“พระชายาทำตามความสามารถก็พอ อย่าให้ร่างกายเหนื่อยจนเกินไป” ดวงตาของอ๋องหรงจับจ้องไปที่ท้องน้อยของนาง
ไป๋ชิงหลิงสัมผัสหน้าท้องแบนราบของนางโดยไม่รู้ตัว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ารู้จักร่างกายของตัวเอง และข้าจะดูแลบุตรของเรา โดยให้ความสำคัญกับร่างกายเป็นอันดับแรก”
“อืม!” อ๋องหรงพยักหน้า
ไป๋ชิงหลิงหยิบยาให้เขา และหลังจากที่เขารับ จากนั้นไปหาสวี่โหย่วไฉลูกชายคนเล็กของฟางปู๋เว่ย
เมื่อนางอยู่ต่อหน้าอ๋องหรง หยิบเครื่องมือบางอย่างออกมาจากที่ว่าง โดยชิ้นหนึ่งแปะบนสมองของสวี่โหย่วไฉอีกชิ้นแปะไว้ที่หัวใจของเขา และอีกชิ้นแปะไว้ที่ช่องท้องของเขา
หน้าจอเครื่องมือแสดงให้เห็นว่าลูกชายของซู่โหยวฉายมีลิ่มเลือดในสมอง และก้อนเลือดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และยากที่จะหาย
มีทางเดียวคือต้องลองผ่าตัดดู !
อย่างไรก็ตามการผ่าตัดสมองใช้เวลานาน และต้องอาศัยความร่วมมือจากนาง และปัจจัยเสี่ยงก็สูงมากเช่นกัน
นางและอ๋องหรงใช้เวลาส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตระกูลเฉิน และคาดว่าเสิ่นหรูเหลียนอาจไล่ตามมาถึง ก่อนการผ่าตัดจะเสร็จสิ้น
ให้ตายเถอะ ชายคนนี้เซ้าซี้มากจริง ๆ
“สมองเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”ทันใดนั้นอ๋องหรงก็ถามขึ้น
เมื่อไป๋ชิงหลิงหันหน้าไป ก็เห็นอ๋องหรงจ้องไปที่จอเครื่องเล็กตรงหน้านาง
นางตกใจและพูดว่า “ท่านรู้ได้อย่างไรว่านี่มันส่วนศีรษะ”
อ๋องหรงหัวเราะเบา ๆ “พระชายา ข้าได้ฆ่าคนมากมายในสนามรบ ข้าสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งใดคือหัวใจและสิ่งใดคือสมอง !”
“อุ๊บ!”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไป๋ชิงหลิงก็นึกถึงฉากนองเลือด แล้วท้องไส้ก็ปั่นป่วนขึ้นมาอย่างน่าอึดอัด
อ๋องหรงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กอดไป๋ชิงหลิงไว้ในอ้อมแขนของเขา และพูดว่า “พระชายา ไม่ต้องดูแล้ว เราไปกันเถอะ”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจ แต่พวกเขายังยากที่จะปกป้องตัวเองเลย
เขาไม่ได้เป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ ที่จะยอมแลกชีวิตของตัวเองเพื่อชีวิตของคนอื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าไป๋ชิงหลิงยังมีชีวิตน้อย ๆ อยู่ในท้องอีกหนึ่งชีวิต
แต่ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะทันได้ตอบ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอก “แม่ทัพเสิ่นหรูเหลียนถวายความเคารพต่ออ๋องหรงและพระชายาหรง……”
ไป๋ชิงหลิงตัวสั่น มือสองข้างกำเสื้อผ้าของอ๋องหรงแน่น และมองไปที่ประตูบ้านไม้ที่ปิดสนิท
ไม่นาน เสียงฝีเท้า “ตั้ง ตั้ง ตั้ง” ก็ดังมาจากด้านนอก
ไป๋ชิงหลิงกอดอ๋องหรงแน่นขึ้น และพูดด้วยความขมขื่น “อาเยี่ย เราไปไม่ได้แล้ว”
“พระชายา ข้าสามารถพาเจ้าออกไปได้”
“ไม่ มีคนจะต้องตาย” ไป๋ชิงหลิงไม่ต้องการเห็นคนเหล่านั้นโดนตัดหัวเพราะนาง นางปล่อยมือจากหลังของเขา หันไปมองชายที่อยู่ข้างหลังนางแล้วพูดว่า “ในเมื่อไม่สามารถออกไปได้ งั้นก็ทำการผ่าตัดนี้ให้เสร็จแล้วค่อยไป ท่านจะสนับสนุนข้าไหม”
“ไม่แนะนำ!”อ๋องหรงยังคงสนใจร่างกายของนางมากกว่า
ครั้งหนึ่งขณะที่นางกำลังผ่าตัดคนไข้ เขาเคยรอนางเป็นเวลาห้าชั่วโมงเต็ม
หงเหนียงบอกนางว่าการผ่าตัดของไป๋ชิงหลิงจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และอาจนานกว่าห้าชั่วโมง...
เขาไม่เต็มใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...