แต่ทันทีที่เหล่าพลทหารก้าวเข้าหาไป๋ชิงหลิงในระยะประชิด มันกลับมีควันสีแดงฉานพุ่งสวนเข้าหาพวกเขา จนพวกเขาต้องพากันถอยหนี
“แสบเหลือเกิน”
“ตาข้า…”
“แค่ก แค่ก แค่ก…”
“นางจักต้องใช้มนตร์ดำกับพวกเราเป็นแน่เพคะพระชายา เรารีบออกไปจากที่นี่กันก่อนเถิดนะเพคะ!” แม่นมอันที่กำลังหรี่ตาด้วยความแสบร้อนรีบพยุงตัวไป๋จิ่นขึ้นด้วยความห่วงใย
ไป๋จิ่นจึงรีบยกมือขึ้นปิดปากปิดจมูก ก่อนจะหันไปเขม่นใส่ไป๋ชิงหลิงที่ยังคงถูกขังอยู่ในกรงว่า “ไป๋ชิงหลิง สักวันเจ้าจักต้องตายด้วยน้ำมือของข้า แค่กแค่กแค่ก…”
หลังจากที่แม่นมอันพาไป๋จิ่นกลับออกมาจากคุกใต้ดิน หรงฉีก็วิ่งตรงเข้าหาทั้งคู่ทันทีด้วยสีหน้าแตกตื่น แล้วถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นรึจิ่นเอ๋อร์?”
“ท่านอ๋องเพคะ แม่นางผู้นั้นจักต้องเป็นพวกคลั่งไสยศาสตร์มนตร์ดำเป็นแน่ แม้แต่เหล่าพลทหารเองก็ยังถูกนางเล่นงานจนอ่วม” แม่นมอันกล่าวรายงาน
หรงฉีได้ฟังดังนั้นจึงรีบเข้าประคองร่างบางของไป๋จิ่นทันทีด้วยความร้อนรน “เจ้าเจ็บตรงไหนบ้างห้ะ จิ่นเอ๋อร์ ทหาร! ไปตามหมอหลวงมา!”
“มิต้องหรอกเพคะท่านอ๋อง นางแค่ใช้ผงยี่หร่าและผงพริกป่นกับพวกเราเท่านั้น นางมิกล้าลงมือสังหารหม่อมฉันหรอกเพคะ... แต่หม่อมฉันเองก็คิดมิถึงจริง ๆ ว่านางจักเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เห็นทีเราคงต้องกลับไปคิดแผนใหม่กันแล้วล่ะเพคะท่านอ๋อง” ไป๋จิ่นกล่าวด้วยแววตาเฉียบคม
ในขณะที่หรงฉีเองก็กำลังโอบกอดร่างบางของนางไม่ยอมห่าง
“เช่นนั้น ให้ข้าเข้าไปจุดไฟเผาคุกใต้ดินเสียบัดเดี๋ยวนี้เลย ดีหรือไม่!” หรงฉีเอ่ยถามด้วยความหนักใจ
“อย่านะ!” ไป๋จิ่นจับมือหรงฉีไว้แน่น ก่อนจะกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “หลังจากที่หม่อมฉันแท้งบุตรในครั้งนั้น หมอหลวงได้บอกกับหม่อมฉันว่า หม่อมฉันจักมิสามารถอุ้มท้องได้อีกแล้วจริง ๆ ดังนั้นถ้าหากนางสามารถให้กำเนิดแฝดชายหญิงแก่เราได้ มันจักดีต่อเราทั้งสองคนมิน้อยเลยนะเพคะ อีกอย่าง ไป๋เจาเสวี่ยเองก็เป็นน้องสาวฝาแฝดของหม่อมฉัน ดังนั้นเด็กที่เกิดมา จักต้องมีหน้าตาและผิวพรรณมิต่างไปจากหม่อมฉันแน่”
“จิ่นเอ๋อร์!” หรงฉีโอบกอดไป๋จิ่นไว้แน่น ก่อนจะให้คำสัตย์กับจิ่นเอ๋อร์ไปว่า “หากเราได้ทุกสิ่งที่เราต้องการแล้ว ข้าจักสังหารนางให้ตายด้วยมือของข้าเอง”
“หากท่านอ๋องทรงรับปากกับหม่อมฉันเช่นนี้แล้ว ต่อให้หม่อมฉันต้องทนทุกข์อีกสักเท่าไร หม่อมฉันก็ยอมเพคะ”
หรงฉีได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกหวงแหนไป๋จิ่นมากขึ้นไปอีก
แต่แล้วจู่ ๆ ไป๋จิ่นก็เกิดนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันคิดว่าถ้าหากท่านอ๋องหรงและท่านพ่อของหม่อมฉันมิพบร่างของเจาเสวี่ย ท่านอ๋องหรงจักต้องมิยอมยุติการค้นหาเป็นแน่”
“เจ้ามิต้องกังวลไปหรอก เพราะข้ามีแผนแล้วล่ะ!”
“แต่ท่านอ๋องทรงอย่าลืมนะเพคะ ว่าที่บั้นเอวขวาของนาง มีปานรูปกระต่ายเป็นตำหนิอยู่”
หรงฉีจึงเรียกตัวเหล่าองครักษ์เข้ามากำชับอะไรบางอย่าง ก่อนจะพาไป๋จิ่นกลับเข้าไปในพระตำหนักของตนอย่างช้า ๆ
ณ จวนอ๋องหรง
“กระหม่อมได้ระดมกำลังค้นหาแม่นางไป๋ตามแม่น้ำทุกสาย และได้สอบถามชาวบ้านในแถบนั้นแล้ว แต่ก็ยังมิมีผู้ใดพบร่องรอยของแม่นางไป๋เลยพะยะค่ะ” ผู้นำองครักษ์เหยี่ยวดำกล่าวรายงานต่อหรงเยี่ย
“ปึง!” หรงเยี่ยยกมือขึ้นตบโต๊ะด้วยความโมโห ก่อนจะลุกขึ้นยืน
และกล่าวสั่งการด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เช่นนั้นก็ลงไปค้นหาใต้น้ำให้ทั่ว จนกว่าจักเจอร่างของนาง”
“พะยะค่ะ!”
แล้วจู่ ๆ แม่นมซั่งก็อุ้มไป๋ชงเซิงที่กำลังร้องไห้งอแงเข้ามาในลานฉงหลิง เพื่อขอให้หรงเยี่ยช่วยปลอบประโลมเด็กหญิงตัวน้อย “ท่านอ๋องเพคะ นางมิยอมหลับมิยอมนอน และเอาแต่เรียกหาแม่นางไป๋ตลอดเวลาเลยเพคะ”
“ฮือ.. ฮือ…” ไป๋ชงเซิงยังคงร้องไห้ฟูมฟาย แม้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางในตอนนี้ จะเป็นท่านอ๋องหรงคนโปรดของนาง
หรงเยี่ยเห็นดังนั้นจึงค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหานาง และปลอบขวัญนางอย่างอ่อนโยนว่า “บัดนี้นางกำลังเฝ้าดูแลพระอาการของไทเฮาในตำหนักฮุ่ยหนิง อีกมินานนางก็กลับมาแล้วหนา”
“หม่อมฉันมิได้พบหน้าท่านแม่มา 3 วันแล้ว หม่อมฉันคิดถึงท่านแม่ ท่านอ๋องหรงช่วยพาหม่อมฉัน…เข้าไปหาท่านแม่ในพระตำหนักฮุ่ยหนิงได้หรือไม่เพคะ?”
หรงเยี่ยจึงค่อย ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาให้กับชงเซิง ก่อนจะกล่าวกับนางต่อไปอย่างใจเย็นว่า “ได้สิ วันพรุ่งข้าจักพาเจ้าไปหานาง แต่คืนนี้เจ้าต้องนอนที่นี่ไปก่อนนะ ข้าจักอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง”
“จริงหรือเพคะ พระองค์จักมิหายไปเหมือนคืนวานแน่นะเพคะ?” ไป๋ชงเซิงเอ่ยถามด้วยแววตาใสซื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...