ทันใดนั้นหรงเยี่ยก็กดร่างของไป๋ชิงหลิงอย่างแรงและพูดว่า “ข้าจะไปคุย”
หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง เดินไปหาเสิ่นหรูเหลียน จากนั้นชายทั้งสองก็ก้าวเข้าไปในเรือนตระกูลสวี่ด้วยกัน
ชาวบ้านตระกูลเฉินที่ล้อมรอบเรือน ก็รีบหลีกทางให้หรงเยี่ยและเสิ่นหรูเหลียน
ทั้งสองหยุดอยู่หน้าสวนผักนอกเรือน
ตอนนี้ลูกสะใภ้คนโตของฟางปู๋เว่ยยกจานเนื้อมันเยิ้มมาเสิร์ฟ
ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะชิม ท้องของนางก็เริ่มปั่นป่วน นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่อาเจียน แต่มีน้ำกรดพุ่งขึ้นมาในท้องของนาง จนทำให้นางทนไม่ไหวจนอาเจียนออกมา
“อ้วก!”
ทุกคนทั้งในและนอกเรือนมองไปที่ไป๋ชิงหลิง
เมื่อทุกคนเห็นไป๋ชิงหลิงอาเจียนออกมาอย่างทรมานต่อหน้าจาน ทุกคนก็กลั้นหายใจทันที
ไม่รู้ว่าฟางปู๋เว่ยเตรียมอาหารอะไรให้พระชายาผู้ทรงเกียรติ แต่เมื่อพระชายาเห็นก็อาเจียนออกมา
ลูกสะใภ้คนโตของฟางปู๋เว่ยคุกเข่าลงด้วยความตกใจ และพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “พระชายา……ท่านไม่ชอบอาหารจานนี้หรือเจ้าคะ?”
ไป๋ชิงหลิงปิดปาก พูดไม่ได้เพราะรู้สึกปวดท้องทรมาน นางจึงโบกมือพร้อมกับอาเจียนออกมาสองสามครั้ง
ไป๋หมิงฮุ่ยนำน้ำมาจากห้องครัว และหรงเยี่ยรีบก้าวเท้าเข้ามาจากนอกเรือน โดยคว่ำจานอาหารบนโต๊ะในทันที
ลูกสะใภ้คนโตของฟางปู๋เว่ยตัวสั่นด้วยความตกใจ
เสิ่นหรูเหลียนยังดูฉากนี้ด้วยความตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่อดทน และทรมานของไป๋ชิงหลิง หัวใจของเขาก็กระตุกสองสามครั้ง และเขาก็ถามโดยไม่รู้ตัวว่า “พระชายาประชวรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
เมื่อหรงเยี่ยได้ยินเช่นนี้ ก็เงยหน้าขึ้นมองเขา
เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจที่เขาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่หญิงสาวบางคนนอกเรือนเห็นสิ่งผิดปกติในแวบเดียว “พวกนางมอง พระชายากำลังตั้งครรภ์ใช่ไหม ตอนสมัยสาว ๆ ตอนพวกนางตั้งท้องก็เป็นเช่นนี้ พอเห็นอาหารก็รู้สึกอยากอาเจียน ไม่กินอะไรก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อเห็นของมันเยิ้มนั้น ที่แม่สามีทำให้อาหารเรียกน้ำย่อยให้หญิงสาวกิน และพวกนางก็อาศัยอาหารจานนั้นมาตลอดการตั้งครรภ์”
“อาหารอะไร?” ชายทั้งสองถามขึ้นพร้อมกัน
หรงเยี่ยจ้องมองที่เสิ่นหรูเหลียนอีกครั้ง
แต่เสิ่นหรูเหลียนไม่รู้เลยว่าคำถามที่ตัวเองถามเมื่อครู่นี้จะมีปัญหาอะไร
แน่นอนว่า ในสายตาของคนทั่วไปภายนอกเหล่านั้น ก็ย่อมไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับหรงเยี่ยแล้ว นี่เป็นปัญหาใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น