต่างหากที่เป็นชายาเอกของพี่!”
“เหตุใดพี่ถึงไปหลงรักคนอื่นในยามที่ข้าต้องคอยปรนนิบัติไทเฮาอยู่เล่า!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...