"โอ๊ย......" เสิ่นโหรวเม่ยถูกตบเข้าอย่างจังทำให้นางล้มคะมำอยู่ที่พื้น
นางจับหน้าของตนที่โดนตบเมื่อครู่ และกัดฟันด้วยความโกรธ "ไป๋เจาเสวี่ย เจ้ากล้าดียังไงมาตบข้า"
"เพียะ!"
เสียงถูกตบอีกครั้งดังขึ้น
เสิ่นโหรวเม่ยโกรธจนแทบตัวระเบิด "เจ้า......นังสารเลว......"
"เพียะ!"
"กรี๊ด!!!" เสิ่นโหรวเม่ยส่งเสียงกรีดร้องไม่หยุด
ไป๋ชิงหลิงนั่งลงตรงหน้าของนางและมองนางที่กำลังร้องอย่างบ้าคลั่ง
แต่ทว่าในตอนที่นางยื่นมือเพื่อขอความช่วยเหลือ ไป๋ชิงหลิงก็ไม่ได้ให้โอกาสนั้นแก่นาง
ไป๋ชิงหลิงบีบคอนางขึ้นมาแล้วดันไปพิงกับต้นไม้ใหญ่ พูดอย่างเย็นชาว่า "เสิ่นโหรวเม่ย เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกหรือ ตอนนี้ในเมืองหลวงเกิดเหตุร้าย "หรงอ๋องออกจากเมืองไปเมื่อคืนวาน ฮุ่ยอ๋องก็ออกจากเมืองไปเมื่อคืนนี้ เจ้ารู้อะไรบ้างไหม? ไม่คิดหรือยังไงว่าทำไมพวกเขาออกจากหมู่บ้านเส้าหยางไปทีละคน"
"เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพี่ชายข้า นังสารเลว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่" นางพูดออกมาด้วยความโกรธอย่างถึงขีดสุด
ในขณะที่นางกำลังจะฟาดมือมาที่ไป๋ชิงหลิง ไป๋ชิงหลิงได้เตะไปที่หัวเข่านางอย่างแรง
เสิ่นโหรวเม่ยล้มลงไปนั่งกับพื้นอย่างเสียงดัง นางอ้าปากค้าง และเบิกตาอย่างตกใจ
อาจเป็นเพราะนางไม่กล้าเชื่อว่าคุณหนูผู้สูงส่งของตระกูลเสิ่น ต้องมาคุกเข่าแทบเท้าให้กับหญิงสาวไม่ที่หัวนอนปลายเท้าของจวนติ้งเป่ยโหว
ไม่......
เป็นไปไม่ได้!!
นางเป็นถึงเสิ่นโหรวเม่ย หลานสาวของฮองเฮาแห่งแคว้นหรง และจะได้เป็นฮองเฮาคนต่อไป......
คาดไม่ถึงว่าไป๋ชิงหลิงจะกล้าให้นางคุกเข่าลงกับพื้น คิดว่านางเป็นตัวอะไรกัน
แต่ทว่าไป๋ชิงหลิงไม่ได้สนใจว่าการคุกเข่าเป็นเรื่องอับอายสำหรับเสิ่นโหรวเม่ย นางแค่รู้ว่าเสิ่นโหรวเม่ยในตอนนี้เหมือนอย่างกับคนบ้า
"จะหยุดได้หรือยัง" เมื่อไป๋ชิงหลิงเห็นนางสงบก็ค่อย ๆ ปล่อยคอนางลง
เสิ่นโหรวเม่ยลดสายตาลง ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา "พี่ชายข้าไปที่หมู่บ้านจางซู่"
"หมู่บ้านจางซู่ที่อยู่เขาลูกถัดไป พาข้าไปหาพี่ชายเจ้า"
"ทำไมข้าต้องพาเจ้าไปหาพี่ของข้า" เสิ่นโหรวเม่ยกำมือแน่น อารมณ์ของนางสงบลงมาก แต่สายตาที่เจ้าคิดเจ้าแค้นลุกเป็นไฟ ที่ดูท่าแล้วไม่น่าสงบลงง่าย ๆ
ไป๋ชิงหลิงนั่งยองลง และพูดอย่างเย็นชาว่า "ฮองเฮากำลังมีปัญหา พวกเจ้าตระกูลเสิ่นต้องนำกำลังทหารเข้าเมืองไปช่วยฝ่าบาท ภารกิจครั้งนี้จะถือว่ามอบให้กับตระกูลเสิ่น ในเมื่อเจ้าไม่อยากทำ งั้นก็เรื่องของเจ้า ฉันก็สามารถที่จะหาทหารได้เช่นกัน"
พูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็เดินไปถึงที่ต้นไม้ต้นใหญ่ พร้อมกับดึงกริชของนางติดตัวไปด้วย
แต่นางเดินยังไม่ไกล เสิ่นโหรวเม่ยก็เรียกนาง "ไป๋เจาเสวี่ย"
ไป๋ชิงหลิงหยุดเท้าลง และหันกลับมามองนาง
เสิ่นโหรวเม่ยลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ "เมืองหลวงเกิดเรื่องร้ายขึ้นจริงหรือ?"
"พูดตามตรง ฝ่าบาทจะให้ข้าเป็นแผนรับมือชั่วคราวสำหรับฮุ่ยอ๋อง"
เสิ่นโหรวเม่ยปรากฏสายตาที่เย็นชากว่าเดิม
ที่แท้ก็......
"ถึงจะเป็นเพียงแค่แผนการชั่วคราว แต่ข้าก็ถือว่าเป็นพระชายาฮุ่ย ภายภาคหน้าก็เป็นพระราชา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้" ไป๋ชิงหลิงยิ้มเจื่อน ๆ
เสิ่นโหรวเม่ยมองนางอย่างมึนงง ในที่สุดใบหน้าก็มีรอยยิ้มออกมา
แต่กลับเป็นการยิ้มที่ประชดประชัน "ก็ใช่ เจ้ามีลูกกับชายอื่น ตอนนี้ก็กำลังที่จะแต่งเป็นพระชายาของฮุ่ยอ๋อง เจ้าไม่มีคุณสมบัติพ่อที่จะมาแย่งตำแหน่งพระชายาหรงอ๋องกับข้า ตอนนี้ก็อย่ามาบอกว่าฮองเฮาไม่อนุญาต ฮองเฮาไม่มีทางที่จะให้ความเชื่อใจกับเจ้าหรอก"
ไป๋ชิงหลิงพูดแค่ "อืม" อยู่ ๆ ก็รู้ว่าเสิ่นโหรวเม่ยนางเองก็น่าสงสารเหมือนกัน
ฝ่าบาทไม่เคยคิดที่จะให้เสิ่นโหรวเม่ยเป็นพระชายาหรงอ๋องเลยด้วยซ้ำ
"ข้าพาเจ้าไปหาพี่ชายข้าก็ได้ แต่ว่าจะเกลี้ยกล่อมได้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเจ้าแล้ว" พี่ชายนางมีนิสัยที่แปลก ทั้งยังมีท่าทางขี้หงุดหงิดและเด็ดขาดอย่างมาก พูดแค่สองสามคำเขาก็สามารถดุด่าจนเลือดขึ้นหน้าได้
ทั้งสองกลับไปที่หมู่บ้าน ติ้งเป่ยโหววิ่งออกมาจากในบ้าน "เจาเสวี่ย ในที่สุดเจ้าก็กลับมา เมื่อครู่มีเด็กคนหนึ่งมีไข้ขึ้นสูง ยาที่เจ้าให้ข้ามา ข้าใช้ไปหมดแล้ว"
"ท่านพ่อ รอข้าด้วย" ไป๋ชิงหลิงรีบกลับไปที่ห้องปรุงยาของนาง
ฉวยโอกาสในตอนที่ไม่มีใคร นางเอายาจำนวนมากออกมาวางไว้ หลังจากนั้นกลับมาหาติ้งเป่ยโหว และยื่นยานั้นให้กับติ้งเป่ยโหว "ยานี้พอใช้สำหรับ 5-6 วัน ในช่วงที่ข้าไม่อยู่นี้ ขอให้ท่านพ่อต้องดูแลชาวบ้านในหมู่บ้านเส้าหยาง และถ้ามีใครตายต้องรีบเผาศพทันที"
ติ้งเป่ยโหวรับยามา สีหน้าของเขาดูงงเล็กน้อย และมองนางไปที่นาง "เจ้าจะไปแล้วหรือ?"
"ข้าจะไปคืนนี้"
เมื่อได้ยินคำห้าคำนี้ ติ้งเป่ยโหวก็ตระหนักได้ทันที
เขาเพิ่งนึกได้ว่าทั้งวันนี้เขาไม่ได้พบเจอทั้งหรงอ๋อง ฮุ่ยอ๋องก็ไม่รู้ไปที่ไหน ตามหาที่ใดก็ไม่พบ
เกรงว่าเมืองเรื่องอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น
เขาไม่ได้พูดอะไรมาก แค่พยักหน้าแล้วพูดว่า "ดูแลตัวเองด้วย"
"เจ้าค่ะ ที่นี่ข้าฝากท่านพ่อช่วยดูแลด้วย" ไป๋ชิงหลิงพูดจบ ก็หันหลังจากไปจากหมู่บ้านเส้าหยางกับเสิ่นโหรวเม่ย
ทั้งสองจากไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครรู้
และหลังจากที่ไป๋ชิงหลิงจากไป ติ้งเป่ยโหวยื่นยาในมือให้กับไป๋กัวจ้าว แล้วถามว่า "ในตอนนี้โจวอวี้อยู่ที่ใด?"
"ท่านไม่ให้รองแม่ทัพโจวไปไหนไกล ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่หมู่บ้านใกล้ ๆ นี้"
"เจ้าถือยาพวกนี้ไว้ให้ดี สามารถจ่ายให้กับชาวบ้าน 5-6 วัน ข้าจะไปหาท่านรองแม่ทัพ" ติ้งเป่ยโหวเอายาไปใส่ในอกของไป๋กัวจ้าว ก่อนจะเดินจากไป
กลางคืน เงียบสงัด และความน่ากลัว
มีกลุ่มลาดตระเวนนอกหมู่บ้าน
ไป๋ชิงหลิงและเสิ่นโหรวเม่ยก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านจางซู่ และก็ถูกทหารหลายนายเข้าจับกุมตัวทันที
เสิ่นโหรวเม่ยรีบเปิดเผยตัวตนของนาง ไม่นานนัก ก็มีชายหนุ่มในชุดเกราะเดินออกมาจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
และมีทหารกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินตามหลังเขา ทั้งกองทัพดูเป็นระเบียบเรียบร้อยรวมถึงการแต่งกาย ทำให้ไป๋ชิงหลิงสัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขามของกองทหารม้าเกราะเงินที่นำทัพโดยเสิ่นหรูเหลียน
เสิ่นโหรวเม่ยเห็นผู้ชายที่นำหน้าออกมา รีบวิ่งโผลงสวมกอด พร้อมทั้งร้องไห้ออกมา "ท่านพี่!"
"โหรวเม่ย?" เสิ่นหรูเหลียนทำหน้าตาดุดันทั้งตำหนินาง "ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ได้ เจ้าไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านเส้าหยางหรือ หมู่บ้านจางซู่มีหมอหลวงจ้าว เจ้าไม่จำเป็นต้องมา รีบกลับไปซะ"
"ท่านพี่......" เสิ่นโหรวเม่ยจับไปที่แขนของเสิ่นหรูเหลียน ยื่นมือออกไปทางไป๋ชิงหลิงแล้วพูดว่า "นาง......นางจะฆ่าข้า"
"ใครจะฆ่าเจ้า?" เสิ่นหรูเหลียนรีบหันกลับไปมองที่ไป๋ชิงหลิง และเพ่งเล็งไปที่นาง
ไป๋ชิงหลิงยิ้มเยาะ ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดจุดนี้ได้ พระชายาของหรงอ๋องจะเป็นที่หนึ่งเสมอ
ตราบใดที่มีโอกาส เสิ่นโหรวเม่ยไม่มีทางที่จะปล่อยนางไปง่าย ๆ
เจ้าคนโง่
ทหารม้ารีบล้อมรอบตัวไป๋ชิงหลิงเอาไว้
เสิ่นโหรวเม่ยไปแอบอยู่ที่ด้านหลังของเสิ่นหรูเหลียน มือทั้งสองข้างจับเสื้อของเขาอย่างแน่นและพูดด้วยท่าทางที่หวาดกลัว "นางหลอกให้ข้าไปที่หลังเขาและแย่งกริชของข้าไป และขอให้ข้าเขียนใบสั่งยาสำหรับโรคระบาด ถ้าข้าไม่ตกลงนางก็จะฆ่าข้า รอยแผลบนมือข้างนี้นางก็เป็นคนทำ"
พูดจบ นางก็ชักมือกลับไป ตอนที่นางถลกแขนเสื้อขึ้นนางพลางใช้เล็บกรีดที่แขนของตน
ตอนที่นางยกแขนออกมาให้เสิ่นหรูเหลียนดู ก็มีรอยแผลยาวเกิดขึ้นบนแขนนาง
เสิ่นหรูเหลียนนิ่งไปครู่หนึ่ง และหยิบมีดพกออกมา มองไปที่ไป๋ชิงหลิงอย่างเย็นชา "ตนเองไม่มีความสามารถพอ ยังกล้าที่จะทำร้ายน้องสาวข้าด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ เพื่อที่จะได้รับชื่อเสียงและเกียรติยศ สมควรที่จะ......"
"ท่านแม่ทัพเสิ่น ไม่คิดว่าสิ่งที่นางพูดมีรูโหว่หรือเจ้าคะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...