“เซิงเอ๋อร์อยู่ข้างเสด็จพ่อ ข้าอยากไปที่ลานประลองราชวงศ์กับเสด็จแม่” หรงจิ่งหลินเอนตัวในอ้อมแขนของนาง และพูดอย่างอ่อนโยนและเชื่อฟัง
เมื่อใบหน้าของไป๋ชิงหลิงกดแนบกับหน้าผากของเขา บางครั้งก็รู้สึกว่าจิ่งหลินเป็นเหมือนเสื้อบุนวมตัวเล็ก ๆ ห่วงใยและเชื่อฟัง ในขณะที่เซิงเอ๋อร์เป็นเหมือนเด็กชายตัวน้อยที่ซุกซนและยังซุ่มซ่าม
นางพึมพำด้วยเสียงเบา “จิ่งหลิน ขอโทษนะ”
หรงจิ่งหลินไม่เข้าใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิงและถามว่า “ทำไมเสด็จแม่ถึงต้องพูดขอโทษลูกด้วยล่ะ?”
“เพราะว่า... ” นางไม่ควรผลักจิ่งหลินออกไป
แม้ว่านางจะไม่ใช่คนที่ให้กำเนิดจิ่งหลิน แต่ร่างกายนี้ก็เป็นของแม่แท้ ๆ ของเขา อารมณ์แบบนี้ค่อนข้างซับซ้อนเกินไปแล้ว
“มาทานอาหารกับเสด็จแม่กันเถอะ”
“ขอรับ”
ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นไปอาบน้ำ หลังจากรับประทานอาหารเช้าก็ออกจากจวนท่านอ๋อง และมุ่งหน้าไปยังลานประลองราชวงศ์
ราชวงศ์จะจัดงานฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกปี และการแข่งม้าตีคลีก็เป็นกีฬาที่พวกเขาชื่นชอบอย่างไม่ต้องสงสัย
ทันทีที่นางและหรงจิ่งหลินก้าวเข้าไปในลานประลองราชวงศ์ พวกเขาเห็นอ๋องเฉินและเสิ่นโหร่วเม่ยเดินเข้ามาจากประตูอีกด้าน
ไป๋ชิงหลิงมองไปที่อ๋องเฉิน มีคนรับใช้หนุ่มคอยพยุงเขา การเดินดูเหมือนจะไม่ยากเหมือนเมื่อก่อน น่าจะฟื้นตัวได้ดี
ในขณะนี้ เสิ่นโหร่วเม่ยมองมา นางอยู่ใกล้หูของอ๋องเฉิน ไม่รู้ว่าพูดอะไร และอ๋องเฉินก็ยังมองมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
จากนั้นเขาก็จับมือของเสิ่นโหร่วเม่ยและ เดินเข้ามาหานาง “พี่สะใภ้เจ็ด ช่างเป็นวิธีที่ดี ในการยุยงแม่ทัพเสิ่นให้ย้ายเม่ยเอ๋อร์ออกจากจวนตระกูลเสิ่น และปล่อยให้นางไม่มีใครให้พึ่งพาในตระกูล เจ้าพอใจแล้วหรือยัง?”
ไป๋ชิงหลิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และชำเลืองมองไปที่เสิ่นโหร่วเม่ย
นางคิดไม่ถึงว่า เสิ่นหรูเหลียนได้ถอนชื่อของเสิ่นโหรวเม่ยออกแล้ว
ดูเหมือนว่าสถานะของเสิ่นหรูเหลียนในตระกูลเสิ่น... ไม่ต่ำเลย
“เกี่ยวอะไรกับข้า?” ไป๋ชิงหลิงพูดเย้ยหยัน
อ๋องเฉินโกรธมาก “ไม่ใช่เจ้า เช่นนั้นก็เป็นท่านพี่เจ็ด ไม่ว่าจะใครก็ตามมันล้วนเป็นเพราะเจ้า เจ้าผลักเม่ยเอ๋อร์ตกจากตึก ทำให้เม่ยเอ๋อร์แท้งลูก……”
“ช้าก่อน!” ไป๋ชิงหลิงขัดจังหวะคำพูดเขา เลิกคิ้วและพูดว่า “พอดีว่าวันนี้เป็นวันฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ของราชวงศ์ เสด็จพ่อ เสด็จแม่และเสด็จย่าก็อยู่ในงานเลี้ยงด้วย ข้าเต็มใจพูดคำสาบานที่ร้ายแรงกับพระชายาเฉินต่อหน้าทุกคน”
สีหน้าของเสิ่นโหรวเม่ยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน……
นางไม่ลืมคำสาบานที่ร้ายแรงที่ไป๋ชิงหลิงทำในจวนท่านอ๋องเฉิน คนอื่นไม่รู้ความจริง แต่นางเสิ่นโหรวเม่ยรู้ความจริง
นางไม่ต้องการสาบาน
นางหันหน้าหนีและพูดเบา ๆ “ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ข้าไม่อยากถือสาเรื่องนั้นอีกต่อไป และกระทบกระเทือนความสามัคคีระหว่างสะใภ้”
“เม่ยเอ๋อร์ เจ้านิสัยดีมากเลย แต่นางไม่มีค่าพอ นางฆ่าลูกของเรา ดังนั้นเราจะปล่อยนางไปแบบนี้ไม่ได้ ข้าอยากจะใช้งานเลี้ยงของราชวงศ์สะสางเรื่องนี้ให้ชัดเจน ให้นางอธิบายให้ฟัง ” อ๋องเฉินจับมือของเสิ่นโหรวเม่ย โดยไม่เต็มใจที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...