อิงซาผลักรถเข็นของเขาเข้าไปที่สนามหญ้า เมื่อหรงเยี่ยเห็นไป๋ชิงหลิงนั่งอยู่บนพื้น และมีกลุ่มคนรับใช้พยุง เขาเกือบจะลุกขึ้นจากรถเข็นโดยไม่รู้ตัว และทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้า
อิงอู๋ที่อยู่ข้าง ๆ เขารีบพยุงหรงเยี่ย และช่วยเขาไปที่สนามหญ้า
หรงเยี่ยเข้าไปหาไป๋ชิงหลิง ยื่นมือออกมากอดนางอย่างแรง แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ชั้นสองของหอเป่าซิน
อิงซากล่าวว่าเมื่อนางตกลงมาจากชั้นสอง เขารู้สึกว่าร่างกายและจิตใจล้วนไม่ใช่ของตัวเอง จนอยากจะใช้จิตวิญญาณลอยไปที่ด้านข้างของไป๋ชิงหลิง
เมื่อเขาได้ยินเสียงของไป๋ชิงหลิง แรงกระตุ้นและความโกรธทั้งหมดของเขา ก็กลายเป็นแอ่งน้ำที่อ่อนนุ่ม
ใบหน้าเล็ก ๆ ของไป๋ชิงหลิงพิงไหล่ของเขา มือทั้งสองของนางกอดเขาแน่น เสียงของนางแหบแห้งเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นไร ชิงอีและอิงอู๋มาช่วยไว้ ”
เมื่อตกลงมาจากตึก ชิงอีโยนจานผลไม้ทิ้งและรีบวิ่งเข้ามา อิงอู๋ก็วิ่งไปเช่นกัน วางแขนขาของนางลงกับพื้น พิงร่างของชิงอี และใช้หลังของตัวเองมารับตัวนางไว้
ดังนั้น นางจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่นางตกใจเป็นอย่างมาก
นางไม่เคยคาดคิดว่า เสิ่นโหรวเม่ยจะกล้าที่จะสังหารนางในจวนอ๋องหรง
หรงเยี่ยจับหลังศีรษะของนางอย่างระมัดระวัง และมองลงมาที่นาง “ให้ข้าดูหน่อยว่ามีอาการไม่สบาย หรือเจ็บตรงไหนหรือไม่”
“ข้าไม่เจ็บ” ไป๋ชิงหลิงส่ายหัว และฝังใบหน้าเล็ก ๆ ของนางไว้ในอ้อมแขนของเขา
ชั้นสองไม่สูงเกินไป และถ้าตกลงไปนางก็แค่กึ่งพิการ แต่นางก็ยังกลัวมาก
ข้ากลัวว่าตัวเองจะโชคร้าย ถ้าข้าล้มลงเอาศีรษะไปกระแทกกับก้อนหิน และเสียชีวิตทันที
กลัวว่าถ้าตายแล้วจะทิ้งเขาและเด็กทั้งสองคน……
กลัว……
“เม่ยเอ๋อร์ เม่ยเอ๋อร์……”เสียงของอ๋องเฉินดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
“ท่านอ๋อง พระชายามีเลือดออกด้านล่าง”
“ทำไมถึงมีเลือดล่ะ พระชายาตกลงมาจากชั้นสองได้ยังไง พวกเจ้ารับใช้ดูแลกันยังไง ไอ้พวกสารเลว” อ๋องเฉินโกรธจัด
สาวใช้ที่รับใช้เสิ่นโหรวเม่ยคุกเข่าแทบเท้าของอ๋องเฉิน ชี้ไปที่ไป๋ชิงหลิงและร้องว่า “หม่อมฉันเห็นกับตาตัวเองว่าพระชายาหรงผลักพระชายาเฉินลงมาจากชั้นสองเพคะ……”
ทุกคนหันศีรษะไปมองยังทิศทางของอ๋องเฉิน จื่ออีกระโดดขึ้นทันที และดุด้วยความโกรธ “ไร้สาระ เป็นพระชายาเฉินเป็นผู้ฉวยโอกาสที่พระชายาของข้าเดินออกมาจากข้างใน จู่ ๆ ก็พุ่งเข้า และไปผลักพระชายาของข้าตกลงมาตอนนั้นข้ายังคงกอดช่วยนายท่านหญิงอยู่ แต่พระชายาเฉินไม่รู้ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น นางกระโดดลงมาเอง และยังคว้าตัวพระชายาของข้ากระโดดลงไปด้วยกันอีก”
“เพี๊ยะ ! ” ทันทีที่จื่ออีพูดจบ อ๋องเฉินก็พุ่งเข้ามาตบหน้าจื่ออีอย่างแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...