“แม่นมอัน เรือนชิงซินเป็นเรือนที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ ช่วงเวลาเที่ยงคืนดึกดื่นนายของเจ้ามาเยี่ยมเยือน แต่ทว่าเจ้าที่เป็นคนรับใช้ไม่รายงานเจ้าของเรือนล่วงหน้า เพื่อให้เจ้าของเรือนเตรียมต้อนรับแขกได้ แต่ทว่ามาโอ้อวดบารมี คนที่ไม่รู้จะคิดได้ว่าพระชายาต้วนไม่มีเมตตาธรรมได้นะ”
ไป๋จิ่นกับแม่นมอันสีหน้าเปลี่ยนมากขึ้น
แม่นมซั่งเป็นผู้อาวุโสที่ไทเฮาฮุ่ยเอาไว้ที่จวนอ๋องหรง
ไป๋จิ่นเห็นนางยังกลัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่นมอันเลย
แม่นมอันรีบกล่าวอธิบายว่า “แม่นมซั่ง เมื่อครู่…..”
“หม่อมฉันถวายความเคารพพระชายาต้วนเพคะ !”แม่นมซั่งถวายความเคารพไป๋จิ่นโดยไม่ชายตาแลแม่นมอันแม้แต่น้อย
แน่นอน การแสดงความเคารพนี้เป็นเพียงภายนอก
แม่นมซั่งเป็นนางจิ้งจอกแก่ แน่นอนไม่มีทางทำให้จวนอ๋องหรงหรือว่าไทเฮาไม่พอใจไม่สุขได้หรอก
และก็ไม่มีทางให้คนกลับกลอกอย่างไป๋จิ่นดูความผิดปกติอะไรออกด้วย
ไป๋จิ่นสีหน้าอ่อนโยน กล่าวตำหนิแม่นมอันว่า “ออกไป วันนี้ที่ข้ามาก็เพื่อที่จะมาดูน้องสาวของตนเอง เจ้าไม่ได้แจ้งน้องล่วงหน้า ถึงได้ทำให้น้องสาวร้อนใจเยี่ยงนี้”
“เพคะๆ ทั้งหมดเป็นความผิดของหม่อมฉันเองเพคะ”แม่นมอันรีบรับความผิด
หรงจิ่งหลินรีบวิ่งมาหาไป๋ชิงหลิน กล่าวว่า“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องออกมา ข้าคนเดียวก็สามารถรับมือได้”
“ซื่อจื่อน้อย ชุดของซื่อจื่อน้อยเปื้อนแล้ว บนมือล้วนเป็นโคลน”แม่นมซั่งรีบเปลี่ยนท่าทางเย็นชาเมื่อครู่ แล้วคุกเข่าลงข้างกาย จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดโคลนให้กับเขา
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าหรงจิ่งหลินเป็นคนที่รู้ใจเอาใจใส่มาก เหมือนกับเซิงเอ๋อร์ของนางที่รักทะนุถนอมแม่ !
แต่…..
นางไม่ใช่แม่แท้ๆของเขา
มีบางเรื่อง ที่นางข้องเกี่ยวแล้วมันไม่เหมาะสม
ก็ยกตัวอย่างเช่น แม่นมซั่งจะใช้การกระทำแสดงออกบอกนางว่า นางไม่ใช่แม่แท้ๆของจิ่งหลิน
“ซื่อจื่อจิ่ง รีบกลับเรือนไปล้างกับแม่นมซั่งเถิด”ไป๋ชิงหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
หรงจิ่งหลินส่ายหน้า กล่าวว่า “ไม่ ข้าต้องการดูนางอยู่ที่นี่ หากนางรังแกท่านแม่อีก ข้าไม่มีทางยกโทษให้”
“ซื่อจื่อ!”แม่นมซั่งกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ค่ำแล้ว หม่อมฉันจะพาซื่อจื่อกลับไปล้างที่เรือน แล้วก็ควรจะพักผ่อนได้แล้วเพคะ”
“ข้าไม่ไป!”หรงจิ่งหลินเดินไปอยู่ข้างกายไป๋ชิงหลินด้วยสีหน้าต่อต้าน
สีหน้าแม่นมซั่งขวยเขินเล็กน้อย นางเงยหน้ามองไป๋ชิงหลิง กล่าวว่า“แม่นางไป๋ ฝ่าบาทกับฮองเฮาอบรมสั่งสอนซื่อจื่อให้อยู่ในระเบียบวินัยเคร่งครัดมาก”
นางไม่ได้พูดต่อ พูดแค่ครึ่งเดียว ไป๋ชิงหลิงก็เข้าใจ……
เป็นเรื่องปกติสำหรับไป๋ชงเซิง แต่หากปรากฎอยู่บนตัวหรงจิ่งหลิน สำหรับราชวงศ์ถือเป็นร้ายแรงมาก
ลูกหลานราชวงศ์ การเดินจำเป็นต้องจะมั่นคง มารยาทเข็มงวด พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตตามแบบของราชวงศ์
ในสายตาของแม่นมซั่ง ต่อให้พระชายาต้วนจะไม่ดีอย่างไร ก็เป็นผู้อาวุโสของหรงจิ่งหลิน
ไป๋ชิงหลิงนั่งยองๆลง มือทั้งสองข้างโอบที่มือน้อยเขา
จิ่งหลินกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าต้องเห็นนางออกไป ข้าถึงจะวางใจกลับไปพักผ่อนได้”
“จิ่งหลิน สุขภาพเจ้าไม่ดี จะต้องกินยาตรงเวลา พักผ่อนตรงเวลา เวลามืดค่ำแล้ว กลับไปล้างที่เรือนกับแม่นมซั่งดีๆแล้วพักผ่อนนะ”
ไป๋ชิงหลิงเป็นคนพูดหรงจิ่งหลินไม่มีทางที่จะไม่เชื่อฟังหรอก
เขาหันไปมองไป๋จิ่นที่ยืนอยู่ในจวน และกล่าวขึ้นว่า“เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้พ่อบ้านฉีอยู่ พ่อบ้านฉีเป็นคนของจวนอ๋องหรง เป็นตัวแทนของข้ากับเสด็จพ่อข้า หากนางกล้ารังแกท่านแม่ ท่านก็บอกพ่อบ้านฉีให้ไปหาเสด็จพ่อ ท่านพ่อจะหนุนหลังท่านแน่นอน”
ไป๋จิ่นได้ยินประโยคนี้ หนังตากระตุกขึ้นอย่างรุนแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...