ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 424

จื่ออีเคยพูดว่า หลังจากใช้วิชาถอดวิญญาณ ภายในสิบวันอาการจะกำเริบ แต่หลังจากที่เธอกลับมาจากป้อมปราการทางน้ำร่างกายเธอก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

และทุกวันนี้ หรงเยี่ยก็อยู่เคียงข้างเธอตลอด

นั่นก็หมายความว่าแม้ว่าวิชาถอดวิญญาณจะอาการกำเริบ หรงเยี่ยก็จะใช้วิธีที่ทำให้เธอไม่รู้ถึงความผิดปกติใดๆในร่างกาย และท้ายที่สุดข้างกายเธอยังมีหมอเทวดาซูผู้มีทักษะทางการแพทย์ที่ไม่ด้อยไปกว่าเธอ

ทักษะทางการแพทย์ของเธอประกอบด้วยเครื่องมือมากมาย แต่ทักษะทางการแพทย์ของหมอเทวดาซูนั้นเป็นของจริง แม้จะเหนือกว่าเธอก็ตาม

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ อาการของวิชาถอดวิญญาณต้องกำเริบขึ้นแน่นอน และยังก่ออันตรายบางอย่างให้กับหรงเยี่ย แต่ว่า.....เธอจำไม่ได้แล้ว

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ความเกลียดชังและความโกรธที่เธอมีต่อหรงเยี่ย ก็ลดน้อยลงทันที เหลือเพียงความวิตกกังวลในใจ

เมื่อเธอหยิบเลือดกู่ออกมาจากกล่อง มือของเธอก็สั่น

ในเวลานี้ หยางสวี่อี้รีบกุมมือเธอทันที และตะโกนว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ รีบไป ไปหาอาเสวี่ย......”

เธอตัวแข็งทื่อ ก้มหน้ามองเขา

หยางสวี่อี้กำลังละเมอ

“อาเสวี่ย ช่วยท่านพ่อท่านแม่......”

“พี่รอง! ” ไป๋ชิงหลิงยกมืออีกข้างขึ้น ตบหลังของหยางสวี่อี้เบาๆและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าจะตามหาท่านพ่อท่านแม่ให้เจอ”

หยางสวี่อี้อาจจะได้ยินเสียงของเธอ จึงค่อยๆปล่อยข้อมือของเธอ

ไป๋ชิงหลิงหยิบมีดผ่าตัดออกมาจากหีบทางการแพทย์ กรีดที่แขนของหยางสวี่อี้ และใช้แหนบคีบเลือดกู่ออกมาจากกล่อง วางบนแขนของหยางสวี่อี้

เมื่อเลือดกู่ได้กลิ่นเลือด ก็มุดเข้าไปในรอยแผล และหายเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ที่ที่มันไปถึง เส้นเลือดก็จะปูดขึ้นทีละนิด มันค่อยๆมุดลงไปจนถึงเนื้อชั้นในของมนุษย์ สุดท้ายก็ไม่เห็นอะไรเลย

ทันใดนั้นหยางสวี่อี้ก็กำผ้านวมไว้แน่น และกัดฟันด้วยความเจ็บปวด

ไป๋ชิงหลิงหยิบเข็มเงินออกมา แทงเข้าไปในเส้นเลือดของเขา และฉีดยาแก้ปวดเข้าไป

มือที่กำผ้านวมแน่น ก็คลายออกทันที

เธอดึงเข็มออกอย่างใจเย็น และแขวนถุงเลือดให้หยางสวี่อี้ เพื่อให้เลือดกับเขา

เลือดกู่ที่อยู่ในร่างกายของหยางสวี่อี้ถูกเธอเลี้ยงเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และเธอเสี่ยงที่จะใช้มัน เพิ่มความสงสัยในการติดเชื้อจากเลือดกู่ในอนาคตได้อย่างไม่ต้องสงสัย ไป๋ชิงหลิงไม่กล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย ได้ใช้เครื่องมือคอยติดตามว่าเลือดกู่นั้นไปถึงที่ไหนบ้าง

ตราบใดที่เลือดกู่ไม่บุกไปถึงหัวใจหรือว่าสมองของหยางสวี่อี้ ก็จะไม่มีอันตรายต่อชีวิตของหยางสวี่อี้

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เลือดกู่ก็หยุดที่อยู่ท้องน้อยของหยางสวี่อี้

ขอเพียงเลือดกู่หยุดอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งขึ้นไป ในช่วงเวลาสั้นๆ มันก็จะไม่เคลื่อนไหวไปที่อื่น

ในเวลานี้ ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ไป๋ชิงหลิงนึกถึงเลือดกู่ที่ยังโตไม่เต็มวัยในกล่องที่หายไป ไม่สามารถโน้มน้าวใจตัวเองได้อีกต่อไปว่าเธอเองนั้นจะสามารถเพิกเฉยต่อความเป็นความตายของหรงเยี่ยได้

เธอดินออกจากห้อง ชิงอีนั่งเหม่อลอยอยู่ใต้ชายคา มือทั้งสองข้างถือจานที่มีอาหารไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น