“เพียงแต่เมืองอวิ๋นนั้นอยู่ห่างจากเมืองหลวงมาก ข่าวคราวเรื่องความวุ่นวายที่เกือบจะเกิดขึ้นในเมืองอวิ๋นจึงถูกคนปิดข่าวเอาไว้ ภายหลังเงินทองเหล่านั้นถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในถ้ำแห่งหนึ่ง กระทั่งไม่กี่ปีมานี้จางซิวเจิ้งจึงได้นำมันออกมา แล้วจงใจให้ข้านำเงินหลายหมื่นตำลึงไปมอบให้แก่จวนผิงหยางโหว”
พอได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหนี้ก็ก้าวออกมาข้างหน้าทันที เอ่ยถามเสียงเข้ม “แล้วถ้ำนั่น บัดนี้อยู่ที่ใด?”
“นอกเมืองหลวงไปสิบลี้ มีศาลเจ้าเทพธิดาหนี่วาที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่แห่งหนึ่ง นั่นคือสถานที่ที่จางซิวเจิ้งใช้ซุกซ่อนเงินเหล่านั้นไว้”
เมื่อได้ข้อมูลแล้ว เซี่ยหนี้ก็รีบจัดแจงคนมุ่งหน้าไปทันที
หวังเพียงว่าจะสามารถจับได้ทั้งคนทั้งของกลาง!
ทว่าเขายังคงเหลือคนไว้ส่วนหนึ่งเพื่อรอฟังความต่อที่นี่
เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ใจของมู่เหยาก็เดือดดาลจนถึงขีดสุด แต่ในใจนางยังคงมีข้อสงสัยอยู่หนึ่งอย่าง
“ถ้าเช่นนั้น เรื่องทั้งหมดนี้ ลู่เหวินเจิ้งไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยตั้งแต่ต้นจนจบงั้นหรือ?”
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจางและตระกูลลู่ มีจังซื่ออยู่ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่มีการไปมาหาสู่กัน
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นทั้งสามตระกูลยังร่วมเดินทางไปบรรเทาทุกข์ด้วยกัน หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น ลู่เหวินเจิ้งจะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร?
“เรื่องนี้ข้าไม่ทราบแน่ชัด ตอนนั้นลู่เหวินเจิ้งรับผิดชอบดูแลหมู่บ้านและตำบลที่อยู่ด้านล่าง ส่วนพ่อเจ้าและจางซิวเจิ้งรับผิดชอบดูแลอำเภอสำคัญหลายแห่ง”
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง
มีเพียงลู่เหวินเจิ้งผู้เดียวที่รอดพ้นจากเรื่องนี้ไปได้อย่างหมดจดงั้นหรือ?
มาบัดนี้ ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าเขาถูกลากเข้ามาพัวพันอย่างบริสุทธิ์ใจ
ควรจะกล่าวว่าลู่เหวินเจิ้งผู้นี้โชคดี หรือควรจะกล่าวว่า... คนผู้นี้รู้อยู่แก่ใจมาตั้งแต่ต้น แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองต้องเดือดร้อนเมื่อเรื่องแดงขึ้นมากันแน่?
แววตาของมู่เหยาไหวระริก นางกดความสงสัยในใจลง แล้วหันไปมองหลิวฉิงฮวนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“หลิวฉิงฮวน เจ้าเป็นคนที่รู้นิสัยใจคอของจางซิวเจิ้งดีที่สุด เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ เขากล้าลงมือตามลำพังเชียวหรือ?”
ร่างของหลิวฉิงฮวนสั่นสะท้าน นางก้มหน้าลงตามสัญชาตญาณ ไม่กล้าสบตามู่เหยา
ปฏิกิริยาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีเรื่องที่ปิดบังอยู่!
“หลิวฉิงฮวน เจ้าเองก็น่าจะมองออกว่าข้าเป็นคนมีนิสัยใจคอเช่นไร เรื่องที่เจ้าไม่ยอมพูดออกมา ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่พูด เจ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ หรืออยากจะตายในฐานะแพะรับบาป ก็ลองชั่งใจดูเอาเองเถิด”
ตระกูลจางก่อเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ แม้ว่าฮ่องเต้จะตั้งใจอยากจะปิดข่าว ไม่ให้เรื่องแพร่งพรายออกไป
แต่ในเมืองหลวงก็ยังคงมีข่าวลือแพร่สะพัดออกมา
จางชิงเหอและจางซิวเจิ้งย่อมไม่อาจสลัดความเกี่ยวข้องให้หลุดพ้นไปได้ คนทั้งโลกก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่มีทางเชื่อหรอกว่าสองพ่อลูกนี้จะไม่รู้อะไรเลย และทุกอย่างเป็นฝีมือของฮูหยินเพียงผู้เดียว!
“ข้า... ข้ายังมีชีวิตรอดได้อีกหรือ?” ในแววตาของหลิวฉิงฮวนปรากฏความหวัง เปี่ยมล้นไปด้วยความปรารถนาที่จะมีชีวิต
“เจ้าเป็นเพียงสตรีในบ้าน ไม่อาจทำเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ได้ หากเจ้ายอมเล่าความจริงทั้งหมดออกมาอย่างละเอียด ข้าจะหาทางเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อทูลขอความเมตตาให้เจ้า”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...