ไป๋ชิงหลิงไม่สนใจเสียงกรีดร้องของนาง สั่งให้คนปิดปากของนางโดยตรง จากนั้นเขาไปยังม่านกันลม เปลี่ยนเป็นชุดปลอดเชื้อ
จื่ออีและชิงอีให้ความช่วยเหลืออยู่ด้านข้างของนาง ทั้งสองคนเองก็เปลี่ยนเป็นชุดปลอดเชื้อ ยืนอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของไป๋ชิงหลิง
นางหยิบเข็มฉีดยาออกมาจากกล่องยาหนึ่งหลอด
ในตอนที่ไป๋จิ่นเห็นเข็มฉีดยาในมือของนาง ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างรุนแรง และนึกถึงตอนที่ไป๋ชิงหลิงฉีดยาเข้ามาบนร่างกายของนางในตอนที่อยู่จวนติ้งเป่ยโหว......
นาง......มาเพื่อทำร้ายนางอย่างที่คิด
“อือ อือ......” ไป๋จิ่นดิ้นรน
แต่มือทั้งสองข้างของนางถูกมัดไว้กับหัวเตียงตั้งแต่แรกแล้ว ทำให้นางไม่อาจหนีออกไปจากเตียงได้โดยเร็ว
ไป๋ชิงหลิงชำเลืองมองพร้อมกล่าวว่า “ปล่อยมือของนางข้างหนึ่ง และกดเอาไว้”
“เข้าใจแล้ว” จื่ออีและชิงอีก้าวมาด้านหน้า ปล่อยมือข้างหนึ่งของไป๋จิ่นออกมา
แต่ใครจะไปรู้ ในตอนที่ชิงอีปลดเชือกที่ข้อมือของนาง ไป๋จิ่นเหวี่ยงกำปั้นของนางออกมา กระแทกเข้ากับจมูกของชิงอี “โอ้ย”
ไป๋ชิงหลิงรีบยื่นมือออกไปเพื่อรั้งร่างของชิงอีเอาไว้ ทันใดนั้นนางก็เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากจมูกของชิงอี......
นางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “เรียกท่านอ๋องต้วนเข้ามา”
จื่ออีรีบวิ่งออกจากห้องของไป๋จิ่น บอกกับหรงฉี่ที่เฝ้าประตูอยู่ว่า “ท่านอ๋องต้วน ท่านรีบเข้ามาเร็ว พระชายาต้วนไม่ให้ความร่วมมือกับพระชายาของพวกเรา และนางยังทำให้ชิงอีต้องบาดเจ็บ”
“ผู้หญิงคนนี้......” หรงฉี่แอบกัดฟัน กำหมัดและเดินเข้าไปในห้อง
ในตอนที่ไป๋จิ่นเห็นหรงฉี่เดินเข้ามา นางก็รู้สึกเหมือนกับเห็นดวงดาวแห่งการช่วยชีวิต
แต่หรงฉี่กลับเดินเข้ามาหยุดตรงหน้านาง จ้องมองนางด้วยสายตาอันเยือกเย็นราวกับจ้องมองซากศพคนตาย และเมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นไป๋ชิงหลิง ความเยือกเย็นก็เปลี่ยนเป็นความนุ่มนวล “เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าต้องทำเช่นไร”
เสวี่ยเอ๋อร์?
ไป๋ชิงหลิงและจื่ออีมองหน้ากันและขมวดคิ้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อตนเองเช่นนั้น นางก็รู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก
“ท่านอ๋องต้วน ได้โปรดให้เกียรติตนเองด้วย” ไป๋ชิงหลิงยืดตัวขึ้น กล่าวออกมาอย่างเฉยเมย “ชื่อของข้า นอกจากพ่อแม่ของข้าแล้ว การที่ท่านจะมาเรียกข้าเช่นนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสม จริงไหม เสด็จพี่ห้า”
เสด็จพี่ห้า! !
หัวใจของหรงฉี่สั่นสะท้าน
เขาอายุมากกว่าหรงเยี่ย และเป็นบุตรลำดับที่ห้า นางจึงเรียกเขาว่าเสด็จพี่ห้า
ไม่ เขาไม่อาจยอมรับมันได้
ความไม่พอใจของหรงฉี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ปรับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตน จากนั้นเบือนหน้าหนีและกล่าวว่า “ต้องการให้ข้าทำเช่นไร?”
“ข้าต้องการฉีดยาให้พระชายาต้วน แต่ข้าไม่อาจเข้าใกล้นางได้ พระชายาต้วนคิดว่าข้าต้องการสังหารนาง รบกวนอ๋องต้วนช่วยจับมือของนางไว้” ไป๋ชิงหลิงจ้องมองไปที่ไป๋จิ่นด้วยสายตาอันเยือกเย็นและกล่าวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...