มู่เหยาเอาแต่หลบหน้าไม่ยอมพบเจอ ตอนนี้ดูท่าแล้ว คงใกล้จะตายเต็มที!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ฮูหยินใหญ่จางมองบุตรสาวสุดที่รักของตนด้วยใจที่ปวดร้าว พลางดึงนางมาหลบอยู่ด้านหลัง ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่มู่เหยา
จางซิ่วหรูทำท่าจะเอ่ยปากพูด แต่ก็ถูกมู่เหยาชิงพูดตัดหน้าไปก่อน
“เป็นความผิดของข้าเอง ไม่ควรลากสังขารที่ป่วยมาร่วมงานเลี้ยงรวมญาติเทศกาลไหว้พระจันทร์ ทำให้เสียบรรยากาศเปล่า ๆ”
“ข้าจะกลับจวนตามความประสงค์ของคุณหนูใหญ่จาง เพียงแต่ขอให้ฮูหยินใหญ่จางตอบตามความจริงเมื่อฝ่าบาททรงตรัสถามด้วยเถิด”
เมื่อเอ่ยถึงฮ่องเต้ สีหน้าของฮูหยินใหญ่จางก็เปลี่ยนไปทันที
นางเพิ่งจะนึกขึ้นได้ถึงรับสั่งของฮ่องเต้ก่อนหน้านี้ ที่ให้มู่เหยาเลือกคู่ครองในงานเลี้ยงรวมญาติเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ให้ได้
หากนางต้องกลับไปเพราะคำพูดของบุตรสาวตน เช่นนั้นมิใช่ว่าจะเป็นการสร้างความขุ่นเคืองต่อฝ่าบาทหรอกหรือ!
คิ้วของฮูหยินใหญ่จางกระตุกอย่างแรงสองสามครั้ง รีบร้องเรียกมู่เหยาที่กำลังจะจากไป
“คุณหนูมู่ช้าก่อน บุตรสาวของข้ามิได้หมายความเช่นนั้น”
มู่เหยาหันกลับมา ก็เห็นฮูหยินใหญ่จางดึงจางซิ่วหรูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ยังไม่รีบขอโทษคุณหนูมู่อีก!”
จางซิ่วหรูชะงักไปครู่หนึ่ง เหลือบมองมู่เหยาที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว แล้วบิดตัวอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ ข้าไม่ได้พูดอะไรผิด ข้าไม่ขอโทษ!”
เมื่อมองบุตรสาวคนโตที่ตนตามใจจนเสียคนผู้นี้ เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินใหญ่จางรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจถึงเพียงนี้
นางสัมผัสได้ถึงสายตาของเหล่าฮูหยินจากตระกูลต่าง ๆ ที่มองมาอย่างเยาะเย้ย ความโกรธก็พลันปะทุขึ้นในใจ นางหยิกบุตรสาวอย่างแรง “ตอนนี้แม้แต่คำพูดของข้าเจ้าก็กล้าไม่ฟังแล้วใช่ไหม!”
จางซิ่วหรูเบะปากอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ถลึงตาใส่มู่เหยาแล้วกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก “เป็นข้าที่พูดผิดไปเอง คุณหนูมู่อย่าได้ถือสาเลย”
มู่เหยาไอออกมาสองสามครั้ง พลางยิ้มอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสาหรอก อันที่จริงที่คุณหนูใหญ่สกุลจางพูดก็มีเหตุผล ข้าควรจะไปเสีย เพื่อจะได้ไม่เป็นที่รังเกียจของใคร”
ขณะที่มู่เหยากำลังจะก้าวเท้าจากไป นางก็ถูกจังซื่อรั้งเอาไว้
“เจ้าเด็กคนนี้ พวกเราก็แค่พูดล้อเล่นกันสองสามประโยค เจ้าก็จริงจังไปเสียได้ เอาล่ะ ในเมื่อนางก็ขอโทษเจ้าแล้ว เจ้าก็อย่าได้เก็บมาใส่ใจเลย เดี๋ยวจะถูกคนอื่นครหาว่าใจแคบเอาได้!”
จังซื่อทำทีเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ขณะเดียวกันก็แอบขยิบตาให้พี่สะใภ้ของตน
ฮูหยินใหญ่จางเข้าใจในทันที รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ก่อนหน้านี้คุณหนูมู่เคยสัญญากับฝ่าบาทไว้ว่า จะพาว่าที่สามีมาในงานเลี้ยงรวมญาติเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย เหตุใดจึงยังไม่เห็นเลยเล่า?”
ว่าแล้ว นางก็ทำทีกวาดตามองไปรอบ ๆ
เมื่อหัวข้อนี้ถูกหยิบยกขึ้นมา เหล่าผู้คนที่เพิ่งดูเรื่องสนุกจบและคิดจะแยกย้าย ต่างก็พากันหยุดฝีเท้าอีกครั้ง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...