หลังจากนั้นนางก็สั่งให้จื่ออีดึงฉากกันลมออกมา หลังจากเตรียมเครื่องมือทุกอย่างสำหรับการเร่งคลอดเรียบร้อย นางก็เริ่มดำเนินการ......
ตอนแรกคิดว่าคงใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ไป๋ชิงหลิงกลับใช้เวลาถึงสองชั่วโมงเต็ม เนื่องจากนางต้องการทำให้แน่ใจว่านางจะสามารถนำทารกที่อยู่ในครรภ์ของไป๋จิ่นออกมาได้อย่างปลอดภัย
เนื่องจากทารกเป็นทายาทของราชวงศ์ หากตอนคลอดออกมาทำให้ขาหัก แขนหัก หรือทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ใดที่หนึ่ง นางเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาอีกครั้ง
“เอาล่ะ อุ้มเด็กออกไปให้อ๋องต้วนดู” หลังจากไป๋ชิงหลิงนำเด็กออกมาเรียบร้อย นางก็จัดการกับบาดแผลของไป๋จิ่น
จื่ออีถือถาดไว้ในมือ เดินออกมาจากฉากกันลม เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของหรงฉี่ “ท่านอ๋อง เด็กคลอดออกมาแล้ว ท่านอยากจะเห็นเด็กหรือไม่”
“นางเพิ่งจะตั้งครรภ์ได้ไม่นาน ทารกเป็นตัวแล้วอย่างนั้นหรือ?” ใบหน้าของหรงฉี่เต็มไปด้วยท่าทีแห่งความเหยียดหยาม น้ำเสียงดุดันอย่างดูถูก
พูดอีกอย่างก็คือ สามปีที่ผ่านมานี้ ไป๋จิ่นแท้งลูกครั้งแล้วครั้งเล่า เขาหมดหวังกับการตั้งครรภ์ของไป๋จิ่นไปตั้งนานแล้ว วันนี้ได้ยินจากปากของจื่ออีว่าเด็กคลอดออกมาอย่างปลอดภัย ทำให้เขายิ่งไม่อยากเห็น เนื่องจากทารกยังเป็นเพียงแค่ก้อนเลือด เขารู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก
แต่จื่ออีก็ยังคงดึงผ้าคลุมสีขาวที่ปกคลุมร่างของเด็กออก จากนั้นยื่นเด็กไปด้านหน้า “เป็นรูปร่างแล้ว พระชายาหรงกล่าวว่าครรภ์มีอายุสี่เดือน และเด็กก็เป็นเพศชาย”
ทันทีที่ผ้าขาวถูกยกขึ้น หรงฉี่ก็หรี่ตาลงทันที เห็นเด็กตัวเล็ก ๆ นอนขดอยู่บนผ้าขาว มันยังใหญ่ไม่เท่าฝ่ามือของเขาเลยด้วยซ้ำ ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด......
ทันทีที่หรงฉี่เห็นฉากนี้ เขาโบกมือและกล่าวออกมา “นี่มันบ้าอะไรกัน?”
“ปึก” สิ่งของที่อยู่ในมือของจื่ออีหล่นลงพื้น หรงฉี่ตกใจจนเอนตัวลงไปบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง ยื่นมือออกไปชี้ผ้าขาวที่อยู่บนพื้นพร้อมกับตวาดออกมาว่า “รีบเอามันไปทิ้งเร็ว ข้าจะไปมีเด็กที่น่าเกลียดเช่นนี้ได้อย่างไร มันน่าขยะแขยง”
เด็กในความคิดของเขาควรจะขาวและอ้วนเหมือนกับเด็กที่ไป๋ชิงหลิงให้กำเนิดต่อหน้าเขาในตอนนั้น
มันจะไปน่าเกลียดเหมือนผีเช่นนี้ได้อย่างไร
จื่ออีรีบนำทารกที่ตายไปทิ้ง รู้สึกสงสารเด็กจากก้นบึ้งของหัวใจ สงสารที่เขาเกิดมาบนโลกด้วยสภาพเช่นนี้
ในตอนนี้ ไป๋ชิงหลิงเดินออกมาจากด้านใน หรงฉี่รีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้และเดินไปด้านหน้าของนาง จากนั้นก็จับมือของนางไว้แน่น......
แต่ไป๋ชิงหลิงได้ระวังตัวไว้ตั้งแต่แรก ในตอนที่เห็นหรงฉี่พุ่งพรวดเข้ามา นางก็หลบไปทางด้านข้าง
แล้วแสร้งทำเป็นโน้มตัวพร้อมกล่าวว่า “ท่านอ๋องต้วน ข้าได้จัดการกับบาดแผลของพระชายาต้วนเป็นอันเรียบร้อยแล้ว ส่วนหลังจากนี้......เกรงว่าพระชายาต้วนคงไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก”
“ข้าไม่สนใจนาง คนที่ข้าสนใจมีแต่เจ้าเท่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะเป็นชิงหลิงหรือเจาเสวี่ย ข้า......”
“อ๋องต้วน” ใบหน้าของไป๋ชิงหลิงมืดมน นางจ้องเขม็งไปที่เขาด้วยความโกรธ “ไป๋ชิงหลิงตายไปแล้ว ท่านได้โปรดให้เกียรติตนเองด้วย ไม่เช่นนั้น......ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อปิดปากท่าน”
“เจ้า......” เวลานี้หรงฉี่แทบจะบ้า เห็นภรรยาของตนเองแต่งงานกับคนอื่นในฐานะพระชายา เขาจะนิ่งเฉยได้อย่างไร
เขาก้าวเข้าไปหานางทันที
ซังจวี๋และชิงจู๋ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็รีบพุ่งเข้ามาอยู่ด้านหน้าของไป๋ชิงหลิงทันที ปกป้องนางอยู่ด้านหลังของพวกเขา
หรงฉี่เห็นเช่นนี้ก็หยุดการเคลื่อนไหวทันที กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ “ข้าเองก็ไม่รังเกียจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อชิงเจ้ากลับมา”
“ปัง!” ไป๋ชิงหลิงผลักซังจวี๋และชิงจู๋ที่อยู่ด้านหน้าของตนเองออก จากนั้นก็ตบไปที่ใบหน้าของหรงฉี่อย่างแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...