นางลังเลอยู่ครู่ใหญ่ ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากถามออกไปอย่างไรดี
“เจ้าอยากจะถามใช่หรือไม่ว่า เหตุใดข้ารู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่ยอมบอก?”
มู่เหยาพยักหน้า
“ตอนนั้นเป็นเพียงการคาดเดา ทั้งยังได้เห็นเพียงแวบเดียว ข้าคิดไปว่าเป็นเพียงภาพลวงตาของตนเองเสียอีก มิคาดเลยว่าจะเป็นความจริง”
“ตอนนั้นข้ายังเคยนึกอิจฉานางอยู่เลย”
นางผู้นี้คือใครย่อมเป็นที่รู้กันโดยไม่ต้องเอ่ย
เกรงว่าในตอนนั้นแม้แต่ฮูหยินเฒ่าเซียวเองก็ยังไม่ล่วงรู้
หากรู้แล้วไซร้ ตอนนั้นคงเกิดเรื่องวุ่นวายไปแล้ว
“ที่พวกเขาเป็นเช่นนี้ ก็ล้วนเป็นเวรกรรมตามสนอง”
ผู้ที่ทำลายความจริงใจ สมควรตายหมื่นครั้ง!
ฮูหยินเฒ่าเซียวสะกดกลั้นอารมณ์ ข่มความขุ่นเคืองในใจลง
“ไปเถิด พวกเราไปดูการจัดเตรียมที่งงานชุมนุมกวีกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
งานเลี้ยงในครั้งนี้จวนฉู่อ๋องเป็นผู้จัดขึ้น ทั้งสองฝ่ายจึงต้องช่วยกันเตรียมงาน
แต่ก็ยังมีการแบ่งพื้นที่ไว้ ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันจนเกินไป
“เจ้าค่ะ”
ทั้งสองเปลี่ยนเป็นชุดที่ทะมัดทะแมงขึ้น ก่อนจะออกจากจวนฉู่อ๋องไป
งานชุมนุมกวีจัดขึ้นที่ริมแม่น้ำ งานเลี้ยงจึงถูกจัดวางไว้ที่ริมแม่น้ำเช่นกัน
ยามต้นฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงเวลาที่ทิวทัศน์งดงามยิ่งนัก
ทิวทัศน์ในงานชุมนุมกวีดูเรียบง่ายงดงาม
ส่วนงานเลี้ยงก็ประดับประดาด้วยบุปผาตระการตา
“พระชายาฉู่”
ขณะที่มู่เหยากับฮูหยินเฒ่าเซียวกำลังมองดูโดยรอบอยู่นั้น
ก็มีน้ำเสียงอ่อนหวานบอบบางดังขึ้นจากเบื้องหลัง
ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง ทำเอามู่เหยาฉายแววประหลาดใจออกมา
“แม่นางชิว มาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
ทว่าอีกฝ่ายเพียงยิ้มตอบนางอย่างเรียบเฉย แล้วกลับทอดสายตาไปที่ฮูหยินเฒ่าเซียวแทน
“ชิวหรงคารวะฮูหยินเฒ่าเซียว คารวะพระชายาฉู่เจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินชื่อ ฮูหยินเฒ่าเซียวก็เหลือบมองมู่เหยา
“ตระกูลหลันผู้นั้นน่ะรึ?”
ฮูหยินเฒ่าเซียวแสร้งทำเป็นสงสัย
“เจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...