“ฝ่าบาท…….”
“ฮองเฮาอู่นี่คือราชโองการ”
ฮองเฮาอู่อยากจะหยุดนาง แต่ไทเฮาเข้ามาขัดจังหวะ
หลวนอี๋เดินเข้าไปดึงฮองเฮาอู่ออกมา
ช่วงเวลาสำคัญนี้หากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเต๋อเฟยเพราะคำพูดของฮองเฮาอู่ ตระกูลอู่ต้องจบสิ้นแล้ว
ซึ่งความผิดฐานทำร้ายองค์ชายถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง
ไป๋ชิงหลิงมองหลวนอี๋แล้วหันกลับมา นางให้พวกเขาออกจากห้องโถงไปอยู่ด้านนอกชั่วคราว
นางกำนัลในเรือนชิงซินล้วนเป็นหรงเยี่ยที่พามา จากนั้นเขาก็คัดเลือกหมอหญิงให้อยู่เคียงข้างเต๋อเฟย แล้วทิ้งคนสนิทของตนไว้
เมื่อเป็นเช่นนี้ไป๋ชิงหลิงจึงสามารถดึงเครื่องมือออกมาได้
“ลี่ว์อีฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบให้ดี”
“ชิงอียืนเฝ้าทางเข้า อย่าให้ใครบุกเข้ามา”
“จื่ออีอยู่ช่วยข้า”
นางบอกให้ลี่ว์อีและจื่ออีสวมชุดปลอดเชื้อแล้วช่วยนางจากด้านข้าง
หลังจากให้ยาชาแก่เต๋อเฟย เต๋อเฟยก็รู้สึกตัว
นางลืมตาขึ้นเห็นคนสามคนสวมชุดแปลกๆ นางจึงตกใจ
ไป๋ชิงหลิงรีบปลอบนาง “เต๋ยเฟย ข้าคือไป๋ชิงหลิง หมอหลวงหญิงแห่งองค์ไทเฮา ไม่ต้องกลัว”
“เจ้า......เจ้าคือหมอหญิงไป๋!” เสียงเต๋อเฟยสั่นเทา
“บุตรในครรภ์เต๋อเฟยอยู่ในตำแหน่งผิดปกติจึงคลอดยาก เด็กสามคนในครรภ์ครบกำหนดแล้ว โอกาสรอดหลังประสูติจึงมีมาก”
เต๋อเฟยคว้าชุดไป่ชิงหลิงอย่างมีอารมณ์ “เจ้าต้องช่วยลูกข้า”
“อย่ากังวล พวกเขาจะปลอดภัย” เมื่อเต๋อเฟยได้ยินเช่นนี้ ด้วยฤทธิ์ยาชา เต๋อเฟยค่อยๆ สงบลง
ไป๋ชิงหลิงให้ยาสลบแก่เต๋อเฟยเพื่อไม่ให้นางหวาดกลัวเกินไป
หลังเต๋อเฟยหลับสนิท จื่ออีก็ยื่นมีดผ่าตัดให้ไป๋ชิงหลิง
หลังจากนางหยิบมีดผ่าตัดคมกริบขึ้นมา นางเริ่มผ่าท้องเต๋อเฟย จื่ออีใช้ผ้าพันแผลชุบน้ำเช็ดเลือดที่ไหลออกมาทันที เพื่อดูแลบาดแผลให้สะอาด……
ยามไป๋ชิงหลิงทำการผ่าตัดเต๋อเฟย ผู้ที่ยังคงอยู่ในห้องโถงอีกห้อง แต่ละคนล้วนมีเจตนามิดีมิร้ายแฝงอยู่
แน่นอนว่าสำหรับนางสนมแห่งวังหลังนี่คือคนแรกที่คลอดด้วยการผ่าตัด สำหรับจักรพรรดิเหยามันเป็นความทรมาน
ทุกคนที่มาจากวังหลวงล้วนเดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย
ไทเฮาประทับอยู่บนแท่นหิน ในใจนางไม่ได้ดีไปกว่าจักรพรรดิเหยาเลย สายตานางจ้องไปยังทิศทางของเต๋อเฟยพร้อมหายใจเข้าลึกๆ
ในเวลานี้ตรงทางเข้า มีคนสองคนและแมวตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
นั่นคือฮุ่ยหลานและอิงซา!
จักรพรรดิเหยาหยุดมองคนทั้งสอง
ทั้งสองคุกเข่าลง ก่อนที่อิงซาจะรายงาน “ทูลฝ่าบาท อ๋องหรง แผนกู่โลหิตสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วมองอ๋องหรง “แผนกู่โลหิตคืออะไร?”
ฮุ่ยหลานรายงาน “กู่โลหิตเป็นพิษไร้สีไร้กลิ่นที่ควบคุมจิตใจผู้อื่นได้ เลือดกู่หนึ่งหยดสามารถปลูกกู่ในร่างมนุษย์ได้ ยามเสียงขลุ่ยดังขึ้น เหยื่อสามารถถูกผู้อื่นควบคุมได้”
“น่าทึ่งมาก” ดวงเนตรของจักรพรรดิเหยาเป็นประกายราวกับเห็นความหวัง
อ๋องหรงเดินเข้ามาพูดว่า “เสด็จพ่อ โปรดถอดชุดคลุมมังกรออกก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
“เยี่ยเอ๋อร์เจ้าบังอาจนัก” ฮองเฮาอู่เข้ามาหยุดอีกครั้ง
คราวนี้ หลวนอี๋พูดอย่างหงุดหงิด “เสด็จแม่ ท่านต้องเชื่อใจพี่เจ็ด”
“เจ้าจะรู้อะไร พี่เจ็ดของเจ้าเอาชุดคลุมมังกรของเสด็จพ่อไป หากคนอื่นมาเห็นเข้า......”
จักรพรรดิเหยาถอดชุดคลุมมังกรออกโดยไม่ตรัสสิ่งใด
ฮองเฮาอู่ตกตะลึงอยู่ครู่นึง จิตใจของนางสนมคนอื่นๆ ล้วนหดหู่ต่างลอบทำหน้าหงิก
ฝ่าบาทไม่ตำหนิเขาด้วยซ้ำ เพียงถอดชุดคลุมมังกรออกและมอบให้พี่เจ็ด นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...