ไป่ชิงหลิงขมวดคิ้วแน่นด้วยความแปลกใจ
เพราะก่อนที่นางจะออกมาจากที่นั่น นางก็ได้ถอนพิษให้กับไป๋จิ่นไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไมไป๋จิ่นถึงหมดสติไปอีกล่ะ...
“คือว่า… ก่อนหน้านี้คุณชายจิ่งได้วางกับดักไว้ตรงหน้าประตู เพื่อหวังจักทำให้พระชายาต้วนได้ชดใช้ในสิ่งที่นางเคยกล่าวไว้กับคุณชายจิ่ง ว่านางอิจฉาแม่นางที่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงหลิงจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แล้วพูดขึ้นว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง”
“ที่แท้นางก็แค่วิงเวียนเพราะถูกกับดักกระสอบทรายของคุณชายจิ่งนี่เอง โล่งอกไปทีนะเจ้าคะ” ชิงอีกล่าว
“ฮุ่ยหลาน เจ้าไปเอาตัวอย่างพิษที่เพิ่งถูกขับออกจากร่างคุณชายน้อยมาให้ข้าที!” เพราะบางที นางอาจต้องขอยืมตัวหมอเทวดาซูจากท่านอ๋องหรงเพื่อการนี้
หมอเทวดาซู ถือเป็นแพทย์หลวงที่มีวิชาแก่กล้าที่สุดท่านหนึ่ง
มิเช่นนั้น หรงเยี่ยเองก็คงไม่ขอให้หมอเทวดาซูคอยประจำอยู่ในจวนอ๋องหรงมาจนถึงบัดนี้
และถึงแม้ว่าพิษในร่างกายของคุณชายจิ่งจะยังขับออกมาไม่หมด แต่หมอเทวดาซูก็ได้ยืนยันเป็นหนักเป็นหนา ว่าร่องรอยของพิษร้ายจะไม่สามารถแผลงฤทธิ์ใด ๆ ได้อีก
ดังนั้นสิ่งที่นางต้องทำต่อจากนี้…
คือนางต้องไปขอให้หรงเยี่ยช่วย
ไม่ว่าหรงเยี่ยจะยอมช่วยนางหรือไม่ก็ตาม...
เมื่อไป๋ชิงหลิงได้ตัวอย่างพิษมาจากฮุ่ยหลานแล้ว นางจึงรีบไปพาชงเซิงเข้านอน ก่อนจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเอ๋อร์ซืออีกครั้ง
ณ จวนท่านอ๋องต้วนในเช้าวันต่อมา
บรรยากาศในจวนท่านอ๋องต้วนวันนี้ แลดูคึกคักกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด และถึงแม้ว่าพระสนมเอกหรงจะไม่ชอบความเอิกเกริกสักเท่าไร แต่นางก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า องค์หญิงผิงหยางและคุณหนูจากตระกูลหวู่นั้น ล้วนมาจากต้นตระกูลที่สูงศักดิ์และมีเกียรติด้วยกันทั้งนั้น
แถมพิธีวิวาห์ในครั้งนี้ ยังต้องถูกจัดขึ้นในจวนอ๋องต้วนที่เดียวเท่านั้น ดังนั้นทุกสิ่งอย่างในพิธีวิวาห์ จึงต้องถูกจัดเตรียมด้วยความประณีตและยิ่งใหญ่อลังการอย่างที่มันควรจะเป็น
และนอกจากคนทั้งจวนอ๋องฮุ่ยและจวนหวู่กั๋วกงจะแห่กันมาที่จวนอ๋องต้วนแล้ว
ไป๋ชิงหลิงเองก็ได้รับเทียบเชิญจากหรงเยี่ยให้มาร่วมเฉลิมฉลองกับงานมงคลในครั้งนี้ด้วย
ทันทีที่รถม้าของไป๋ชิงหลิงเคลื่อนตัวมาถึงหน้าประตูจวนอ๋องต้วน
ไป๋ชิงหลิงจึงค่อย ๆ แง้มม่านออกดูอย่างช้า ๆ ก่อนจะพบว่าบริเวณหน้าประตูจวนในตอนนี้ เต็มไปด้วยรถม้าอีกหลายสิบคันที่กำลังจอดเรียงรายกันอยู่ แถมปากทางเข้าจวนยังเต็มไปด้วยเหล่าองครักษ์ที่กำลังยืนคุ้มกันทางเข้าออกกันอย่างแน่นหนา
“หากจวนท่านอ๋องต้วนได้ครอบครองหญิงงามทั้งสองนางนี้ จวนท่านอ๋องต้วนเองก็จะได้รับการสนับสนุนจากจวนอ๋องฮุ่ยและจวนหวู่กั๋วกงในทุกด้าน แล้วแบบนี้มันจักมิเป็นปัญหาต่อตัวพระองค์ในภายภาคหน้าหรือเพคะ” ไป๋ชิงหลิงเอ่ยถาม
หรงเยี่ยจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “หากเป็นข้า ข้ามิยอมแต่งงานกับหญิงเสียสติพวกนั้นเพื่อแลกกับความก้าวหน้าหรอกนะ ข้าขอผ่านดีกว่า!”
ไป๋ชิงหลิงได้ฟังก็หัวเราะร่าออกมาทันทีด้วยความขบขัน
“พระองค์ทรงแน่ใจหรือเพคะ ว่าพวกนางเป็นหญิงเสียสติจริงอย่างที่คนเขาลือกัน”
หรงเยี่ยจึงค่อย ๆ ยื่นหน้าหล่อ ๆ เข้าหาไป๋ชิงหลิง แล้วบอกกับนางอย่างแผ่วเบาว่า “ข้ามิสนใจหรอกหนา ว่าพวกนางจักเป็นเช่นไร เพราะทั้งชีวิตนี้ ข้าสนใจแค่เจ้า... เพียงผู้เดียว”
ลมหายใจอันเร่าร้อนของเขาปะทะเข้ากับใบหน้าของไป๋ชิงหลิง จนเป็นเหตุให้ใบหน้าของไป๋ชิงหลิงเริ่มแดงก่ำขึ้นมาโดยอัตโนมัติ “เรารีบลงจากรถกันเถิดเพคะ”
หรงเยี่ยจึงรวบตัวนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน จนนางไม่สามารถลุกหนีออกไปได้ทัน
ไป๋ชิงหลิงจึงสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้า และบอกกับเขาว่า
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอ… ยืมตัวคนคนหนึ่งจากท่านอ๋องได้หรือไม่เพคะ?”
“ใครรึ!”
“หมอเทวดาซูเพคะ” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
“ได้สิ!”
ง่าย ๆ แบบนี้เลยหรือ!?
“หากเจ้าต้องการสิ่งใด ก็ขอให้บอกมาเถิด”
การที่เขาอนุญาตให้ไป๋ชิงหลิงยืมตัวหมอเทวดาซู ก็ถือเป็นการช่วยชีวิตลูกชายของนางด้วย
ดังนั้นไป๋ชิงหลิงจึงตั้งปณิทานไว้กับตัวเองเลยว่า นางจะไม่มีวันมองข้ามหรงเยี่ยเป็นอันขาด
“หากมันทำให้เจ้ามีความสุข
ข้ายอมทุกอย่าง…” ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงจนตาค้าง
ในขณะที่หรงเยี่ยนั้นยังคงจ้องมองริมฝีปากของนางด้วยแววตาหยาดเยิ้ม
แล้วหรงเยี่ยก็ค่อย ๆ บรรจงจูบนางเบา ๆ ก่อนจะผละออกมา แล้วบอกกับนางว่า“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ ว่าอะไรที่เจ้ามิชอบ ข้าก็จักมิทำ... ข้ามิเคยคิดที่จักคืนคำหรอกหนา”
ไป๋ชิงหลิงยังคงตกตะลึงไม่หาย
เพราะตลอด 2-3 วันที่ผ่านมานี้ หรงเยี่ยมิได้ตามติดนางเหมือนอย่างทุกที แถมเขายังยอมให้นางอยู่ดูแลเอ๋อร์ซืออย่างเต็มที่ด้วยอีกต่างหาก
นี่เขา… ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของนางมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ
แต่แล้วจู่ ๆ หรงเยี่ยก็เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “แต่ถ้าหากข้าเห็นเจ้าอยู่กับชายอื่นอีกล่ะก็…
ข้าจักจับมันหักขาต่อหน้าเจ้าเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...