ในใจของมู่เหยาอบอุ่นขึ้น นางกุมมือขอฮูหยินใหญ่เจียงกลับ พร้อมกับประคองนางให้นั่งลงบนที่นั่งหลัก “ท่านน้าโปรดวางใจ เรื่องการแต่งงานระหว่างข้ากับฉู่อ๋อง พวกเราทั้งสองได้หารือกันแล้วจึงตัดสินใจ มิใช่ว่าเขาบีบบังคับข้า แต่เป็นข้าที่ปีนป่ายสูงเกินไป”
ฮูหยินใหญ่เจียงลูบหน้าอกอย่างโล่งอก แต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายของนาง ก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึง
“พูดจาเหลวไหล! เด็กสาวที่ดีพร้อมอย่างเจ้า เป็นฉู่อ๋องต่างหากที่ปีนป่ายสูงเกินไป! พวกเราจะต้องไม่ตัดพ้อต่อว่าตัวเอง ได้ยินหรือไม่?”
มุมปากของมู่เหยาปรากฏรอยยิ้มจริงใจ นางพยักหน้ารับคำ จากนั้นจึงเห็นร่างของหญิงสาวในชุดสีสันสดใสวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
ทันทีที่มาถึง นางก็พุ่งเข้ามาตรงหน้ามู่เหยา เอ่ยถามด้วยความกังวลเช่นเดียวกับฮูหยินใหญ่เจียง
“พี่หญิงมู่ ท่านถูกบีบบังคับใช่หรือไม่? หากท่านถูกบีบบังคับก็บอกข้า ข้าจะให้ท่านปู่หาหนทางทูลขอฝ่าบาท!”
ฮูหยินใหญ่เจียงยกมือป้องปากหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะดึงร่างนั้นเข้ามา “พอได้แล้ว พี่หญิงมู่ของเจ้ามิได้ถูกบีบบังคับ ต่อไปนี้ห้ามพูดเช่นนี้นอกบ้านเป็นอันขาด ฉู่อ๋องผู้นั้นนอกจากอารมณ์จะร้ายไปบ้างแล้ว เรื่องอื่นก็มิได้มีสิ่งใดไม่ดี พี่หญิงมู่ของเจ้าเป็นคนฉลาด ต่อไปภายหน้าคงไม่ลำบากจนเกินไป”
ฮูหยินใหญ่เจียงเห็นกับตาว่าในงานเลี้ยงที่วังวันนั้น ฮูหยินใหญ่เซียวปกป้องมู่เหยาเพียงใด
ด้วยนิสัยของฮูหยินใหญ่เซียวแล้ว หากคิดจะปกป้องผู้ใด นั่นย่อมหมายความว่าในใจย่อมมีความชื่นชอบอยู่บ้าง คิดว่าในอนาคตคงไม่สร้างความลำบากใจให้มู่เหยามากนัก
“วันนี้ที่มาก็เพื่อมาขออภัยโดยเฉพาะเจ้าค่ะ สองสามวันนี้ร่างกายไม่สู้ดีนัก อีกทั้งยังมีเรื่องอื่นอีก เกรงว่าจะทำให้การเรียนของเจาเอ๋อร์ต้องล่าช้าไปบ้าง”
มู่เหยากล่าวจบ หนิงจู๋ก็ประคองของขวัญในมือส่งมอบให้
เจียงเจาเป็นเด็กสาวที่ซื่อตรงและจริงใจ นางอดใจไม่ไหวรีบเปิดกล่องออกดู เมื่อเห็นกำไลหยกคู่หนึ่งที่อยู่ด้านใน ก็อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง
“ว้าว! กำไลหยกคู่นี้งดงามยิ่งนัก! มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นหยกมันแพะคุณภาพดีเลิศ! ท่านแม่ ท่านรีบดูเร็วเข้า!”
ฮูหยินใหญ่เจียงมองดูกำไลหยกที่บุตรสาวหยิบออกมา ในแววตาก็เผยให้เห็นความประหลาดใจอยู่หลายส่วน
จากนั้นจึงยิ้มอย่างจนปัญญา “แม่หนูมู่ ทำให้เจ้าต้องหัวเราะเยาะแล้ว เจาเอ๋อร์ช่างเป็นเด็กใจร้อนเสียจริง”
“เจาเอ๋อร์ที่ยังคงความซื่อตรงและน่ารักเช่นนี้ ช่างหาได้ยากยิ่งนัก”
ตระกูลใหญ่ส่วนมากมักมีสตรีอยู่มาก เมื่อมีอนุภรรยามาก ข้อพิพาทก็ย่อมมากตามไปด้วย
การที่เจียงเจาสามารถมีจิตใจเช่นนี้ได้ ช่างเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง
ดังนั้นมู่เหยาจึงเต็มใจที่จะนำของดี ๆ ออกมา เพื่อสร้างความสนิทสนมกับนาง
เมื่อออกมาจากจวนแม่ทัพเจิ้นกั๋ว ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว
มู่เหยานั่งอยู่ในรถม้าด้วยความอ่อนเพลีย นางมองกำไลหยกมันแพะบนข้อมือ พลางยกยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นคุณหนูของตนมีความสุข หนิงจู๋ก็เอ่ยขึ้นอย่างยินดี “ตอนนี้คุณหนูมีสหายที่ดีอย่างคุณหนูเจียงแล้ว ก็ยิ้มบ่อยขึ้นนะเจ้าคะ!”
มู่เหยาพยักหน้า “เจียงเจาเป็นคนดี จวนแม่ทัพเจิ้นกั๋วก็ดี ต่อไปภายหน้าพวกเราควรไปมาหาสู่กันให้มากขึ้น”
นางเป็นเพียงเด็กสาวกำพร้า ถึงแม้จะไปมาหาสู่กับจวนแม่ทัพ คนอื่นก็ไม่สามารถว่าอะไรได้
แต่ว่า...หากวันข้างหน้าต้องไปอยู่ที่จวนฉู่อ๋อง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...