ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 197

พอมาถึงชานเมือง ไป๋จิ่นต้องการจะหยุดพัก ไป๋ชิงหลิงกลับบอกให้องครักษ์อินทรีดำเตรียมม้ากลับเมืองหลวง

ด้วยเหตุนี้ไป๋จิ่นเลยทะเลาะไป๋ชิงหลิงขึ้นมาใหญ่โต ตอนที่เธอมานั้นพาองครักษ์มาแค่ไม่กี่คน ตอนนี้มีองครักษ์อินทรีดำอยู่ข้างกาย ไป๋จิ่นรู้สึกว่าคงปลอดภัยขึ้นมาหน่อย

เพราะยังไงซะท่านอ๋องชินยังอยู่ด้านนอก มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตราย เช่นการลอบสังหาร

แต่สุดท้ายไป๋จิ่นก็สู้ไป๋ชิงหลิงไม่ได้ พวกเขาเลยรีบกลับเมืองหลวงในคืนนั้น

เธอกับหรงฉี่เสียเวลาอยู่ในถ้ำหลายวัน ระหว่างที่กลับมานั้นก็ยังเจอกับพายุหิมะ เลยต้องหยุดพักอยู่สองสามวัน ทำให้ล่าช้าไปหลายวัน

ในตอนที่พึ่งมาถึงหอเป่าซิน ไป๋ชิงหลิงกลับไม่เจอใครเลยสักคน หรงเยี่ยก็ไม่อยู่ในห้อง แต่เตียงที่เขานอนนั้นเต็มไปด้วยเลือด

หัวใจไป๋ชิงหลิงเต้นอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าเปลี่ยนขึ้นมาทันที หลังจากนั้นก็หมุนตัวแล้ววิ่งออกไปด้านนอก

ชิงจู๋กับซังจวี๋รีบตามหลังเธอมา แล้วตะโกนเรียก:“แม่นาง แม่นางจะไปไหน?”

“จะรีบไปตามหาคน ทำไมหอเป่าซินถึงไม่มีคนล่ะ ทำไมเขาไม่อยู่ในห้อง” เธอวิ่งมาถึงหน้าประตูเรือน เกิดสะดุดขึ้นมา เลยล้มลงบนพื้นอย่างรุนแรง

หีบทางการแพทย์ที่พามาด้วยกระเด็นไปไกลมาก ยาสมุนไพรและบรรดาของใช้สำหรับแพทย์เทกระจาดออกมาบนพื้น เธอไม่สนใจ ลุกขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ แล้ววิ่งไปด้านนอก คิดจะไปหาคนที่หอเป่าซิน แต่กลับพบว่าในจวนอ๋องนั้นมีแต่“ความว่างเปล่า”

แม้แต่องครักษ์ตรวจตราหรือนางกำนัลที่อยู่เต็มจวนก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นสักคน

ที่สำคัญก็คือ หรงเยี่ยก็หายไปเช่นกัน

เธอเดินไปไม่กี่ก้าวก็หกล้ม หัวเข่าถูกกระแทก แต่เธอก็ยังไม่รู้

ชิงจู๋พยุงเธอขึ้นมาแล้วพูด:“แม่นาง เข้าไปหาในวังไหมเพคะ”

“ใช่ เข้าวัง บางทีเขาอาจจะถูกรับเข้าไปในวังหลวงแล้วก็ได้ ที่นั่นมีหมอหลวงที่ดีที่สุดอยู่......” สายตาของไป๋ชิงหลิงแกว่งเล็กน้อย แต่เธอก็ยังฝืนร่างกาย จับมือของชิงจู๋และซังจวี๋เดินออกจากจวนอ๋อง

เธอไปที่ตำหนักฮุ่ยหนิงก่อน

ไทเฮากับแม่นมอวี่อันออกไปด้านนอก หญิงรับใช้ที่เฝ้าดูแลตำหนักพูด:“หมอหญิงไป๋ ไทเฮากับฝ่าบาท แล้วก็ยังมีท่านอ๋องชิน ทั้งตระกูลต่างก็ไปที่หลุมศพของอดีตฮองเฮากันหมดเพคะ”

“ฉันถามเธอว่ารู้หรือเปล่าว่าท่านอ๋องหรงอยู่ที่ไหน?”

หญิงรับใช้จู่ๆก็คุกเข่าลง:“หม่อมฉันได้ยินว่า......ได้ยินว่า......ท่านอ๋องหรงอาการไม่ดีแล้ว ฝ่าบาทกับไทเฮา แล้วก็ฮองเฮานำศพของท่านอ๋องหรงไปที่หลุมศพ กำลังจะฝังไว้ที่เดียวกับอดีตฮองเฮาเพคะ”

“ใครบอกเขาตายแล้ว!!” ไป๋ชิงหลิงเบิกตาโพล่ง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หลังจากนั้นก็หมุนตัววิ่งออกจากตำหนัก

เสิ่นหรูเหลียนมาถึงที่หน้าประตูตำหนักพอดี กำลังจะเข้าตำหนักไปรายงาน ไป๋ชิงหลิงก็เดินออกมาจากตำหนักพอดี เธอเห็นว่าเสิ่นหรูเหลียนกำลังจูงม้าอยู่ เลยวิ่งเข้าไปหา แล้วแย่งเชือกในมือของมา เคลื่อนไหวปราดเปรียว ขึ้นไปนั่งบนม้า หลังจากนั้นจึงจากไป

เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วจนเสิ่นหรูเหลียนไม่ทันได้ตั้งตัว หลังจากนั้นก็เห็นชิงจู๋กับซังจวี๋วิ่งเข้ามา

เขารีบดึงทั้งสองคนไว้:“จะรีบวิ่งไปทำอะไรกัน?”

“ไปทำอะไรงั้นเหรอ จะไปทำอะไรได้ ก็ต้องไปช่วยคนน่ะสิ” ชิงจู๋ใช้แรงผลักเขาออก

เสิ่นหรูเหลียนนิ่งอึ้งไปสักพัก หันกลับไปมองชิงจู๋แวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปแย่งม้าใครก็ไม่รู้ผูกไว้ใต้ต้นไม้สองตัว ตามไปด้วยความรวดเร็ว

สุสานจักรพรรดิ

ท่านอ๋องหรงสิ้นพระชนม์ ไทเฮาเสียพระทัยหนักมาก ส่วนจักรพรรดิเหยามองไปยังหญิงสาวในโลงน้ำแข็ง

ก่อนเสียชีวิตเธอชอบชุดสีแดงมาก หลังเสียชีวิตจักรพรรดิเหยาเลยสวมชุดหงส์สีแดงให้เธอด้วยตัวเอง เก็บไว้ในโลงน้ำแข็งมากว่าหกสิบปีแล้ว

เธอยังคงหน้าตาเหมือนเมื่อหกสิบปีที่แล้วไว้ เป็นเพราะโลงน้ำแข็งที่คงหน้าตาเธอไว้แบบนั้น

นัยน์ตาจักรพรรดิเหยาน้ำตารื้น มองไปยังด้านซ้ายของโลงน้ำแข็ง

ที่นั่นมีอ๋องหรงนอนอยู่......

ไทเฮาถูกพยุงไว้โดยแม่นมอวี่อัน ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา

เธอเสียใจที่ท่านอ๋องหรงยังไม่ทันได้แต่งภรรยาก็ด่วนจากไปเสียแล้ว

เธอเสียใจที่หลังจากที่สิ้นพระชนม์ ไม่สามารถจัดงานศพที่ยิ่งใหญ่ได้ ต้องแอบมาฝังเขาไว้ในสุสานจักรพรรดิดึกๆดื่นๆ

เธอพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น:“เยี่ยเออร์ เจ้าใจดำอำมหิตเกินไปแล้วนะ จิ่งหลินเด็กขนาดนั้น เจ้ายังกล้าทิ้งเขาลง เจาเสวี่ยไปเก็บสมุนไพรให้เจ้าด้วยตัวเอง ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงก็ยังไม่รู้ เจ้าไม่รออีกหน่อยล่ะ รอนางกลับมาไง”

พอหรงจิ่งหลินถูกเธอพูด ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล

ไหล่ของเขาสั่นไม่หยุด มือทั้งสองข้างใช้แรงกำหมัด อยากจะปลอบใจไทเฮา แต่กลับพบว่าเขานั้นทำอะไรไม่ได้เลย

แม้แต่ตัวเองก็ยังปลอบใจไม่ได้

ส่วนไป๋ชงเซิงกลับรู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมา......

เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้สูญเสียคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตไป ฐานะของเขาก็เหมือนท่านแม่ของเธอ

จู่ๆเธอก็กอดหรงจิ่งหลินไว้ แล้วร้องไห้ออกมายกใหญ่

“ต่อไปไม่มีใครปกป้องท่านแม่ของฉันแล้ว ใช่ไหม” ไป๋ชงเซิงถามเสียงสะอึกสะอื้น

หรงจิ่งหลินก็กอดเธอแน่นเช่นกัน ตอบด้วยเสียงอื้ออึง:“ข้าปกป้องเจ้าเอง แล้วเจ้าก็ปกป้องท่านแม่ของเจ้า”

“เด็กดี!” ไทเฮาย่อตัวลง แล้วกอดเด็กเด็กทั้งสองไว้ในอ้อมกอด

เหล่าญาติๆของจักรพรรดิที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังน้ำตาไหลรินด้วยความสะเทือนใจ

ฮองเฮาอู่ร้องจนสลบไปแล้วหลายรอบ พอฟื้นขึ้นมาก็ร้องอีก ร้องจนทนไม่ไหว แล้วก็สลบไปอีก......

ปรมาจารย์หลูเดินเข้ามา แล้วพูด:“ฝ่าบาท ได้เวลาปิดโลงแล้วขอรับ ช้ากว่านี้เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิด!”

ถ้าถูกคนไม่ดีในเมืองรู้ถึงการตายของท่านอ๋องหรง แต่กลับไม่มีการเผาศพ แล้วก่อเรื่องจนรู้ถึงหูทุกคนล่ะก็

ประชาชนจะต้องเอะอะโวยวายเป็นแน่

จักรพรรดิเหยาถึงแม้ว่าจะทนไม่ได้ แต่ก็ยังปิดตาทั้งสองไว้ แล้วพูด:“ปิดเถอะ!”

ปรมาจารย์หลูหมุนตัว แล้วตะโกนเสียงสูง:“ปิดโลง!”

“ครืด!”

โลงน้ำแข็งถูกปิดอย่างรวดเร็ว ร่างของท่านอ๋องหรงถูกแช่ไว้ในโลงน้ำแข็ง ไอความเย็นค่อยๆปกคลุมใบหน้าที่ซูบผอมของเขา

และในเวลานี้ ด้านนอกก็มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้น:“อย่าปิดนะ ปิดไม่ได้นะ”

ทุกคนต่างก็หันไปมอง

ประตูสุสานจักรพรรดิเปิดออก ร่างหญิงสาวพุ่งเข้ามา

ชุดที่เธอสวมมีรอยเปื้อนเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าผากมีบาดแผล เลือดไหลลงมาจากหน้าผากตรงนั้น ปิดใบหน้าเธอไปครึ่งหนึ่ง ส่วนใบหน้าอีกครั้ง เต็มไปด้วยคราบดิน ดูท่าทางเหมือนกำลังตกที่นั่งลำบาก

องครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าสุสานหยิบหอกออกมากันเธอเอาไว้

ฮุ่ยไทเฮามองแวบเดียวก็จำได้เธอได้:“เจาเสวี่ย”

ไทเฮารีบกำชับองครักษ์:“ปล่อยนางเข้ามา”

องครักษ์รีบวางหอกในมือแล้วถอยไป

ไป๋ชิงหลิงรีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าเธอพึ่งเดินลงบันไดไปหนึ่งก้าว ร่างเธอก็ร่วงลงกับพื้น

ฮุ่ยไทเฮารีบดันอวี่อัน:“รีบไปพยุงนางเร็วเข้า”

ขณะที่อวี่อันเดินเข้าไปนั้น ไป๋ชิงหลิงก็ลุกขึ้นยืน ไม่ให้แม่นมอวี่อันพยุงเธอ

ฮุ่ยไทเฮาดูสภาพเธอแล้ว พูดออกมาด้วยความสงสารและเสียใจ:“เจาเสวี่ย ไปดูเขาสักหน่อยเถอะ”

ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปที่โลงน้ำแข็งด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้ง พอมาถึงหน้าโลงน้ำแข็ง สายตาก็มองไปยังร่างผู้ชายที่อยู่ในโลงน้ำแข็ง

เขาหลับตาทั้งสองข้าง ริมฝีปากที่ผู้คนนั้นแทบจะมองข้ามกันโค้งเล็กน้อย ร่างกายสวมชุดจีนยาวสีฟ้าน้ำแข็งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน กลิ่นอายพิฆาตถดถอยลงไปไม่น้อย ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคุณชายเรียบร้อยขึ้นมา

มือทั้งสองของเขาทับซ้อนกันด้านหน้า กลางฝ่ามือกดผ้าเช็ดมือลายปักสีดำที่ให้เธอไว้

เป็นผ้าในวันนั้นตอนที่อยู่ที่ถ้ำภูเขา เขาแย่งเธอไป

เขาบอกว่า มันเป็นของที่เธอเคยใช้!

ไป๋ชิงหลิงตีไปที่โลงน้ำแข็งด้วยใจที่พังทลาย:“เปิดโลง เปิดโลงสิ ปล่อยเขาออกมา เขายังไม่ตาย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น