เข้าสู่ระบบผ่าน

ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง นิยาย บท 439

“องค์หญิงผิงหยางอย่าได้ขุ่นเคืองเลย เจ้าเด็กคนนี้เติบโตอยู่ชนบทแต่เล็ก ถือเป็นความบกพร่องของพวกเราเองที่ดูแลไม่ทั่วถึง ซูหรง ยังไม่รีบมาขอขมาองค์หญิงผิงหยางอีกหรือ”

ซูหรงยกมือกุมแก้ม นางหันไปมองทางองค์หญิงใหญ่ด้วยความหวัง

อยากให้ท่านช่วยพูดแทนตนสักหน่อย

ทว่าพอเห็นแววตารำคาญขององค์หญิงใหญ่ที่เบือนหน้าหนีไป ซูหรงก็รู้ทันทีว่าความหวังนั้นสูญเปล่า

“ข้า… ข้าไม่ผิด ข้าไม่ได้ล่วงเกินเจ้า”

เสียงของซูหรงสั่นเครือแต่ยังดื้อดึง

ซวีซงหลิงมองนางราวกับมองคนโง่ นางยกคิ้วเยาะเย้ย “ในเมื่อเจ้าไม่ผิด แล้วเหตุใดข้าต้องตบเจ้าเล่า”

“เพราะ…” ซูหรงสะดุ้งเฮือกแล้วมองไปทางเยี่ยนสวิน

นางย่อมไม่กล้าเอ่ยเรื่องที่ตนเข้าไปเกาะแขนเขาเมื่อครู่ออกมา ดังนั้น... ตนจึงต้องเก็บเรื่องนี้ให้เงียบ

“ข้าขอโทษ”

ซูหรงก้มหน้าต่ำ นางทั้งอายทั้งขมขื่น

“ช่างเถอะ ข้ามิใช่คนไร้เหตุผล แต่ต่อไปเจ้าก็จงระวังปากระวังตัวให้มากขึ้น ไม่ใช่ทุกคนจะใจดีเหมือนข้าเช่นนี้”

คำพูดของซวีซงหลิงทำให้สตรีที่รายล้อมอยู่รอบด้านต่างกระตุกมุมปาก

หากองค์หญิงผิงหยางใจดีจริงๆ ก็คงไม่ลงมือหรอก

“องค์หญิงใหญ่พาซูหรงกลับไปพักเถิด เห็นทีนางจะอ่อนแรงแล้ว”

องค์หญิงใหญ่รีบเข้าไปพาซูหรงออกจากห้องจัดเลี้ยงไป

ผู้คนที่มุงดูอยู่จึงค่อยๆ แยกย้ายกันไป

เยี่ยนสวินจึงสบโอกาสเข้าไปถามซวีซงหลิงเสียงเบาว่า “เจ้าเห็นอาหน่วนบ้างหรือไม่”

“นางอยู่กับที่ไท่จื่อเฟยที่สระน้ำหลังสวนบอกว่ามีเรื่องต้องปรึกษา”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เยี่ยนสวินก็เดินไปทางสระน้ำหลังสวน

มิใช่เพื่อแอบฟัง แต่เพื่อแน่ใจว่าทั้งสองปลอดภัย

ริมสระหลังสวน

เฉินเสวี่ยและมู่เหยายืนอยู่หลังภูเขาจำลอง

มู่เหยาค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาของเพื่อนรักด้วยความสงสาร “เป็นความผิดที่ข้าเองไม่สืบให้ดีเสียก่อน ทำให้เจ้าเข้ามาอยู่ในรังหมาป่าเช่นนี้”

เฉินเสวี่ยส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ต่อให้ไม่มีเจ้า ข้าก็ต้องเป็นไท่จื่อเฟยอยู่ดี ต้องมีชะตาเช่นนี้ไม่ต่างกัน”

“แล้วเจ้าบอกเรื่องนี้กับท่านอาแล้วหรือยัง”

เฉินเสวี่ยรีบคว้ามือนางไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น “อาหน่วน ขอร้องอย่าบอกพวกท่านเลย”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง