ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 198

“ฝ่าบาท เขายังไม่ตายนะเพคะ ท่านให้คนปล่อยเขาออกมาจากโลงน้ำแข็งเถอะเพคะ”

เธอมองไปยังจักรพรรดิเหยา

จักรพรรดิเหยาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:“ลากหมอหญิงไป๋ออกมา ให้อ๋องหรงได้ไปอย่างสงบ”

“เขายังไม่ตาย เขายังไม่ตายจริงๆนะเพคะ หม่อมฉันเอายามาแล้ว ทำไมถึงไม่เชื่อหม่อมฉัน”

“หมอหญิงไป๋!” จักรพรรดิเหยาตะโกนเสียงดัง:“เขาไปแล้ว ทางหมอหลวงตรวจแน่ชัดหลายรอบแล้ว”

“ไม่มีทาง หม่อมฉันให้เขากินยาจิ่วหยวนเข้าไปแล้ว เขาสามารถยืดเวลาไปได้อีกสิบวัน ปรมาจารย์หลูเป็นคนบอกเองเพคะ เขาไม่มีทางตาย”

เธอนึกถึงแต่ชายคนนั้นที่เคยพูดย้ำข้างหูกับเธอว่าจะแต่งเธอเป็นชายา ตอนนี้เขาตายแล้ว ก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลง

ไม่เคยมีใครแสดงความรู้สึกให้เห็นชัดแบบเขามาก่อน และก็ไม่เคยมีใครปฏิบัติต่อเธอเหมือนผู้หญิงทั่วไปมาก่อนเช่นกัน

ในสายตาของคนทั้งโลก เธอคือผู้หญิงสำส่อนที่มีลูกตั้งแต่ยังไม่ทันได้แต่งงาน หรือไม่ก็หมอปีศาจที่เป็นเหมือนเทพธิดา

พวกเขามักจะวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ก็นับถือเธอเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

มีเพียงหรงเยี่ย......

ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอคือผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอสามารถมีของที่ผู้หญิงทั่วไปต้องการ รวมถึงสามารถได้รับมากกว่านั้นอีก และของพวกนี้......ล้วนเป็นเขาที่เป็นคนให้

วิชาแพทย์เธอช่วยคนมานับไม่ถ้วน แค่เขาคนเดียวกลับช่วยอะไรไม่ได้เลยเหรอ

ขณะที่เหล่าองครักษ์พุ่งเข้ามานั้น ไป๋ชิงหลิงดึงกริชออกมาจากด้านในเสื้อ แล้วตะโกนด้วยความโมโห:“อย่าเข้ามานะ”

ทันใดนั้นองค์รักษ์ก็ถอยหลังทันที

สีหน้าจักรพรรดิเหยานิ่งอึ้งไป เห็นแค่ไป๋ชิงหลิงหมุนตัว แล้วออกแรงใช้กริชในมืองัดโลงน้ำแข็ง

เธอบ้าไปแล้วเหรอ?

โลงน้ำแข็งนั่นแข็งแรงและแน่นหนามาก เธอคิดจะใช้แค่แรงตัวเองในการเปิดโลงนั่นเนี่ยนะ

“หมอหญิงไป๋!” จักรพรรดิเหยาตะโกนออกมาด้วยท่าทางใจร้อน

และในเวลานี้เสิ่นหรูเหลียนก็พุ่งเข้ามาในสุสานจักรพรรดิ

องครักษ์ที่เฝ้าสุสานอยู่นั้นกั้นเสิ่นหรูเหลียนไว้ด้านนอกอีกครั้ง

ไทเฮาหันมาดูเขา ยื่นมือออกไปชี้ที่ไป๋ชิงหลิงแล้วออกคำสั่ง:“แม่ทัพเสิ่น รีบมาช่วยหมอหญิงไป๋เปิดโลงน้ำแข็ง”

“เสด็จแม่ นี่......” จักรพรรดิเหยาคิดไม่ถึง ว่าไทเฮาจะสร้างความวุ่นวายไปพร้อมกับไป๋ชิงหลิงด้วย

ไทเฮาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:“ถ้าหากเยี่ยเออร์เกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ฉันจะแบกรับเอง ฉันจะรับผิดชอบเอง ฉันจะให้คำตอบกับประชาชนแคว้นหรงเอง”

ลองดูอีกครั้ง ต่อให้สุดท้ายไป๋ชิงหลิงจะบอกเธอว่า หลานของเธอจากไปแล้วจริงๆ ถูกประชาชนรู้เข้าว่าท่านอ๋องหรงป่วยเป็นโรคตาย ประท้วงให้เผาศพเขา เธอก็คงตายตาหลับแล้ว

จักรพรรดิเหยาได้ยินคำพูดพวกนี้ มีหรือจะกล้าแย้ง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แค่ยืนเงียบๆ

หลังจากที่เสิ่นหรูเหลียนได้รับคำสั่งจากไทเฮา ก็เดินมาที่หน้าจักรพรรดิเหยา ขอคำสั่ง

จักรพรรดิเหยาปัดป่ายมือ:“ทำตามคำสั่งไทเฮาเถอะ”

หลังจากที่เสิ่นหรูเหลียนรับคำสั่งมา ก็รีบเดินมาข้างๆไป๋ชิงหลิง จับมือของเธอแล้วพูด:“ถอยไป ข้าเอง”

ได้ยินเพียงแค่เสียงดึงกระหึ่ม โลงน้ำแข็งก็เริ่มแตกออกสามในห้าแล้ว

แม้แต่แท่นน้ำแข็งก็พังทลายเช่นกัน

หรงเยี่ยหล่นลงมาจากแท่นน้ำแข็ง ไป๋ชิงหลิงรีบโผเข้าไปกอดหรงเยี่ยไว้ด้วยความรวดเร็ว

ทุกคนที่เห็นในที่นี้ ต่างก็อยากจะวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไป๋ชิงหลิงสั่งให้ถอย:“อย่าเข้ามานะ พวกเจ้าทุกคนนั่นแหละอย่าเข้ามา โรคในร่างกายของท่านอ๋องหรงแพร่กระจายได้เร็วและรุนแรงมาก พวกเจ้าอยู่ให้ห่างจากข้าและท่านอ๋องหรงหน่อยก็ดี อย่าเข้ามาใกล้พวกข้า แม่ทัพเสิ่นก็ถอยออกไปด้วย”

เธอกอดหรงเยี่ยแน่น ในใจไม่เคยรู้สึกสงบ

ครั้งนี้ สลับเป็นเธอที่กอดเขาไว้ในอ้อมกอด......

จะไม่ปล่อยมืออีกแล้ว

ปรมาจารย์บอกให้จักรพรรดิเหยาถอยออกมา ไทเฮาฮุ่ยให้แม่นมอวี่อันพาเด็กสองคนถอยออกไป

สายตาทุกคนจ้องไปที่ไป๋ชิงหลิงอย่างไม่วางตา อยากจะดูว่าเธอคิดจะช่วยท่านอ๋องหรงให้กลับมายังไง

ในเวลานี้ เธอหยิบเหมันต์พิสุทธิ์หนึ่งต้นออกมาจากแขนเสื้อ วางไว้ในปากแล้วเคี้ยว

หลังจากนั้น เธอก็ก้มหน้า ใช้ปากประกบเข้ากับปากของหรงเยี่ย เปิดปากของเขาแล้วป้อนยายาเข้าไปในปากเขา......

ทุกคนต่างก็ทยอยสูดหายใจเฮือกหนึ่ง

จะมีใครสามารถไม่สนความเป็นความตายของตัวเอง ป้อนยาด้วยปากประกบปากแบบนั้นได้บ้าง

ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นท่านอ๋องหรง แต่โรคที่เขาเป็นนั้นอันตรายอย่างมาก แม้แต่ท่านอ๋องหรงที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงยังล้มป่วยได้ง่ายๆเลย ไป๋ชิงหลิงที่ร่างกายผอมเล็กขนาดนี้คงไม่ต้องพูดถึง

ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอ๋องหรงสิ้นพระชนม์แล้ว

เหล่าบรรดาหมอหลวงที่เคยมีอคติกับไป๋ชิงหลิงต่างก็ถูกเธอทำให้เกิดความนับถือขึ้นมา

ขณะฮองเฮาอู่ฟื้นขึ้นมา เห็นฉากนี้เข้า ก็ตกใจนิ่งอึ้งไป

เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีแต่เจตนาร้ายต่อไป๋ชิงหลิงอีกแล้ว ตอนนี้เธอมองไปที่ไป๋ชิงหลิงอย่างมีความหวัง......

ขอแค่เธอสามารถช่วยหรงเยี่ยให้กลับมามีชีวิตได้ เธอต้องการเป็นพระชายาหรง ตนเองก็จะให้เธอ

เธอจะให้ทุกอย่าง!

ขอแค่หรงเยี่ยกลับมา

องค์หญิงหลวนอี๋พยุงฮองเฮาอู่ไว้แน่น กลัวว่าเธอจะเป็นลมล้มพับไปอีก

เวลาผ่านไปทีละนิด

ไป๋ชิงหลิงใช้เวลานานมากถึงจะป้อนยาเข้าไปจนหมดต้น

แต่เขาก็ยังคงคายออกมาเยอะมาก ทุกครั้งที่เขาคายออกมา ไป๋ชิงหลิงก็รีบป้อนเข้าไปในปากอีกครั้งทันที

เป็นเช่นนี้ซ้ำๆ เลยเสียเวลาอยู่นาน

รอจนป้อนเหมันต์พิสุทธิ์ลงไปแล้ว เธอก็วางเขาลง แล้วให้น้ำเกลือเขา

แต่ทว่าเลือดของเขาไม่สามารถไหลเวียนได้ ทั้งร่างกายเขาเย็นมาก

ไป๋ชิงหลิงเลยเอาฝ่ามือเขามาประกบกันแล้วถูมือไปมา รวมถึงถูแขนและถูขาของเขาด้วย

ให้ความอบอุ่นแก่เขาซ้ำไปซ้ำมา

ความจริงแล้วเธอไม่รู้ว่าทำแบบนี้แล้ว เขาจะกลับมาได้ไหม เธอใช้วิธีการทุกอย่างที่สามารถช่วยได้แล้ว และป้อนยาที่ทุกตัวที่เขาต้องกินให้เขาแล้ว

ป้อนเข้าไปทุกอย่างแล้วจริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาตายไปแล้ว แต่ก็ยังจะมีความหวัง แม้จะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม

แรกเริ่ม พวกเขาคิดว่าไป๋ชิงหลิงสามารถช่วยชีวิตให้ท่านอ๋องหรงกลับมาได้ พอเวลาผ่านไปนาน ทุกคนเริ่มคิดว่า เธอบ้าไปแล้ว!

“ท่านอ๋องหรงไม่กลับมาแล้ว หมอหญิงไป๋ ยอมแพ้เถอะ”

“ถ้ายังฝืนต่อไป เกรงว่าแม้แต่ศพของท่านอ๋องหรงก็คงจะเก็บรักษาไว้ไม่ได้”

“ถ้าประชาชนรู้ว่าท่านอ๋องหรงป่วยเป็นโรคจนสิ้นพระชนม์ แถมยังฝังไว้ที่สุสานจักรพรรดิ คงจะเกิดความหวาดกลัวกันเป็นแน่”

พอจักรพรรดิเหยาได้ยิน ในใจก็เคร่งเครียดขึ้นมา

หรงเยี่ยเป็นสายเลือดเพียงคนเดียวของเขาและอดีตฮองเฮา เขา......ไม่อยากให้ในวาระสุดท้ายไม่มีกระดูกหรือศพของหรงเยี่ยให้เก็บรักษา ถ้าเธอรู้เข้าล่ะก็ ไม่ว่าอย่างไรคงตายตาไม่หลับ

“แม่ทัพเสิ่น ลากหมอหญิงไป๋ออกไป” จักรพรรดิเหยาออกคำสั่ง

ร่างกายของไป๋ชิงหลิงแข็งทื่อ กอดร่างของหรงเยี่ยไว้แน่น แล้วหันหน้าไปมองด้านหลัง

เสิ่นหรูเหลียนรีบเดินเข้ามา:“หมอหญิงไป๋ วางมือเถอะ”

พูดจบ เสิ่นหรูเหลียนก็ยืนมือไปจับแขนของเธอ แล้วออกแรงดึงขึ้นมาจากพื้น

เธอร้องตะโกน:“อย่ามาแตะต้องตัวข้า”

“ส่งท่านอ๋องหรงกลับเข้าไปในโลงน้ำแข็ง แล้วปิดโลงซะ” จักรพรรดิเหยาพูด

องครักษ์สองสามนาย เดินเข้ามาพร้อมอาวุธ แล้วยกหรงเยี่ยขึ้น

ไป๋ชิงหลิงดิ้น ตบตีเสิ่นหรูเหลียน แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือไปด้วย:“ไทเฮา…...ไทเฮาเพคะ เขายังมีทางรอด เขากินเหมันต์พิสุทธิ์เข้าไปแล้ว อีกอย่างเขายังกินยาเข้าไปหลายตัวด้วยนะเพคะ ให้เวลาหม่อมฉันหน่อยเถอะเพคะ......”

ไทเฮาฮุ่ยเริ่มใจอ่อน ทว่า......เธอคิดว่าไป๋ชิงหลิงจำเป็นต้องพักผ่อน

เธอเลยออกคำสั่ง:“เรียกหมอหญิงมาดูแผลให้เธอหน่อย”

“ไม่นะเพคะ ไทเฮา…...”

“พาตัวเธอไป” จักรพรรดิเหยาออกคำสั่งอย่างเผด็จการ

เสิ่นหรูเหลียนพาเธอออกห่างจากโลงน้ำแข็ง เธอถูกบังคับให้เดินไปข้างหน้า สายตายังคงทำใจไม่ได้ ได้แต่มองร่างชายหนุ่มที่ถูกองรักษ์พากลับเข้าไปวางในโลงน้ำแข็ง

ไม่นาน เธอก็ถูกเสิ่นหรูเหลียงลากมาถึงประตูใหญ่ของสุสานจักรพรรดิ

เธอร้องเรียกไทเฮา เรียกฮองเฮา ถึงขนาดว่าเรียกหรงจิ่งหลินไม่หยุด......

แต่คนที่สามารถตัดสินใจได้นั้นกลับไม่พูดอะไร หรงจิ่งหลินวิ่งเข้ามากอดขาของเธอแล้วพูดปลอบใจเธอ:“ท่านแม่ ท่านพ่อไปแล้วจริงๆ ท่านแม่ทำดีที่สุดแล้ว”

วินาทีที่ได้ยินคำพูดของหรงจิ่งหลิน ไป๋ชิงหลิงราวกับถูกคนสาดน้ำเย็นใส่ ความหวังทุกอย่างพังทลายลงทันที

เธอมอง“หรงเยี่ย”ฉบับที่ถอดแบบกันออกมา กอดหรงจิ่งหลินไว้ในอ้อมกอด แล้วร้องไห้อย่างสูญเสียการควบคุม

ฮองเฮาอู่เป็นลมล้มพับไปอีกครั้ง

บรรยากาศตกอยู่ในความเศร้าโศกอีกครั้ง และหนักหน่วงอย่างมาก

ขณะที่จักรพรรดิเหยาออกคำสั่งให้“ปิดโลง”นั้น คนในโลงน้ำแข็งจู่ๆก็ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น