หรือไม่ก็เกิดความขัดแย้งระหว่างพระชายาทั้งสอง และด้วยความไม่ระวังจึงผลักกันล้มลง
ด้วยสิ่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ นางช่างไร้เดียงสาเสียจริง
“ท่านอ๋องไม่อยากให้เจ้านายน้อยทั้งสองรับรู้เรื่องนี้ ดังนั้นเจ้าห้ามบอกพวกเจ้านายน้อยเป็นอันขาด” จื่ออีกล่าวเตือนออกมา
ชิงอีพยักหน้า “เจ้าไปดูแลพระชายา ที่นี่มีข้าอยู่”
“ได้”
แมวดำหมอบอยู่บนหลังคา กระโดดพุ่งขึ้นไปบนหลังคาด้านบน กลับไปอยู่ข้างกายของไป๋ชงเซิง ใบหน้าของแมวแนบชิดใบหูของไป๋ชงเซิง จากนั้นส่งเสียงออกมา “เหมียว เหมียว เหมียว”
หลังจากไป๋ชงเซิงเข้าใจในทำพูดของเป่าลี่ว์ ใบหน้าน้อย ๆ ของนางก็เคร่งขรึมขึ้นมาก
ยัยผู้หญิงชั่วเสิ่นโหรวเม่ย รังแกแม่ของนางตั้งแต่แรกเริ่ม ทุกวันนี้ความรุนแรงก็เพิ่มมากขึ้น นางไม่มีทางปล่อยนางไปเป็นแน่
“เป่าลี่ว์ เจ้าคอยจับตาดูพระชายาเฉินไว้ รายงานทุกการเคลื่อนไหวของนางให้ข้าได้รับรู้”
“เหมียว!” เป่าลี่ว์กระโดดออกไปจากอ้อมแขนของนาง ขึ้นไปบนหลังคา และออกไปจากจวนอ๋องหรง
......
อ๋องเฉินไม่สนใจเท้าที่บาดเจ็บ โอบกอดเสิ่นโหรวเม่ยไว้ในอ้อมแขนและวิ่งเข้าไปในศาลาชุยฟุอย่างรวดเร็ว
หมอเหลียงซึ่งอยู่ในจวนอ๋องได้รับแจ้งจากอ๋องเฉินล่วงหน้า จึงมารออยู่ที่ศาลาชุยฟุตั้งนานแล้ว
อ๋องเฉินวางเสิ่นโหรวเม่ยลงบนเตียงไม้ เสิ่นโหรวเม่ยจับแขนของอ๋องเฉินและร้องไห้ออกมา “ลูก ลูก ลูกของพวกเรา......เกรงว่าคงไม่อาจปกป้องเอาไว้ได้แล้ว”
“เม่ยเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล พวกเรายังอายุน้อย อนาคตยังอีกยาวไกล” อ๋องเฉินปลอบใจนางด้วยความเจ็บปวด
เสิ่นโหรวเม่ยกอดเขาไว้แน่น กล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ “เมื่อวานในตอนที่พี่สะใภ้เจ็ดไปนำยาจากห้องเก็บยามา ข้าได้ยินพี่สะใภ้เจ็ดพูดกับพี่เจ็ดว่า......พวกเขาเองก็ต้องการปิ่นหยก ฝ่าบาท พวกเราไม่อาจแก่งแย่งปิ่นหยกได้อีกต่อไป เรื่องในวันนี้......ก็ไม่ต้อง......ก็ไม่ต้องบอกเสด็จแม่ ทั้งหมดเป็นเพราะ......ข้าติดหนี้เขาไว้มาก วันนี้จึงต้องชดใช้ให้แก่เขา”
“เจ้าติดหนี้อะไรเขา?” อ๋องเฉินร้องไห้และโอบกอดร่างของนาง
เสิ่นโหรวเม่ยมองไปที่ด้านบนของเตียง ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “เขาน่าจะไม่พอใจกับสิ่งที่ข้าทำลงไปเป็นการส่วนตัวในตอนนั้น ใช้สถานะขององค์หญิงเข้าไปในแคว้นฉี แต่งงานกับเขาเพื่อแก้แค้น หลังจากจัดการกับแคว้นฉีได้แล้ว ทัศนคติที่ข้ามีก็ไม่เหมือนก่อนแล้ว......”
นางหลั่งน้ำตาออกมา กล่าวด้วยความยากลำบาก
อ๋องเฉินผงะเล็กน้อย จ้องมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน
แม้ว่าจะแต่งงานกับนางแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าพี่เจ็ดของเขาเนรคุณต่อผู้หญิงที่งดงามผู้นี้
“เม่ยเอ๋อร์ ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้าเสียใจ ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใดข้าสามารถมอบให้เจ้าได้ทั้งหมด ต่อให้ต้องแย่งชิง ข้าก็จะแย่งชิงสมบัติกลับมามอบให้กับเจ้า เรื่องปิ่นหยก ข้าตัดสินใจแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...