ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 288

สรุปบท บทที่ 288 เสิ่นหรูเหลียนฟื้นแล้ว: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 288 เสิ่นหรูเหลียนฟื้นแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 288 เสิ่นหรูเหลียนฟื้นแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนแรกหลังจากที่พระชายารองหวู่ถูกสาวใช้เปิดเผยว่าตั้งครรภ์ มันก็สามารถกล่าวว่าทุกอย่างสำเร็จแล้ว เขาจึงใช้โอกาสนี้ในการให้ไป๋ชิงหลิงเข้าไปในจวนเพื่อทำให้มั่นใจว่าพระชายารองหวู่สามารถปกป้องและคลอดลูกได้อย่างปกติ

ด้วยโอกาสนี้เขาก็จะสามารถได้เห็นไป๋ชิงหลิงทุกวันในจวนของตัวเอง และยังสามารถหาโอกาสในการลงมือกับนางในจวนอ๋อง เพื่อเอาร่างกายของนางมาครอบครอง

แต่หรงเยี่ยก็เน้นย้ำอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกว่าเด็กถูกคนต่อว่า เด็กถูกเหยียดหยาม เด็กร้องไห้งอแง นี่มันเป็นการ......ตบหน้าเขาอย่างโจ่งแจ้ง!

ไอ้สารเลว! !

หรงฉี่กัดฟันแน่น ไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่จะให้พระชายาหรงเข้าไปดูแลครรภ์ของพระชายารองหวู่ในจวน

ร่างกายของหรงเยี่ยได้รับการดูแลจากไป๋ชิงหลิงมาโดยตลอด ไทเฮาเองก็ไม่มีทางยอมปล่อยให้ไป๋ชิงหลิงเข้าไปในจวนอ๋องต้วนเพื่อดูแลพระชายารองหวู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เพราะนอกจากไป๋ชิงหลิงแล้ว ยังมีหมอหญิงคนอื่นที่สามารถทำหน้าที่แบบนางได้

แต่การที่จะปล่อยให้ร่างกายของหรงเยี่ยขาดการดูแลจากไป๋ชิงหลิง เรื่องนั้นไม่ได้เป็นอันขาด

ไทเฮามองมาที่หรงจิ่งหลิน พยักหน้าเบา ๆ พร้อมกล่าวว่า “เช่นนั้นก็กลับไปพักฟื้นที่จวนอ๋องหรงต่อไปเถิด เจาเสวี่ย หากร่างกายของอ๋องหรงมีปัญหาอะไร เจ้าจะต้องเข้ามารายงานในพระราชวังในทันที”

“เพคะ หลังจากเจาเสวี่ยกลับไปจวน ข้าจะดูแลอ๋องหรงเป็นอย่างดี” ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นยืน เดินมาด้านหลังของหรงเยี่ย มือทั้งสองข้างจับไปบนรถเข็นของเขา หลังจากทำความเคารพจักรพรรดิเหยา ฮองเฮา และไทเฮา นางก็เข็นหรงเยี่ยจากไป

เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ไป๋ชิงหลิงรู้ว่าหากต้องการให้พระชายารองหวู่ชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้น คงไม่มีทางเป็นไปได้

จักรพรรดิจะต้องสั่งให้หมอที่เก่งที่สุดดูแลเกี่ยวกับครรภ์ของนาง และหวู่กั๋วกงก็ไม่มีทางนิ่งเฉย

เมื่อออกมาถึงประตูวัง หรงเยี่ยขึ้นไปบนรถม้าก่อน ในตอนที่ไป๋ชิงหลิงกำลังจะขึ้นรถม้า นางก็เห็นเสิ่นหรูเหลียนเดินออกมาจากพระราชวัง

ฝีเท้าของนางหยุดในทันใด รอให้เสิ่นหรูเหลียนก้าวเข้ามาหานาง จากนั้นก็พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย

เสิ่นหรูเหลียนเองก็ทำความเคารพต่อนาง

“แม่ทัพเสิ่น คืนนี้ต้องรบกวนด้วย”

“นี่คือหน้าที่ของข้า” เสิ่นหรูเหลียนกล่าวออกมา

“อย่างไรก็ตาม ข้าก็ยังต้องขอบคุณแม่ทัพเสิ่น” ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่รู้ว่าต้องไปตามหาลูกของนางที่ไหน

หลังจากกล่าวขอบคุณเรียบร้อย ไป๋ชิงหลิงก็หันกลับไปเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถม้า จู่ ๆ เสิ่นหรูเหลียนก็เรียกนางเอาไว้ “พระชายา เรื่องในวันนี้ของพระชายารองหวู่นั้นแปลกเป็นอย่างมาก ในสายตาของข้า พระชายารองหวู่ไม่ใช่คนก้าวร้าวเช่นนี้”

ไป๋ชิงหลิงหยุดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็หันไปมองเสิ่นหรูเหลียน

หรงเยี่ยที่รอยอยู่บนรถม้ามานาน เวลานี้เขาเปิดม่านบนรถม้า และจ้องมองมาที่เสิ่นหรูเหลียน

แต่เสิ่นหรูเหลียนไม่ได้สังเกตใบหน้าอันมืดมนที่จ้องมองผ่านจากม่านบนรถม้าของหรงเยี่ยเลยแม้แต่น้อย

เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ลูบจมูกของเขาและกล่าวมาว่า “ข้ากับพี่ชายของพระชายารองหวู่เป็นเพื่อนกันมานาน และมีความผูกพันกับพระชายารองหวู่ตั้งแต่วัยเด็ก พอจะเข้าใจนิสัยของนาง นางไม่ใช่คนก้าวร้าวและชอบแข่งขัน”

“เจ้ารู้อะไรบางอย่างมางั้นหรือ?” คำพูดของเสิ่นหรูเหลียนทำให้นางตื่นตระหนกเล็กน้อย

“ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้สึกว่า เรื่องในคืนนี้ไม่ใช่ฝีมือของพระชายารองหวู่ ดังนั้นจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย”

“เจ้าไม่รู้หรือไงว่าคนเรานั้นเปลี่ยนกันได้ พระชายารองหวู่ที่เจ้ารู้จักนั้นเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดา แต่พระชายารองหวู่ที่ข้ารู้จักนั้น เป็นพระชายารองของท่านอ๋อง” นางเชื่อว่าคนเรานั้นเปลี่ยนกันได้

เมื่อผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าใครก็พร้อมที่จะแย่งชิงทั้งนั้น

หลังจากอิงซาปิดประตูรถม้า รถม้าก็ถูกขับออกไปจากพระราชวัง

ชิงอีและจื่ออีตามหลังรถม้าคันนั้นไป พวกนางรับหน้าที่ดูแลเด็กทั้งสองคน

ในตอนที่ไป๋ชิงหลิงกลับมาถึงรถม้า นางยื่นมือออกไปสัมผัสริมฝีปากของหรงเยี่ย “ไหนลองอ้าปากให้ข้าดูหน่อย”

“ข้าไม่เป็นไร”

“เมื่อครู่เจ้าเพิ่งจะอาเจียนเป็นเลือด”

“ข้าไม่ได้อาเจียนจริง ๆ ข้าแค่กัดลิ้นของตัวเองจนทำให้เลือดออกเท่านั้น เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” เขานำแขนของเขาโอบร่างกายของนาง กอดนางไว้ในอ้อมแขน

ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วและกล่าวออกมาว่า “เหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้ เจ้าเจ็บบ้างหรือเปล่า”

“เวลานี้หรงฉี่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เจ้ากลับไปอยู่ข้างกายเขา ข้าไม่อยากเสี่ยง ส่งเจ้ากลับไปยังถ้ำหมาป่าอีกครั้ง ในพระราชวังมีหมอหญิงอยู่ตั้งมากมาย ไม่ได้มีแต่เจ้าเพียงคนเดียว” ดวงตาของไป๋ชิงหลิงจมลง ความเยือกเย็นอย่างอธิบายไม่ได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนาง

แม้ว่าจะพูดออกมาเช่นนี้ แต่ไป๋ชิงหลิงก็ยังรู้สึกเป็นห่วงที่เห็นหรงเยี่ยอาเจียนออกมาเป็นเลือด

ในตอนนั้นนางคิดว่าเกิดปัญหาขึ้นกับร่างกายของหรงเยี่ยจริง ๆ มันทำให้นางตกใจจนตัวสั่น

แต่หลังจากที่นางตรวจชีพจรของเขาแล้ว พบว่าร่างกายของเขายังแข็งแรงดี นางถึงรู้สึกโล่งใจ

แม้ว่าเป็นเพียงสัญญาณเตือนที่ผิดพลาด แต่มันก็ทำให้หรงจิ่งหลินตกใจจนร้องไห้ออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น