ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 37

รูม่านตาของไป๋จิ่นหรี่ลงเล็กน้อย และยังไม่ทันที่นางจะตอบสนองใดๆ เงาสีดำก็เคลื่อนตัวผ่านหน้าของนางไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาเดียวก็เข้าไปถึงภายในเรือน

ไป๋ชิงหลิงมองดูสถานที่ที่หรงเยี่ยเดินเข้าไป ฝีเท้าของเขาเร็วราวกับสายลม

จากนั้นใต้เท้าเว่ยก็ติดตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อไป๋จิ่นได้สติขึ้นมาก็รู้สึกฝ่ามือของนางได้เย็นเป็นน้ำแข็งไปแล้ว จากนั้นจึงรีบเดินเข้าไปภายในเรือน

มีห้องลับห้องหนึ่งอยู่ข้างหลังเตียงของฮูหยินอาวุโส

และการเปิดปิดของห้องลับนั้น กลับติดตั้งอยู่ที่ดวงตาของเจ้าแม่กวนอิมที่เป็นหินแกะสลักในห้องน้ำชา

หากไม่ใช่เป็นเพราะทหารองครักษ์เหยี่ยวดำได้รับการฝึกฝนมาอย่างตรากตรำและมีความละเอียดรอบคอบละก็ คงไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอนว่าปุ่มเปิดปิดทางเข้าออกของห้องลับนั้นจะถูกติดตั้งไว้ที่ดวงตาของหินแกะสลักเจ้าแม่กวนอิม

ขณะที่ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปในห้องนอนของฮูหยินอาวุโส หรงเยี่ยได้อุ้มเด็กเดินออกมาจากภายในห้องลับเรียบร้อยแล้ว

เด็กน้อยกำลังกอดคอของเขาและร้องไห้...... "ฮือๆ"

"ท่านแม่ ท่านแม่ ข้างในทั้งมืดและเหม็นอับ ข้ากลัวมาก ข้าต้องการท่านแม่......" ไป๋ชงเซิงร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำเสียงของนางทั้งแหบพร่าและเสียงดัง

ไป๋ชิงหลิงได้ยินเข้าแทบใจสลาย

นางวิ่งไปยังหรงเยี่ยและรับลูกของนางจากอ้อมกอดของเขา ด้วยความรู้สึกทั้งสงสารและรู้สึกผิด

นางเคยต้องออกไปรักษาโรค และปล่อยให้เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ที่ยังเล็กอยู่ที่บ้านคนเดียวลำพัง หลังจากนั้นเป็นต้นมา เสี่ยวเซิงเอ๋อร์ก็กลัวการอยู่ในห้องมืดเพียงลำพัง

นางคิดไม่ถึงเลยว่า ไป๋จิ่นจะนำลูกสาวของนางไปกักขังอยู่ในสถานที่เช่นนั้น นางช่างเป็นคนชั่วช้าเสียเหลือเกิน

ขณะนั้น อิงอู๋ได้พาชิงอีและลี่ว์อีออกมาจากห้องลับ ทว่าทั้งสองถูกตบตีจนใบหน้าบวมช้ำและดูน่าเวทนาอย่างมาก

เมื่อไป๋ชิงเหลิงเห็นสภาพของทั้งสองคนก็รู้สึกโมโหอย่างมาก

นางหันกลับไปและเดินพุ่งไปยังไป๋จิ่น จากนั้นตบเข้าไปที่ใบหน้าของไป๋จิ่นอย่างแรง

"เพี๊ยะ!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น