ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 180

เสิ่นหรูเหลียนชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะหันไปจ้องเสิ่นโหรวเม่ย

เมื่ออายุได้สิบสองปีเขาเข้าสู่สนามรบพร้อมเหล่าทหารผ่านศึก หลังจากกลับมาเมืองหลวง เขาก็ถูกส่งไปประจำการนอกเขตชานเมืองหลวง นานๆ ครั้งจะกลับมาจวนตระกูลเสิ่น

เขาจะเข้าใจเรื่องพลิกผันในตระกูลและความคิดผู้หญิงได้อย่างไร

ยามเสิ่นโหรวเม่ยบอกคำเหล่านั้นกับเขา สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงน้องสาวที่ถูกรังแก

อีกทั้งผู้ลบหลู่เบื้องสูงเป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุด เดิมทีเขาอยากสังหารไป๋ชิงหลิงก่อนแล้วจึงรายงานองค์จักรพรรดิ แต่สิ่งที่ไป๋ชิงหลิงพูดเมื่อครู่กลับทำให้เขาตะลึง

เขาสามารถนั่งในตำแหน่งแม่ทัพทหารม้าเกราะเงินได้ เขาย่อมมีสมอง

ยามเขามองดวงตาเสิ่นโหรวเม่ย ทันใดนั้นก็เกิดอาการหนาวสั่น

เสิ่นโหรวเม่ยผงะ นางยังคงร้องไห้ “พี่ใหญ่ นางถือกริชของข้าไว้ในมือ หากท่านไม่เชื่อก็ลองค้นหาดูก่อน กริชนั่นคือหลักฐาน”

“ไม่ต้องหา!” ไป๋ชิงหลิงหยิบกริชออกมาอย่างใจเย็น “อยู่นี่ไง”

นางขว้างกริชกลับไปเมื่อกล่าวจบ

เสิ่นหรูเหลียนประสานมือรับมันแล้วตรวจสอบอีกครั้ง มีคำว่าเม่ยที่เขียนด้วยลายมือของเขาอยู่บนนั้น!

ในวันเกิดปีที่สิบเอ็ดของเสิ่นโหรวเม่ย เขาทำกริชเอง ทั้งยังสลักชื่อนางลงไป

เสิ่นโหรวเม่ยกล่าวต่อ “ท่านดูสิ กริชนี้อยู่บนร่างนาง นางฉกฉวยมันไปจากข้าโดยที่ข้าไม่ทันได้สังเกตในยามที่นางพาข้าไปหลังเขา”

ดวงตาเสิ่นหรูเหลียนหรี่ลงอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิง “เจ้าจะอธิบายอย่างไร?”

“ง่ายมาก ก่อนจะฉกกริชของคุณหนูเสิ่นมาได้ ข้าต้องรู้ก่อนว่าคุณหนูเสิ่นซ่อนกริชไว้ที่ใด?” ไป๋ชิงหลิงถาม

เสิ่นโหรวเม่ยเล่าว่า “การรักษาผู้ป่วยโรคระบาดในช่วงสองสามที่ผ่านมา ข้ายกใช้กริชมาใช้อยู่บ่อยครั้ง ตราบใดที่คนมีใจสังเกตสักนิดย่อมรับรู้ถึงความเคยชินของข้า”

“อืม นั่นก็สมเหตุสมผล” ไป๋ชิงหลิงเย้ยหยัน “แล้วในเมื่อข้าต้องการสังหารท่าน เหตุใดข้าถึงต้องพาท่านมาหาพี่ชายด้วย เหตุใดข้าไม่แค่สังหารท่าน แล้วโยนร่างท่านให้เผาไหม้ในกองไฟ ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถทำให้เหมือนเหตุใดตายด้วยโรคระบาดได้ มันจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเผาร่างท่าน ไม่เพียงแต่จักรพรรดิไม่อาจประณามข้าได้ แต่ตระกูลเสิ่นของท่านก็ไม่สามารถทำให้ข้าอับอายเพราะเรื่องนี้ได้เช่นกัน ทั้งยังต้องสรรเสริญข้าว่าทำได้ดี!”

เอ่อ......

เสิ่นโหรวเม่ยถูกทำให้ตาค้างเพราะคำพูดของนาง

นางเพียงต้องการยืมมือเสิ่นหรูเหลียนสังหารไป๋ชิงหลิง นางจึงสร้างสถานการณ์เล็กๆ นี้ขึ้นมา นางคิดว่าเสิ่นหรูเหลียนจะชักดาบสังหารนางทันทีที่ได้ยินว่านางเป็นขโมย คาดไม่ถึงว่าเจ้าคนโง่เขลาเสิ่นหรูเหลียนจะ...

“ฉับ!”

“อ๊ายยย!”

ก่อนเสิ่นโหรวเม่ยจะตอบสนอง เสิ่นหรูเหลียนก็ชักดาบออกมาตัดนิ้วก้อยซ้ายของเสิ่นโหรวเม่ยทิ้ง

เสียงร้องอนาถดังลั่นทันที!

“เสิ่นหรูเหลียน...ท่าน...ท่านตัดนิ้วข้า...”

“ปั้นเรื่องโกหกมากมาย ข้าไม่สังหารเจ้าเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง เจ้าจึงยังมีชีวิตอยู่” เสิ่นหรูเหลียนพูดต่อด้วยเสียงต่ำ “ไปซะ”

เขาเกลียดคนโกหก เกลียดคนกินแรงและคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย!

โดยเฉพาะ...ผู้หญิง

เสิ่นโหรวเม่ยกำนิ้วก้อยซ้ายของนางแล้วทรุดกายบนพื้นด้วยความเจ็บปวด นางร้องไห้เสียงดัง

เดิมไป๋ชิงหลิงสามารถทำให้นิ้วก้อยของนางกลับมาได้ แต่เสิ่นโหรวเม่ยพยายามสังหารนางครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นนางจึงคิดว่าเป็นการดีที่ตัดมันทิ้ง เพื่อที่นางจะได้มีความทรงจำที่ยาวนาน

“แม่ทัพเสิ่นที่ข้ามาหาท่านในวันนี้เพราะข้าหวังให้ถอนกำลังทหารทั้งหมดกลับเฉาจิง” ไป๋ชิงหลิงพูด

เสิ่นหรูเหลียนกลับมารู้สึกตัว เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ท่านเป็นใคร?”

“ข้าคือพระชายาฮุ่ย!” ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงคมชัด

เสิ่นหรูเหลียนและทหารม้าโดยรอบทำความเคารพอย่างรวดเร็ว “ผู้น้อยคารวะพระชายาฮุ่ย”

“อย่าได้มากพิธี” ไม่ว่าอย่างไรฐานะพระชายาฮุ่ยของนางนี่ก็คงอยู่ได้อีกไม่นานหรอก...

เสิ่นหรูเหลียนกลับมารู้สึกตัวจึงพูดว่า “พระชายาฮุ่ย ข้าน้อยต้องเคลื่อนพลไปยังหมู่บ้านจางซู่ตามราชโองการ ไม่สามารถถอนทัพกลับเฉาจิงได้ เว้นแต่องค์จักรพรรดิจะทรงมีรับสั่งเรียกคืนราชโองการ”

“หากองค์จักรพรรดิทรงเกิดปัญหาเล่า?” จากความทรงจำของไป๋ชิงหลิงคนก่อน นางพบข้อมูลเกี่ยวกับแม่ทัพเสิ่น

ครั้งหนึ่งเขาเคยรักษาการณ์ที่เมืองเยี่ยนหนานร่วมกับอ๋องหรง เขาเป็นคนซื่อตรง ไม่เห็นแก่ตัว และไม่มีความเห็นอกเห็นใจญาติพี่น้องของตน

ในสายตาเขามีเพียงถูกและผิดเท่านั้น

เป้าหมายมีเพียงทำตามรับสั่งของจักรพรรดิเหยา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น