ประตูหน้าจวนสกุลมู่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน
มู่เหยาเหลือบมองบรรดาผู้คนที่กำลังกระสับกระส่าย เเล้วถือพระราชโองการหันหลังเดินเข้าจวนไป
ลุงหวังโบกมือ ให้คนปิดประตูทันที
จะได้ไม่มีใครพยายามแอบมองเข้ามา!
ตอนนี้ จวนสกุลมู่ของพวกเขาได้เปลี่ยนเป็นจวนจงซู่โหวแล้ว คุณหนูก็ได้รับเลื่อนยศจากเสี้ยนจู่เป็นจวิ้นจู่
ถือเป็นการเชิดหน้าชูตา!
ดูพวกที่เคยเยาะเย้ยลับหลังสิ ตอนนี้ยังจะมีหน้ามาทำอะไรอีก!
เรื่องที่จวนสกุลมู่เปลี่ยนเป็นจวนจงซู่โหวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงเช้า เเต่พอถึงช่วงบ่ายก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูคนจวนสกุลลู่!
“เป็นไปไม่ได้!”
จังซื่อสีหน้าบิดเบี้ยว ตบถ้วยชาบนโต๊ะจนตกเเตก ทำเอาสาวใช้ที่มารายงานข่าวถึงกับทรุดลงกับพื้นทันทีด้วยความตกใจ
จางจิ้งหรูที่นั่งอยู่ข้างๆจิบชาเบาๆในใจ เเม้จะประหลาดใจเเต่ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้อยู่เเล้ว
“ท่านเเม่สามีสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว อย่าได้โมโหเลย ระวังจะโกรธจนเสียสุขภาพ จะไม่คุ้มเอา”
จางจิ้งหรูเอ่ยออกมาเบาๆ เเต่ในดวงตาไม่มีความห่วงใยแม้แต่น้อย
กลับมีเเต่ความเยาะเย้ยเสียด้วยซ้ำ
จังซื่อไม่ได้ยินคำพูดของนาง ทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างเเรง มือจับที่เท้าเเขนเก้าอี้ไม้ลายลูกเเพร์เเน่น ราวกับจะบีบมันให้เเตก
“จะเป็นไปได้อย่างไร! นางเป็นคนอกตัญญูถึงเพียงนี้ ฝ่าบาทจะยังเเต่งตั้งให้เป็นจวนโหวเเละจวิ้นจู่ได้อย่างไร!”
จางจิ้งหรูวางถ้วยชาลง สายตาเหลือบไปเห็นเงาร่างหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในลานบ้านอย่างเร่งรีบ จึงจงใจลดเสียงลงต่ำ
“ตอนนั้นจงซู่กงเสียชีวิตระหว่างทางกลับเมืองหลวง ฝ่าบาททรงเสียพระทัยอยู่เเล้ว ยิ่งมาได้ยินเรื่องสกุลจาง ยิ่งทรงรู้สึกผิด จึงทรงชดเชยให้ เพียงเเต่น่าเสียดายที่มีคนจงใจใช้เล่ห์กล ทำให้การเเต่งงานของท่านพี่กับสกุลมู่ต้องยุติลง หากตอนนั้น…ตำเเหน่งท่านโหวเเห่งจวนจงซู่โหวในวันนี้ ไม่ใช่เป็นท่านพี่หรอกหรือ”
เมื่อเห็นแววตาของจังซื่อฉายเเววคล้ำลง จางจิ้งหรูยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เเสร้งทำเป็นถอนหายใจด้วยความเสียดาย
“น่าเสียดายจริงๆ”
สิ้นเสียง ก็เห็นลู่จื้อเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา
สายตาที่ร้ายกาจราวกับงูพิษจ้องเขม็งไปที่จางจิ้งหรู “เจ้าทำร้ายซีอินทำไม!”
ไม่ทันที่จางจิ้งหรูจะเเสร้งทำเป็นน้อยใจ จังซื่อก็ตบโต๊ะเสียงดัง ลุกขึ้นชี้หน้าลูกชายคนนี้เเล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“เจ้ารู้หรือไม่ เมื่อครู่ฝ่าบาทได้เเต่งตั้งจวนสกุลมู่เป็นจวนจงซู่โหว เเละแต่งตั้งมู่เหยาให้เป็นจวิ้นจู่”
ลู่จื้อขมวดคิ้ว น้ำเสียงเอือมระอา “ท่านแม่ ท่านไม่ได้ป่วยอะไรใช่ไหม”
จางจิ้งหรูรีบเดินเข้าไปพลางมองเขาอย่างอ่อนช้อย “ท่านพี่ คำพูดของท่านเเม่เป็นความจริง หลี่กงกงยังบอกว่าบรรดาศักดิ์ของจวนจงซู่โหวสืบทอดกันได้ หากตอนนั้นท่านพี่กับคุณหนูสกุลมู่ ไม่สิ ตอนนี้ควรเรียกว่าจงซู่จวิ้นจู่”
“หากตอนนั้นการหมั้นหมายกับจวิ้นจู่ไม่ถูกบ่อนทำลาย วันนี้ท่านพี่ก็คงเป็นท่านโหวเเห่งจวนจงซู่โหวแล้ว!”
พอได้ยินคำว่าโหวสองคำนี้ อารมณ์หงุดหงิดของลู่จื้อก็คลายลงไปเกินครึ่งทันที!
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในเมื่อท่านปันใจ งั้นข้าขอแต่งกับยอดขุนนาง
ทำไมฉันเสียเงินซื้ออ่านในเว็บไซต์ แล้วพอรีโหลดอ่านใหม่ ตอนที่ 59 ไม่ได้อีก มันขึ้นว่าขัดข้อง ขอโทษนะ เงินก็จ่ายจะขัดข้องอะไร หัดปรับปรุงระบบด้วย คนอ่านเสียอารมณ์...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...