บทที่ 287 พระชายารองหวู่ตั้งครรภ์ – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 287 พระชายารองหวู่ตั้งครรภ์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
และต้องไม่มีอะไรผิดพลาดอีก
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิง: “พระชายาหรง ครึ่งปีที่แล้ว เจ้าได้ตรวจร่างกายของพระชายารองหวู่ที่จวนท่านอ๋องต้วน เจ้าพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
“ใช่” ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้ว และเมื่อมองไปที่พระชายารองหวู่ดวงตาของเธอยังคงเย็นชาอยู่เช่นเดิม: “แต่นี่เป็นเหตุผลที่นางใช้มาทำร้ายลูกข้าอย่างนั้นเหรอ?”
“แต่ตอนนี้พระชายารองหวู่ก็ได้ขอโทษเจ้าแล้ว แถมนางยังถูกลงโทษให้คุกเข่าที่นี่เป็นเวลาสองชั่วโมงเต็ม ตอนนี้นางก็เป็นลมล้มพับไปแล้ว พระชายาหรงจะเอาอะไรอีก? เจ้าต้องการให้พระชายารองหวู่เสียลูกไปอย่างนั้นหรือ เจ้าจึงจะมีความสุข” พระสนมเอกหรงตอบโต้ด้วยคำพูดที่หนักแน่น แต่ละคำเปรียบดั่งมีด
คำพูดของเธอแฝงไปด้วยการเหน็บแนมไป๋ชิงหลิงให้ดูว่าเธอช่างไร้มนุษยธรรม เธอเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการบีบบังคับพระชายารองหวู่และลูกในครรภ์ของนาง
ผู้คนที่เคยเห็นอกเห็นใจไป๋ชิงหลิงในตอนแรก ก็เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อไป๋ชิงหลิงไปหมดแล้ว
ฮงเฮาอู่พุ่งไปข้างหน้าด้วยความโกรธ โดยไม่สนใจท่าทีของจักรพรรดิเหยา จากนั้นเขาก็ตบหน้าพระสนมเอกหรงยอย่างแรง
”เพี๊ยะ!”
"โอ๊ย!" พระสนมเอกหรงโดนตบจนล้มไปกองกับพื้น
จักรพรรดิเหยาตกตะลึงกับการกระทำของฮองเฮาอู่มาก
เมื่อกี้เขาเห็นเพียงเงาผ่านตาของเขาไป และในพริบตาเดียว เงาที่ผ่านสายตาเขาไปนั้นก็ตบพระสนมเอกหรงจนกองลงไปกับพื้น นี่... ฮองเฮาช่างบังอาจนัก
“พอแล้ว!” จักรพรรดิเหยาพูดอย่างเย็นชา “หมอหลวงฮั่ว”
หมอหลวงฮั่วก้าวมาข้างหน้า เขาคำนับจักรพรรดิเหยา จากนั้นเขาก็เดินไปหาพระชายารองหวู่และสัมผัสชีพจรของเธอ
หลังจากนั้นไม่นานหมอหลวงฮั่วก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า: “ภาวะแท้งคุกคามพะยะคะ พระชายารองหวู่ตั้งครรภ์ได้สองเดือน แต่เป็นเพราะว่านางอยู่ในสภาวะตึงเครียดมาเป็นเวลานาน และพระชายารองหวู่ก็มีสัญญาณของการแท้งบุตรพะยะคะ”
“ฝ่าบาท พระชายารองหวู่คุกเข่าที่นี่เป็นเวลาสองชั่วโมงเต็ม ต่อให้เป็นคนธรรมดาก็ทำไม่ได้หรอกเพคะ แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง” พระสนมเอกหรงปิดหน้าของเธอและกล่าวด้วยน้ำตา
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เอามือออกจากใบหน้าของเธอ จากนั้นก็เบือนหน้าหนีโดยเจตนาเพื่อหันรอยมือสีแดงไปที่จักรพรรดิเหยา
เมื่อจักรพรรดิเหยาเห็นรอยตบ เขาก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว และแอบเอามือไคว่หลัง
หรงฉี่มองไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็มืดมนลง เมื่อมองขึ้นไปที่ไป๋ชิงหลิง ซึ่งยืนอยู่ข้างไทเฮา ทันใดนั้นก็มีแผนการบางอย่างปรากฏขึ้นในใจของเขา
“เสด็จพ่อ หม่อมฉันและจิ่นเอ๋อร์เพิ่งสูญเสียลูก ลูกของพระชายารองหวู่จะต้องไม่แท้งอีก พระชายาหรงเชี่ยวชาญด้านการแพทย์มาก..."
”ฟู่.....”
"ท่านอ๋อง!"
พูดยังไม่ทันจบ จู่ๆ ก็มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาจากทางฝั่งที่หรงเยี่ยอยู่ และทุกคนก็พากันหันไปมองทางหรงเยี่ย
เมื่อมองไป ก็เห็นหรงเยี่ยกระอักเลือดออกจากปาก จับหน้าอกและไออย่างรุนแรง อิงซาที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาวางมือบนหลังของเขาและตบหลังเบาๆด้วยความกังวลอย่างที่สุด
เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของหรงจิ่งหลิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เขารีบวิ่งไปหาหรงเยี่ยอย่างรวดเร็วและตะโกนเสียงดัง: "เสด็จพ่อ"
เขา เขากำลังแกล้งทำงั้นเหรอ?
ในเวลานี้ มือของเขาจับมุมเสื้อผ้าของเธออย่างเงียบ ๆ และแอบดึงเบา ๆ
ทันใดนั้นไป๋ชิงหลิงก็เข้าใจทุกอย่าง
หรงเยี่ยกำลังแกล้งทำ
เขาเป็นคนที่ไม่ตื่นตระหนกเลยจริงๆ
"พระชายาหรง เยี่ยเอ๋อร์เป็นอะไรไป ทำไมจู่ๆเขาถึงอาเจียนเป็นเลือดเช่นนี้ได้" เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงหลิงไม่พูดอะไร ฮองเฮาอู่จึงถามอย่างเป็นกังวล
ด้วยดวงตาสีแดงก่ำ ไป๋ชิงหลิงคุกเข่าลงที่เท้าของฮองเฮาอู่และพูดว่า "ท่านอ๋องหรงไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงเพคะ แค่เป็นโกรธจนหัวใจทำงานผิดปกติเพคะ"
"หัวใจทำงานผิดปกตินี่หรือไม่เป็นอะไรร้ายแรง เจ้ารีบลุกขึ้นและพาเยี่ยเอ๋อร์กลับไปพักผ่อน ที่นี่..." ฮองเฮาอู่หันไปจ้องมองพระสนมเอกหรงและพรรคพวกของเธออย่างดุเดือด และเมื่อเธอหันกลับมาไปอีกครั้ง เสียงของเธอก็หนักแน่นขึ้นและกล่าวขึ้นว่า: “แม่จะเป็นผู้ตัดสินใจแทนเด็กทั้งสองเอง และจะไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาไม่ได้รับความยุตธรรมอย่างเด็ดขาด”
"ใช่ รีบพาท่านอ๋องหรงกลับไปที่ตำหนักเฉียนชิงเร็ว ๆ เข้า" ไทเฮาพยักหน้า คิดว่าฮองเฮาอู่พูดถูกต้อง และอยากให้หรงเยี่ยไปพักผ่อนก่อน
ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้น พยุงหรงเยี่ยขึ้นนั่งรถเข็น และหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเพื่อเช็ดเลือดจากมุมปากของเขา
หรงเยี่ยมองลงไปที่หรงจิ่งหลินแล้วพูดว่า: “เสด็จย่า หม่อมฉันอาศัยอยู่ในวังมามาครึ่งปีกว่าแล้ว จึงอยากจะพาลูกทั้งสองกลับไปที่จวนอ๋องหรง คืนนี้เซิงเอ๋อร์ถูกทำให้ตกใจมาก และเกรงว่าเขาจะไม่อยากอยู่ในวังต่อจนกว่าสภาพจิตใจของเขาจะดีขึ้น"
หลังจากได้ยินคำพูดของหรงเยี่ยใบหน้าของหรงฉี่ก็เปลี่ยนเป็นมืดมนและน่าเกลียดทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...