พระชายารองหวู่ตัวสั่นสะท้าน และยังร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ท่าทีที่ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิดของเธอ ได้เปลี่ยนความประทับใจของไป๋ชิงหลิงที่มีต่อหวู่ไหวเมิ่งไปอย่างมาก
ที่แท้แล้วคนเรา...ก็ตัดสินกันจากรูปร่างหน้าตาไม่ได้จริงๆ
ทั้งๆที่ครั้งแรกที่เจอหวู่ไหวเมิ่ง เขาดูตกใจ และหันไปขอความช่วยเหลือจากเธอ แต่พอได้เจอเขาอีกครั้ง เขาก็กลายเป็นหนามในใจของเซิงเอ๋อร์
พระชายารองหวู่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิง เมื่อไทเฮาเห็นเช่นนี้ก็ตระโกนเสียงดัง: “พระชายารองหวู่ เงยหน้าขึ้นมาตอบเดี๋ยวนี้”
พระชายาหวู่เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว หน้าผากของเธอถูกกระแทกจนมีจ้ำเลือดขนาดใหญ่ เครื่องสำอางของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอบังเอิญเห็นพระชายาหราวหวู่ซือหลิงยืนอยู่ด้านข้างพระสนมเอก
หวู่ไหวเมิ่งรีบเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็ว เธอเช็ดน้ำตาบนใบหน้าแล้วพูดว่า "ข้าขอโทษ"
"ขอโทษ"
"ขอโทษ!"
หวู่ไหวเมิ่งพูดติดๆกันสามครั้ง
จนมีบางคนเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจหวู่ไหวเมิ่ง
แต่ไป๋ชิงหลิงเกลียดคนที่พูดว่า "ขอโทษ" กับเธอเง่ายๆ หลังจากที่พวกเขาทำผิดพลาดไปแล้ว
เธอจับไหล่ของหวู่ไหวเมิ่งด้วยความโกรธและพูดด้วยเสียงต่ำเครือว่า: "แค่คำว่าขอโทษ เจ้าคิดว่ามันจะลบล้างสิ่งที่เจ้าทำกับเซิงเอ๋อร์ได้งั้นหรือ เจ้ารู้ไหมว่าจิ่งหลินไปตามหาเซิงเอ๋อร์ที่ไหน?"
"เพื่อปกป้องเซิงเอ๋อร์เขาไปที่วังเย็น และถูกล้อมรอบด้วยคนกลุ่มหนึ่ง ที่นั้นช่างดูมืดมน มีเพียงไฟสองสามดวงที่แขวนอยู่ที่ประตู เมื่อยืนอยู่บนประตูธรณีแล้วมองลงไปตามทางเดิน มันเหมือนกับทางไปนรกยังไงอย่างงั้น "
"เจ้าลองวิ่งจากถนนอันมืดมินเส้นนั้นไปยังวังเย็นสิ ต่อให้เจ้าร้องไห้ กรีดร้องเพียงใด ก็ไม่มีวันเรียกใครให้มาช่วยเจ้าได้..."
"โอ้ย..." หวู่ไหวเมิ่งร้องลั่น และเอามือกุมศีรษะของตัวเองไว้: “ไม่เอา ไม่เอา ข้าไม่อยากไปวังเย็น ข้ารู้ว่าข้าผิด ข้าจะไม่พูดแบบนี้ต่อหน้าเด็กอีก ขอร้องหล่ะ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ "
”ถ้าเจ้ารู้ว่ามันผิดเช่นนี้ เหตุใดถึงทำมันเล่า " ไป๋ชิงหลิงบีบไหล่ของพระชายารองหวู่ด้วยความเกรียด ดวงตาของเธอแดงก่ำและเต็มไปด้วยความโกรธ
แค่เธอคิดถึงภาพและความรู้สึกจิ่งหลินที่ทำอะไรไม่ถูกในวังเย็น และคำวิงวอนของเซิงเอ๋อร์ที่ให้ออกจากเมืองเฉาจิง หัวใจของเธอก็รู้สึกเหมือนมีถูกแทง
ความเจ็บปวดแบบนั้น ถ้าเธอไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง เธอจะรู้สึกได้อย่างไร
เด็กที่เธอดูแล ถูกเหยียบย่ำแบบนั้น พวกเขาคิดว่าไป๋ชิงหลิงนั้นกลั่นแกล้งได้ง่ายๆงั้นหรือ?
"เพี๊ยะ!" เมื่อไป๋ชิงหลิงโกรธมากจนถึงขีดสุด เธอก็ตบหน้าหวู่ไหวเมิ่งอย่างแรง
หวู่ไหวเมิ่งปิดกุมใบหน้าของเธอและกรีดร้องอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...