“เช่นนั้นก็ลุกขึ้นเถอะ ”ไป๋ชิงหลิงออกคำสั่ง
อิงเหลียนลุกขึ้นยืนก่อน แต่เมื่อนางลุกขึ้น นางก็เหลือบมองอิงอู๋ด้วยความเย็นชา
ในค่ายของทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ ทุกคนต้องเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกหรือความปรารถนาใด ๆ ทั้งสิ้น วินาทีที่อิงอู๋แสดงความเมตตาต่อฮวาอิ่งเขาได้ฝ่าฝืนกฎบรรทัดล่างสุดขององครักษ์เหยี่ยวดำแล้ว...
เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นทหารองครักษ์เหยี่ยวดำอีกต่อไป
หลังจากกลับมาที่วังหลวง อิงเหลียนก็เข็นรถเข็น และเดินตามหลังไป๋ชิงหลิงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
เด็กทั้งสองอยู่เป็นเพื่อนอ๋องหรงในตำหนักเฉียนชิง
เมื่อไป๋ชิงหลิงเดินมาถึง เด็กทั้งสองก็วิ่งจากอ๋องหรงไปหาไป๋ชิงหลิงทันที
จากนั้นก็พูดกัน “จ้อกแจ้กจอแจ” ไป๋ชิงหลิงลูบหัวเด็กทั้งสองเบา ๆ จากนั้นจูงมือพาพวกเขาไปที่เตียง
“ท่านดูของขวัญที่ข้าทำให้ท่านสิ” ไป๋ชิงหลิงหันกลับมามองอิงเหลียน
อ๋องหรงมองตามสายตาของนางไป ในมือของอิงเหลียนกำลังเข็นรถเข็นคันใหม่
“ตอนนี้ใช้รถเข็นไปก่อนเถอะ หลังจากที่เรากลับไปที่จวนอ๋องหรงแล้ว ข้าจะเตรียมของสำหรับช่วยพยุงขาทั้งสองข้างของท่าน” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
อ๋องหรงเลิกคิ้ว “ ดูดีทีเดียว”
“ให้ข้าช่วยพยุงท่านไปไหม ?” นางมองไปที่ขาทั้งสองของเขา เลิกคิ้วขึ้นถาม
ริมฝีปากบางของอ๋องหรงโค้งเล็กน้อย และยกมือขึ้นเพื่อกวักมือเรียกนาง
ไป๋ชิงหลิงก้มตัวลง และมือของเขาก็วางลงบนไหล่ของนาง ก่อนจะกดนางลงอย่างแรง
ริมฝีปากบางของเขาประกบลงบนริมฝีปากแดงของนาง แล้วจูบ
ดวงตาของไป๋ชิงหลิงเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นยกมือขึ้นปิดปากและจ้องมาที่เขา “ท่านทำอะไรเนี่ย”
“ปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนที่คนอื่นปฏิบัติต่อตนเอง ดีมาดีตอบ”
"ท่าน..." ช่างไร้ยางอายจริง ๆ
ตอนนี้เขายิ่งใจกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เขาไม่เพียงแต่จู่โจมนางในตำหนักเฉียนชิงของเสด็จพ่อเท่านั้น แต่เขายังทำต่อหน้าลูก ๆ และบริวารอีกด้วย
นางรู้สึกว่าตัวเองตามใจเขามากเกินไป และเธอต้องหักห้ามใจเขาบ้างแล้ว
“ครั้งหน้าไม่ได้แล้วนะ”
“อืม” เขาเลิกคิ้วอย่างอารมณ์ดี แต่ไฝที่ปลายคิ้วของเขานั้นดูเหมือนว่าจะโห่ร้อง
ไป๋ชิงหลิงหันกลับมาโดยไม่สนใจเขา อิงเหลียนผลักรถเข็นไปที่ข้างเตียง และอิงซาช่วยพยุงอ๋องหรงนั่งบนรถเข็น
เด็กสองคนผลักอ๋องหรงไปรอบ ๆ ในพระตำหนักใหญ่
ไป๋ชงเซิงกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน อ๋องหรงหันกลับมาแล้วถามว่า "อยากขึ้นมาไหม?”
“ข้าสามารถลองขึ้นไปได้เหรอ? ” ไป๋ชงเซิงถาม
“ได้สิ นั่งบนตักเสด็จพ่อ” เขาตบต้นขาตัวเอง
ไป๋ชงเซิงรีบวิ่งไปหาเขาทันที จับที่วางแขนของรถเข็นด้วยมือทั้งสองข้างแล้วยกขาขึ้น
อ๋องหรงอุ้มนางขึ้นมา และวางไว้บนตักของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...