นัยน์ตาของไป๋ชิงหลิงจ้องมองมาที่ชายผู้นั้น ร่างกายของนางปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็น
นางเพิ่งจะมีความสุขกับการที่จะให้กำเนิดชีวิตใหม่ได้ไม่นาน แต่เวลานี้กลับถูกลากลงไปสู่ขุมนรกอีกครั้ง
ความรู้สึกนี้มันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าการลอกหัวใจของนางเสียอีก
แม้ว่าเหตุผลที่เขาไม่ต้องการเด็กคนนี้นั้นเพียงพอ แต่ไป๋ชิงหลิงก็ยังรู้สึกว่าเขาโหดร้ายเกินไป
ไป๋ชิงหลิงเบือนหน้าหนี ดึงมือของตนเองกลับมา ไม่ได้รับปากคำพูดของเขา
หลังจากนั้นไม่นานไป๋ชิงหลิงก็หลับไป
ลี่ว์อีเตรียมน้ำสำหรับแช่เท้าให้หรงเยี่ยเรียบร้อย หรงเยี่ยเดินไปยังห้องด้านข้าง วางเท้าทั้งสองข้างลงในอ้างน้ำที่นำยาใส่ไว้เรียบร้อย แววตาของเขาไร้ซึ่งความอบอุ่น “ผู้หญิงที่แท้ลูก......มันเจ็บปวดแค่ไหน?”
ลี่ว์อีที่นั่งอยู่ด้านข้างตกตะลึง
นางมองมาที่เขาด้วยความไม่เข้าใจ จากนั้นก็ก้าวไปด้านหน้าเพื่อตอบคำถามของเขาด้วยความเคารพ “กราบทูลท่านอ๋อง พระชายามีตัวยาอยู่ในมือ การทำแท้งเด็กไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการที่เจ็บปวด แต่ร่างกายของบางคนก็ไม่เหมาะกับตัวยาดังกล่าวนี้ ส่วนร่างกายของพระชายานั้นต้านยาสลบได้ ข้าเพียงเห็นพระชายาใช้มันกับการผ่าตัดให้ผู้อื่นเท่านั้น ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยลองกับตัวเอง......”
ในตอนที่ลี่ว์อีได้ยินคำถามของหรงเยี่ย ความไม่สบายใจก็ปรากฏขึ้นมาในใจของนาง
จู่ ๆ ท่านอ๋องพูดถึงเรื่องการทำแท้ง เป็นไปได้ว่าเขาไม่ต้องการเด็กที่อยู่ในท้องของพระชายา!
เพียงแต่......เพราะเหตุใด?
จู่ ๆ ลี่ว์อีก็คุกเข่าลงไป “ท่านอ๋อง เมื่อครู่ที่ข้าพูดออกไปเป็นวิธีการที่พระชายาใช้ แต่หากเป็นวิธีการที่ใช้กันปกติ มันจำเป็นต้องใช้ยากระตุ้นเลือดจำนวนมาก สตรีที่ทานยาพวกนี้เข้าไป แม้จะรอดชีวิตมาได้แต่สภาพร่างกายก็ไม่แข็งแรงเหมือนปกติ ท่านอ๋อง ท่านไม่ต้องการเด็กในท้องของพระชายาอย่างนั้นหรือ?”
นางรวบรวมความกล้าในการกล่าวประโยคสุดท้ายออกมา
และใบหน้าของหรงเยี่ยก็มืดมนลงเรื่อย ๆ มือทั้งสองข้างกำที่วางแขนของเก้าอี้ไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว “ออกไปก่อน”
“เพคะ” ลี่ว์อีไม่กล้ารอช้า นางลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องเพื่อไปยังห้องครัว เตรียมอาหารเย็นให้แก่ไป๋ชิงหลิง
หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงตื่นขึ้นมา นางก็เห็นแค่เพียงลี่ว์อี
นางกำลังนั่งคุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะอาหาร เพื่อจัดสำรับอาหารให้เรียบร้อย
ไป๋ชิงหลิงก้มลงมามองที่นาง พบว่าดวงตาทั้งสองข้างของลี่ว์อีแดงก่ำ ราวกับเหมือนคนร้องไห้
“ลี่ว์อี เจ้าร้องไห้อย่างนั้นหรือ?” ไป๋ชิงหลิงถามออกมา
ลี่ว์อีเช็ดขอบตาของนาง “พระชายา เมื่อสักครู่ข้าหั่นหัวหอม ไม่ระวังจึงทำให้มันกระเด็นเข้าตา”
“ระวังด้วย” ไป๋ชิงหลิงชำเลืองมองอาหารที่ลี่ว์อีนำเข้ามา ภาพของชิงอีผุดขึ้นมาในหัวของนาง นางรู้สึกหดหู่ใจ และอยากจะอาเจียนออกมาทันที
“แหวะ!”
“พระชายา” ลี่ว์อีกระโถนออกมาวางไว้ข้างเตียง จากนั้นลุกขึ้นยืน ลูบหลังของไป๋ชิงหลิงเบา ๆ น้ำตาของนางไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไป๋ชิงหลิงจับมือของลี่ว์อีไว้ อาเจียนออกมาแทบตาย แต่สุดท้ายกลับไม่มีสิ่งใดออกมาเลย กระเพาะของนางบิดเป็นวงกลม
เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดออกมาแล้ว ไป๋ชิงหลิงก็ลุกขึ้นและพูดว่า “ลี่ว์อี ไปช่วยข้าเตรียมยาทำแท้ง แค่ปรุงยาตามที่ข้าบอกก็พอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...