หัวใจของหรงเยี่ยอบอุ่นขึ้น เขาหัวเราะเบา ๆ และกอดไป๋ชงเซิง
ไป๋ชิงหลิงหยุดลงและพูดว่า "ระวังแผลของท่านด้วย"
“ถ้ามันเปิด เจ้าก็กลับไปช่วยเย็บให้ข้าใหม่สิ”
มุมปากของไป๋ชิงหลิงกระตุกสองสามครั้ง: "ท่านคิดว่าเหมือนเย็บเสื้อผ้างั้นหรือ"
หรงเยี่ยพยักหน้าอย่างมีความสุข ในอ้อมแขนก็ยังกอด"ไป๋ชิงหลิง"น้อยไว้อยู่
ไป๋ชงเซิงนั่งลงบนเตียงข้างๆ เขาไม่กล้าขยับตัวไปไหน และจ้องมองเขาอย่างงุ่มง่าม: “ท่านเชื่อฟังท่านแม่ของข้าได้หรือไม่ นางบอกให้ท่านรักษาบาดเจ็บของท่านให้ดี ท่านก็ต้องรักษาให้หายดี ยามที่ท่านบาดเจ็บทุกครั้งท่านแม่ต้องคอยดูแลท่านเหนื่อยนัก"
เขาไม่สามารถหาคำใดที่จะพูดกับหรงเยี่ยได้ สิ่งเดียวทำได้คือเอาท่านแม่มาพูดเพื่อสอนบทเรียนให้เขา
หรงเยี่ยยิ้มอย่างเปิดเผยและพูดเบา ๆ ว่า "ตกลง" "งั้นเจ้าเรียกข้าว่าเสด็จพ่ออีกครั้งสิ"
"ข้าไม่พูด" ใบหน้าของเขาแดงกว่าเดิม หัวใจของเขามีคลื่นแห่งความตื่นเต้น และเขาก็ยังรู้สึกอึดอัดใจที่จะเรียกผู้ชายตรงหน้าว่า "เสด็จพ่อ"
“งั้นก็เรียกข้าว่าป่ะป๊าสิ”
“...” เขาเม้มริมฝีปากและมองอย่างว่างเปล่า
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ก้มหัวลงและเรียกเบาๆ ว่า "เสด็จพ่อ"
"ดังๆหน่อย"
“……”
ไป๋ชิงหลิงรู้ว่าชายที่ไว้ใจไม่ได้คนนี้กำลังจะแกล้งเด็กอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงก้าวไปข้างหน้าและพาไป๋ชงเซิงไปจากเขาและพูดว่า: "ท่านฟื้นมาหลายชั่วโมงแล้ว ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว "
“งั้นเจ้าก็นอนเป็นเพื่อนข้าสิ” หรงเยี่ยกล่าว
ไป๋ชิงหลิงกัดริมฝีปากและจ้องมองเขา เวลานี้แล้วยังจะคิดอะไรแบบนี้ได้อีก
หรงจิ่งหลินจับมือของไป๋ชิงหลิงแล้วพูดว่า "เสด็จแม่ ทำไมเสด็จแม่ไม่นอนข้างเสด็จพ่อล่ะ"
“ตกลง งั้นก็ตกลงแบบนี้นะ”
"ไม่ได้!"
หรงเยี่ยและไป๋ชิงหลิงตอบพร้อมกัน
หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็จ้องมองหรงเยี่ยอีกครั้งและพูดว่า "ท่านรักษาแผลให้หายเถิด"
“ท่านแม่ ท่านอย่าดุกับผู้ชายอย่างนี้บ่อยๆเลย” ไป๋ชงเซิงเงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิงแล้วพูดขึ้น
ไป๋ชิงหลิงพูดไม่ออกกับสิ่งที่เด็กพูด เมื่อกี้เธอดุเขางั้นหรือ?
เธอปฏิบัติกับคนอื่นแบบนี้มาตลอด มีปัญหาอะไรกัน
“ท่านลองบอกข้าสิ ถ้าท่านยังไม่ให้กำเนิดพวกเราก่อน ข้าก็สงสัยว่าชีวิตนี้ท่านจะแต่งงานได้หรือไม่ และข้าจะได้เกิดมาหรือไม่”
"เจ้า...."
เมื่อหรงเยี่ยได้ยินคำพูดของไป๋ชงเซิง เขาก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่เมื่อเขาหัวเราะ บาดแผลของเขาก็รูสึกเจ็บขึ้นมา
เขายกมือขึ้นปิดแผลที่หน้าอกและไอสองสามครั้ง
ไป๋ชิงหลิงรีบนั่งข้างเตียงและพูดว่า: “ข้าบอกแล้วว่าอย่าพูดเสียงดัง อย่าหัวเราะ ถ้าจะไอต้องกลั้นไว้ ไม่งั้นแผลจะเปิด ท่านดูสิ ท่านไม่ฟังข้าเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...