ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 179

"โอ๊ย......" เสิ่นโหรวเม่ยถูกตบเข้าอย่างจังทำให้นางล้มคะมำอยู่ที่พื้น

นางจับหน้าของตนที่โดนตบเมื่อครู่ และกัดฟันด้วยความโกรธ "ไป๋เจาเสวี่ย เจ้ากล้าดียังไงมาตบข้า"

"เพียะ!"

เสียงถูกตบอีกครั้งดังขึ้น

เสิ่นโหรวเม่ยโกรธจนแทบตัวระเบิด "เจ้า......นังสารเลว......"

"เพียะ!"

"กรี๊ด!!!" เสิ่นโหรวเม่ยส่งเสียงกรีดร้องไม่หยุด

ไป๋ชิงหลิงนั่งลงตรงหน้าของนางและมองนางที่กำลังร้องอย่างบ้าคลั่ง

แต่ทว่าในตอนที่นางยื่นมือเพื่อขอความช่วยเหลือ ไป๋ชิงหลิงก็ไม่ได้ให้โอกาสนั้นแก่นาง

ไป๋ชิงหลิงบีบคอนางขึ้นมาแล้วดันไปพิงกับต้นไม้ใหญ่ พูดอย่างเย็นชาว่า "เสิ่นโหรวเม่ย เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกหรือ ตอนนี้ในเมืองหลวงเกิดเหตุร้าย "หรงอ๋องออกจากเมืองไปเมื่อคืนวาน ฮุ่ยอ๋องก็ออกจากเมืองไปเมื่อคืนนี้ เจ้ารู้อะไรบ้างไหม? ไม่คิดหรือยังไงว่าทำไมพวกเขาออกจากหมู่บ้านเส้าหยางไปทีละคน"

"เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพี่ชายข้า นังสารเลว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่" นางพูดออกมาด้วยความโกรธอย่างถึงขีดสุด

ในขณะที่นางกำลังจะฟาดมือมาที่ไป๋ชิงหลิง ไป๋ชิงหลิงได้เตะไปที่หัวเข่านางอย่างแรง

เสิ่นโหรวเม่ยล้มลงไปนั่งกับพื้นอย่างเสียงดัง นางอ้าปากค้าง และเบิกตาอย่างตกใจ

อาจเป็นเพราะนางไม่กล้าเชื่อว่าคุณหนูผู้สูงส่งของตระกูลเสิ่น ต้องมาคุกเข่าแทบเท้าให้กับหญิงสาวไม่ที่หัวนอนปลายเท้าของจวนติ้งเป่ยโหว

ไม่......

เป็นไปไม่ได้!!

นางเป็นถึงเสิ่นโหรวเม่ย หลานสาวของฮองเฮาแห่งแคว้นหรง และจะได้เป็นฮองเฮาคนต่อไป......

คาดไม่ถึงว่าไป๋ชิงหลิงจะกล้าให้นางคุกเข่าลงกับพื้น คิดว่านางเป็นตัวอะไรกัน

แต่ทว่าไป๋ชิงหลิงไม่ได้สนใจว่าการคุกเข่าเป็นเรื่องอับอายสำหรับเสิ่นโหรวเม่ย นางแค่รู้ว่าเสิ่นโหรวเม่ยในตอนนี้เหมือนอย่างกับคนบ้า

"จะหยุดได้หรือยัง" เมื่อไป๋ชิงหลิงเห็นนางสงบก็ค่อย ๆ ปล่อยคอนางลง

เสิ่นโหรวเม่ยลดสายตาลง ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา "พี่ชายข้าไปที่หมู่บ้านจางซู่"

"หมู่บ้านจางซู่ที่อยู่เขาลูกถัดไป พาข้าไปหาพี่ชายเจ้า"

"ทำไมข้าต้องพาเจ้าไปหาพี่ของข้า" เสิ่นโหรวเม่ยกำมือแน่น อารมณ์ของนางสงบลงมาก แต่สายตาที่เจ้าคิดเจ้าแค้นลุกเป็นไฟ ที่ดูท่าแล้วไม่น่าสงบลงง่าย ๆ

ไป๋ชิงหลิงนั่งยองลง และพูดอย่างเย็นชาว่า "ฮองเฮากำลังมีปัญหา พวกเจ้าตระกูลเสิ่นต้องนำกำลังทหารเข้าเมืองไปช่วยฝ่าบาท ภารกิจครั้งนี้จะถือว่ามอบให้กับตระกูลเสิ่น ในเมื่อเจ้าไม่อยากทำ งั้นก็เรื่องของเจ้า ฉันก็สามารถที่จะหาทหารได้เช่นกัน"

พูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็เดินไปถึงที่ต้นไม้ต้นใหญ่ พร้อมกับดึงกริชของนางติดตัวไปด้วย

แต่นางเดินยังไม่ไกล เสิ่นโหรวเม่ยก็เรียกนาง "ไป๋เจาเสวี่ย"

ไป๋ชิงหลิงหยุดเท้าลง และหันกลับมามองนาง

เสิ่นโหรวเม่ยลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ "เมืองหลวงเกิดเรื่องร้ายขึ้นจริงหรือ?"

"พูดตามตรง ฝ่าบาทจะให้ข้าเป็นแผนรับมือชั่วคราวสำหรับฮุ่ยอ๋อง"

เสิ่นโหรวเม่ยปรากฏสายตาที่เย็นชากว่าเดิม

ที่แท้ก็......

"ถึงจะเป็นเพียงแค่แผนการชั่วคราว แต่ข้าก็ถือว่าเป็นพระชายาฮุ่ย ภายภาคหน้าก็เป็นพระราชา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้" ไป๋ชิงหลิงยิ้มเจื่อน ๆ

เสิ่นโหรวเม่ยมองนางอย่างมึนงง ในที่สุดใบหน้าก็มีรอยยิ้มออกมา

แต่กลับเป็นการยิ้มที่ประชดประชัน "ก็ใช่ เจ้ามีลูกกับชายอื่น ตอนนี้ก็กำลังที่จะแต่งเป็นพระชายาของฮุ่ยอ๋อง เจ้าไม่มีคุณสมบัติพ่อที่จะมาแย่งตำแหน่งพระชายาหรงอ๋องกับข้า ตอนนี้ก็อย่ามาบอกว่าฮองเฮาไม่อนุญาต ฮองเฮาไม่มีทางที่จะให้ความเชื่อใจกับเจ้าหรอก"

ไป๋ชิงหลิงพูดแค่ "อืม" อยู่ ๆ ก็รู้ว่าเสิ่นโหรวเม่ยนางเองก็น่าสงสารเหมือนกัน

ฝ่าบาทไม่เคยคิดที่จะให้เสิ่นโหรวเม่ยเป็นพระชายาหรงอ๋องเลยด้วยซ้ำ

"ข้าพาเจ้าไปหาพี่ชายข้าก็ได้ แต่ว่าจะเกลี้ยกล่อมได้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเจ้าแล้ว" พี่ชายนางมีนิสัยที่แปลก ทั้งยังมีท่าทางขี้หงุดหงิดและเด็ดขาดอย่างมาก พูดแค่สองสามคำเขาก็สามารถดุด่าจนเลือดขึ้นหน้าได้

ทั้งสองกลับไปที่หมู่บ้าน ติ้งเป่ยโหววิ่งออกมาจากในบ้าน "เจาเสวี่ย ในที่สุดเจ้าก็กลับมา เมื่อครู่มีเด็กคนหนึ่งมีไข้ขึ้นสูง ยาที่เจ้าให้ข้ามา ข้าใช้ไปหมดแล้ว"

"ท่านพ่อ รอข้าด้วย" ไป๋ชิงหลิงรีบกลับไปที่ห้องปรุงยาของนาง

ฉวยโอกาสในตอนที่ไม่มีใคร นางเอายาจำนวนมากออกมาวางไว้ หลังจากนั้นกลับมาหาติ้งเป่ยโหว และยื่นยานั้นให้กับติ้งเป่ยโหว "ยานี้พอใช้สำหรับ 5-6 วัน ในช่วงที่ข้าไม่อยู่นี้ ขอให้ท่านพ่อต้องดูแลชาวบ้านในหมู่บ้านเส้าหยาง และถ้ามีใครตายต้องรีบเผาศพทันที"

ติ้งเป่ยโหวรับยามา สีหน้าของเขาดูงงเล็กน้อย และมองนางไปที่นาง "เจ้าจะไปแล้วหรือ?"

"ข้าจะไปคืนนี้"

เมื่อได้ยินคำห้าคำนี้ ติ้งเป่ยโหวก็ตระหนักได้ทันที

เขาเพิ่งนึกได้ว่าทั้งวันนี้เขาไม่ได้พบเจอทั้งหรงอ๋อง ฮุ่ยอ๋องก็ไม่รู้ไปที่ไหน ตามหาที่ใดก็ไม่พบ

เกรงว่าเมืองเรื่องอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น

เขาไม่ได้พูดอะไรมาก แค่พยักหน้าแล้วพูดว่า "ดูแลตัวเองด้วย"

"เจ้าค่ะ ที่นี่ข้าฝากท่านพ่อช่วยดูแลด้วย" ไป๋ชิงหลิงพูดจบ ก็หันหลังจากไปจากหมู่บ้านเส้าหยางกับเสิ่นโหรวเม่ย

ทั้งสองจากไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครรู้

และหลังจากที่ไป๋ชิงหลิงจากไป ติ้งเป่ยโหวยื่นยาในมือให้กับไป๋กัวจ้าว แล้วถามว่า "ในตอนนี้โจวอวี้อยู่ที่ใด?"

"ท่านไม่ให้รองแม่ทัพโจวไปไหนไกล ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่หมู่บ้านใกล้ ๆ นี้"

"เจ้าถือยาพวกนี้ไว้ให้ดี สามารถจ่ายให้กับชาวบ้าน 5-6 วัน ข้าจะไปหาท่านรองแม่ทัพ" ติ้งเป่ยโหวเอายาไปใส่ในอกของไป๋กัวจ้าว ก่อนจะเดินจากไป

กลางคืน เงียบสงัด และความน่ากลัว

มีกลุ่มลาดตระเวนนอกหมู่บ้าน

ไป๋ชิงหลิงและเสิ่นโหรวเม่ยก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านจางซู่ และก็ถูกทหารหลายนายเข้าจับกุมตัวทันที

เสิ่นโหรวเม่ยรีบเปิดเผยตัวตนของนาง ไม่นานนัก ก็มีชายหนุ่มในชุดเกราะเดินออกมาจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

และมีทหารกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินตามหลังเขา ทั้งกองทัพดูเป็นระเบียบเรียบร้อยรวมถึงการแต่งกาย ทำให้ไป๋ชิงหลิงสัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขามของกองทหารม้าเกราะเงินที่นำทัพโดยเสิ่นหรูเหลียน

เสิ่นโหรวเม่ยเห็นผู้ชายที่นำหน้าออกมา รีบวิ่งโผลงสวมกอด พร้อมทั้งร้องไห้ออกมา "ท่านพี่!"

"โหรวเม่ย?" เสิ่นหรูเหลียนทำหน้าตาดุดันทั้งตำหนินาง "ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ได้ เจ้าไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านเส้าหยางหรือ หมู่บ้านจางซู่มีหมอหลวงจ้าว เจ้าไม่จำเป็นต้องมา รีบกลับไปซะ"

"ท่านพี่......" เสิ่นโหรวเม่ยจับไปที่แขนของเสิ่นหรูเหลียน ยื่นมือออกไปทางไป๋ชิงหลิงแล้วพูดว่า "นาง......นางจะฆ่าข้า"

"ใครจะฆ่าเจ้า?" เสิ่นหรูเหลียนรีบหันกลับไปมองที่ไป๋ชิงหลิง และเพ่งเล็งไปที่นาง

ไป๋ชิงหลิงยิ้มเยาะ ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดจุดนี้ได้ พระชายาของหรงอ๋องจะเป็นที่หนึ่งเสมอ

ตราบใดที่มีโอกาส เสิ่นโหรวเม่ยไม่มีทางที่จะปล่อยนางไปง่าย ๆ

เจ้าคนโง่

ทหารม้ารีบล้อมรอบตัวไป๋ชิงหลิงเอาไว้

เสิ่นโหรวเม่ยไปแอบอยู่ที่ด้านหลังของเสิ่นหรูเหลียน มือทั้งสองข้างจับเสื้อของเขาอย่างแน่นและพูดด้วยท่าทางที่หวาดกลัว "นางหลอกให้ข้าไปที่หลังเขาและแย่งกริชของข้าไป และขอให้ข้าเขียนใบสั่งยาสำหรับโรคระบาด ถ้าข้าไม่ตกลงนางก็จะฆ่าข้า รอยแผลบนมือข้างนี้นางก็เป็นคนทำ"

พูดจบ นางก็ชักมือกลับไป ตอนที่นางถลกแขนเสื้อขึ้นนางพลางใช้เล็บกรีดที่แขนของตน

ตอนที่นางยกแขนออกมาให้เสิ่นหรูเหลียนดู ก็มีรอยแผลยาวเกิดขึ้นบนแขนนาง

เสิ่นหรูเหลียนนิ่งไปครู่หนึ่ง และหยิบมีดพกออกมา มองไปที่ไป๋ชิงหลิงอย่างเย็นชา "ตนเองไม่มีความสามารถพอ ยังกล้าที่จะทำร้ายน้องสาวข้าด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ เพื่อที่จะได้รับชื่อเสียงและเกียรติยศ สมควรที่จะ......"

"ท่านแม่ทัพเสิ่น ไม่คิดว่าสิ่งที่นางพูดมีรูโหว่หรือเจ้าคะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น