ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 139

ไป๋ชิงหลิงทิ้งคำพูดที่แสนเย็นชาไว้ แล้วเปิดประตูห้องโถงใหญ่สาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว

ไป๋จิ่นรีบกินยาที่ไป๋ชิงหลิงทิ้งไว้ ไม่นานอาการปวดท้องก็จางหายไป

นางโซซัดโซเซลุกจากพื้น กำมือทั้งสองข้างแน่นขนัด สายตาเย็นชาจ้องมองแผ่นหลังที่ไป๋ชิงหลิงเดินจากไป

นางทำได้!

นางทำให้นางตายได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

แม่นมอันวิ่งเข้ามาประคองไป๋จิ่น “พระชายา ได้ยาหรือยังเพคะ?”

“กินไปแล้ว ประคองข้าออกไปจากสถานที่เฮงซวยนี่”

“พระชายาวางใจ เรื่องที่พระชายาชี้แจงไว้ หม่อมฉันได้จัดการเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รอเฉียนจิ่วฟื้นขึ้นมา ก็สามารถบรรลุผลได้แล้ว”

แม่นมอันประคองนางเดินพร้อมกล่าวกระซิบกระซาบไปด้วย

ไป๋จิ่นยิ้ม กล่าวว่า “ดี”

นายกับบ่าวเดินออกจากเรือนชิงซิน

แต่ตอนที่นางเพิ่งจะก้าวเท้าเหยียบออกจากประตูใหญ่ น้ำเย็นก็สาดลงมาจากทางด้านบนทันที

เสียง“ฮูลา” ดังขึ้น ถังไม้ที่มีน้ำเย็นอยู่ถูกคว่ำลงบนหัวของไป๋จิ่น

ตอนที่น้ำเทลงมา แม่นมอันถูกน้ำราดจนมึนงง นางดูน้ำที่เทลงมาราดตนเองก่อน จากนั้นค่อยเงยหน้ามองไปที่ไป๋จิ่น

เมื่อเห็นไป๋จิ่นนั่งอยู่กับพื้น หวีดร้องเสียงแหลม แม่นมอันเลยรีบวิ่งไปเอาถังไม้ที่อยู่บนตัวไป๋จิ่นออก แล้วกล่าวขึ้นเสียงดังว่า “พระชายา”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”

เสียงดังน้อยหัวเราะตลกขบขันดังมาทันที

แม่นมอันหันขวับไปมองเด็กน้อยสองคนที่นอนอยู่ด้านหลังหินสิงโต

นั่นคือไป๋ชงเซิงกับหรงจิ่งหลิน

พวกเขาหัวเราะดังลั่นท้องแข็ง

“โง่มากเลย คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นไก่ตกน้ำแล้ว”

“ถังไม้คว่ำได้แม่นยำมาก ทำชั่วได้ชั่ว”

เด็กทั้งสองคนหัวเราะพร้อมกับกล่าวพูด

ไป๋จิ่นลูบน้ำที่อยู่บนใบหน้าออก ลุกขึ้นกล่าวตะคอกด้วยความเดือดดาลว่า“หรงจิ่งหลิน ——”

“เจ้าคิดว่าข้ารังแกได้อย่างง่ายดายหรือ เจ้า….อา……”

ตอนที่ไป๋จิ่นจะคว้าหรงจิ่งหลิน แต่ใครจะรู้ ด้านหลังมีแรงกระแทกชนมา มันพุ่งชนจนทำให้ไป๋จิ่นลอยออกไปจากประตูใหญ่ แล้วคว่ำหมอบอยู่บนพื้น

แม่นมอันอึ้ง คิดอะไรมากไม่ได้ เลยรีบวิ่งไปหาไป๋จิ่น

ทหารคุ้มกันจวนท่านอ๋องต้วนที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกก็รีบสาวเท้าไปดู

ไป๋จิ่นหันมา จ้องมองประตูใหญ่เรือนชิงซินด้วยความเกรี้ยวกราด

นางเห็นเพียงกระสอบทรายยาวประมาณหนึ่งเมตรกว่า แกว่งไปมาอยู่

ไป๋จิ่นกล่าวตะคอกด้วยความโมโหว่า “หรงจิ่งหลิน ข้าจัดการนางไม่ได้ หรือยังจัดการเจ้าไม่ได้ด้วย เจ้าคอยดูเลย รอคุกเข่าอยู่ที่สำนักศึกษาเถิด”

หรงจิ่งหลินทำหน้า“แลบลิ้นปลิ้นตา”ใส่ และกล่าวว่า“เพียงแค่จัดการท่านได้ ให้ข้าคุกเข่าคัดคัมภีร์ซือจิงอยู่ที่สำนักศึกษา ข้าก็ยอม “

“เจ้าเด็กเหลือขอไร้ประโยชน์ที่มีแม่ให้กำเนิดมา แต่ไม่มีแม่เลี้ยงดู!”

ไป๋จิ่นโมโหมาก บวกกับช่วงนี้มีเรื่องราวมากมายไม่ราบรื่น นางเลยอดกลั้นความโกรธในใจไม่ได้ชั่วขณะ จนโพล่งระบายออกมา

หรงจิ่งหลินให้ความสำคัญที่สุดคือเรื่องนี้ หลังจากที่ได้ยินไป๋จิ่นกล่าวออกมา เขาโกรธจนตะคอกขึ้นว่า”ข้ามีแม่”

“ไป๋เจาเสวี่ยไม่ใช่แม่ที่ให้กำเนิดเจ้า หากนางได้เป็นพระชายาของเสด็จพ่อเจ้าจริงๆ อย่างมากก็เป็นได้แค่แม่เลี้ยงของเจ้า อีกอย่างข้างกายนางยังมีลูกสองคน นางมีลูกชาย”ไป๋จิ่นกล่าวโต้ตอบ

หรงจิ่งหลินขมวดคิ้วเป็นปมแน่น

ไป๋จิ่นเห็นท่าทางไม่ได้สติของเขา ความโกรธที่มีในใจคลายลงและมีความสุขใจขึ้นมาบ้าง “เจ้าตื่นหน่อย กลับไปที่จวนอ๋องหรงของเจ้าเป็นซื่อจื่อจิ่งเถอะ เสด็จปู่เสด็จย่าของเจ้าสามารถหาชีวิตที่สะอาดบริสุทธิ์ หาท่านแม่ที่ยังไม่มีลูกให้เจ้าได้ ผู้หญิงที่อยู่ด้านในนั่น….นางไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ไม่แน่นะ ในสายตาของนางเจ้าก็เป็นเพียงเด็กไร้ความละอายคนหนึ่งก็ได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น